สังคม

เปิดค่าตัว 'ทนายตั้ม' แจงเก็บค่าแถลงข่าว 3 แสน ป้องกันการถูกฟ้อง ยันรวยเพราะทำงาน ไม่ได้โกงใคร

โดย nattachat_c

28 มี.ค. 2566

119 views

ทนายตั้ม โดนนักข่าวจี้คิดค่าแถลงข่าว ก่อนรับเก็บจริง 3 แสน อ้างเก็บเพียง 2 เคส แจงเป็นค่าป้องกันการถูกฟ้องในอนาคต ชี้ ทีมงานใช้คำผิด ก่อนโยนมีทนายหญิงเรียกเก็บค่าออกรายการดัง ท้าให้ถามหนุ่ม กรรชัย ดู ก่อนโต้ ใช้ชีวิตหรูหรา แต่ไม่ทำธุรกิจสีเทา เหน็บชูวิทย์เคยทำธุรกิจสุจริตหรือไม่ ปัดหลอกใช้สื่อเป็นเครื่องมือ น้อมรับหากโดนสื่อบอยคอต


จากกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับการทำงานของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม ซึ่งมีใบเอกสารแจ้งเกี่ยวกับค่าดำเนินการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จำนวน 300,000 บาท ซึ่งสร้างความสะเทือนทั้งวงการสื่อมวลชน และวงการทนายความ


ล่าสุด ทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนชี้แจงประเด็นนี้ว่า ที่นัดสื่อมาตั้งใจแถลง เรื่องตำรวจ ปปง. ที่เกี่ยวข้องทุนสีเทา แต่เมื่อคืนเกิดเรื่องเกี่ยวกับรายละเอียดการทำงาน ซึ่งเป็นใบเสนอราคาของสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ที่นายชูวิทย์นำมาเปิดเผยนั้น


ทนายตั้มเริ่มต้นว่าครั้งแรกในการแถลงวันนี้มีกระแสข่าวว่านายชูวิทย์ จะเดินทางมาที่สำนักงานทนายตั้มด้วย โดยฝ่ายอาคารแจ้งว่าจะเดินทางเข้ามาที่สำนักงานทางทนายตั้มก็อนุญาตให้เข้ามา แต่จากการตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่ได้เข้ามาเนื่องจากนายชูวิทย์อยู่ที่ศาล


จากนั้นทนายตั้มก็เริ่มด้วยการทำท่าเลียนแบบคล้ายคุณชูวิทย์ในลักษณะชี้นิ้วและทำหน้าตึงบอกว่า “กูไม่กลัวพี่”


และเริ่มชี้แจงเรื่องใบเสนอราคาการทำงานของสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ว่า ผมเป็นทนายตั้งแต่ปี 2547 จบเนติบัณฑิต ตั้งแต่ที่เรียนจบมาก็ไปตั้งโต๊ะช่วยเหลือประชาชนให้ความรู้เกี่ยวกับคดีความ และเคยไปช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องคดีความจนคดีสำเร็จ และครอบครัวนี้ก็ให้ฉายาว่าสมแล้วกับที่เป็น “ทนายประชาชน” ตนเห็นว่าชื่อนี้เท่ดีจึงนำมาเป็นเสื้อที่สกรีนใส่ไว้สำหรับออกไปช่วยเหลือ


นอกจากนี้ ยังมีการไปอบรมให้ความรู้ ให้ความรู้ประชาชนเรื่องกฎหมาย ไปตามโรงเรียนต่างๆ เด็กๆ ก็ชอบ และสมัย อดีตรมต.ยธ คนเก่า ชอบในโครงการที่ตนให้ความรู้กับนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ก็เลยให้ไปทำโครงการสอนประชาชน


ปี 2559 ตั้งมูลนิธิทนายเพื่อประชาชน ช่วยประชาชนฟรี และมาดังจากคดี หวย 30 ล้าน


แล้วมาถึงจุดเปลี่ยน คดีบ้านกกกอก ช่วยลุงพล แต่ลูกความทำไม่ดีกับผม ไปบอกเอฟซีได้รับความเสียหาย ตอนทำคดีลุงพล ไม่มีงานจ้าง ไม่มีเงิน เข้าบริษัท 6 เดือน เพราะคนเกลียด


“ตอนนั้นลูก และครอบครัวและตนเองก็ลำบาก อยากกินอะไรก็ไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน ช่วงนี้ทนายตั้ม น้ำตาคลอและขอพักชั่วคราว โดยบอกว่ามันจุกอกกับสิ่งที่คำพูดของลูกพี่พูดว่า “ป๊ะป๊าทำให้แต่คนอื่น”


คำพูดลูก สะเทือนใจมาก ผมเลยกลับมาคิดว่า จะทำธุรกิจ จึงเปิดบริษัทษิทรา ลอว์เฟิร์ม เป็นธุรกิจ รับว่าความ และไม่ได้ใส่เสื้อทนายประชาชน


ที่ผ่านมายอมรับว่า มีการเก็บเงิน ค่าแถลงข่าว 2 คดี คือ คือ อดีตรองนายก และคดีของ คุณช่อฉัตร ซึ่ง การที่ต้องเก็บเงินค่าแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่เป็นการนำเงินมาจ้างนักข่าวทำข่าว


“แต่เป็นเงินที่ตนเองต้องกันไว้ เนื่องจากคดีที่จะทำนั้นต้องถูกฟ้องกลับดังนั้นเงินส่วนนี้จึงเป็นเงินที่ใช้เตรียมดำเนินการหากต้องถูกฟ้องกลับ” ไม่ใช่เป็นเงินการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยอมรับว่าใช้คำผิดกับในเอกสารบิลใบเสร็จนั้น จากนี้จะเปลี่ยนคำไม่ใช้คำเกี่ยวกับการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกแล้ว จะเป็นค่าดำเนินการ


“ขอโทษที่ใช้คำผิดจนทำให้สื่อมวลชนหลายสำนักเกิดความไม่สบายใจ และยืนยันว่าตนไม่ได้ใช้สื่อมวลชนเป็นเหยื่อ เวลาที่แถลงข่าวนักข่าวก็ได้ผลงานแต่ละสำนักก็ได้งาน ตนก็ได้ชี้แจงเกี่ยวกับคดีสำคัญ”


ส่วนคดีไม่ได้สำคัญก็ไม่ได้แถลงข่าว สำหรับเงินที่ต้องเรียกจากลูกความนั้นยอมรับว่าเป็นเงินในการต่อสู้คดี หากต้องถูกฟ้องร้องกลับ อยากให้สังคมเข้าใจว่า เวลาที่ทำงานที่มีลูกความมาปรึกษาให้ตนเป็นทนายความนั้น จะทำหน้าที่เหมือนโล่ปกป้อง ไม่ให้ลูกความได้รับความเดือดร้อน


“ผมสู้คดี ผมสู้กับคนมีอิทธิพล บางเรื่องรู้ตัว ผมถูกฟ้องแน่นอน” การเรียกเงินส่วนนี้ ก็เรียกแค่ 3 แสนบาท ตามกำลังของลูกความ


ส่วนใบเสร็จที่คุณชูวิทย์นำมาเปิดเผยทาง Facebook นั้น ขอยืนยันว่ายังไม่ได้เป็นการรับงานเป็นเป็นเพียงแค่ใบเสนอราคาเท่านั้น โดยลูกความคนนี้มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องพนันออนไลน์ให้ช่วยตรวจสอบไปที่สอท. และอดีตผู้บัญชาการ สอท.คนเก่า


ซึ่งตนก็ได้แจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายไปให้ และยังไม่ได้มีการตกลงว่าจะว่าความหรือไม่ หลังจากนั้น ลูกความคนนี้ก็ยังไปปรึกษาทนายคนอื่นๆ และนำเอกสารไปให้นายชูวิทย์


สำหรับ เงินที่เรียกจากลูกความไป 300,000 บาทนั้น ไม่ถือว่ามาก เพราะต้องต่อสู้กับอะไรหลายอย่าง และไม่มีการเรียกร้องเพิ่มเติม ผมไม่ไปเรียกร้องอะไรเพิ่ม โดยหากจะปรึกษาคดีความกับทนายตั้ม มีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้

  • ค่าปรึกษา ทางโทรศัพท์ ครั้งละ 20 นาที1000บาท แต่ถ้าคุยโทรศัพท์ กับทนายตััม 1500 บาท
  • ค่าปรึกษาเจอตัว 20 นาที 3000 บาท


การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งคือ ค่าเตรียมใช้ในการถูกฟ้องกลับเก็บเฉพาะคดีใหญ่ และมีกำลังจ่าย จำนวน 3 แสนบาท

  • ขั้นตอน ติดตามคดี ไม่เรียกเก็บ
  • ขั้นการ ดำเนินคดี  ไม่เรียกเก็บ
  • ขึ้นว่าความ หากชนะคดี ลูกความก็ต้องจ่าย 10-15%


ขอยืนยันว่า รายได้ทั้งหมดนั้นเกิดจากการทำงานของตนเอง ไม่ได้ไปมุบมิบหรือรับเงินจากใคร และชีวิตที่เปลี่ยนไป ก็เพราะมีรายได้จากการทำงาน จึงพาครอบครัวไปพักผ่อนต่างประเทศ และก็มีลูกความที่เคยซื้อของมาฝาก เช่น เสื้อแบรนด์เนมต่างๆ แล้วตลอดชีวิตที่ทำงานเป็นทนายความมา ไม่เคยเรียกรับเงินรับจ้างวานงาน


ทนายตั้มยังบอกว่า การทำตัวเปลี่ยนแปลงไปทั้งการแต่งกายเสื้อผ้าแบนเนมทั้งตัว หรูหรา ไปเที่ยวต่างประเทศ  “ก็เงินของผม ผมจะไปพักผ่อน ผมไม่ได้ใช้เงินไปเลี้ยงอีหนู”


ส่วนการเสียภาษีของบริษัทนั้น ทนายตั้มยืนยันว่า มีการจ่ายภาษีถูกต้อง ทำให้รัฐ ทำให้ถูกต้อง และไม่เคยเอาเงินมางุบงิบผิดกฎหมายอะไรเลย


หากจะเปรียบเทียบ ก็เหมือนกับคุณชูวิทย์ ที่ทำโรงแรม ก็ไม่ได้เปิดให้คนเข้าพักฟรี ตนก็เหมือนกันเป็นสำนักงานทนายความ ทำธุรกิจก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นปกติ


ส่วนเรื่องข่าวที่ออกมาแฉคุณชูวิทย์ เรื่องถุงใส่เงินนั้นจริงๆ แล้ว ตนแค่แฉนิดเดียว แต่คุณชูวิทย์ตกหลุมพราง แล้วยังจะไปรับสารภาพ เพราะคุณชูวิทย์ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย ที่จริงเรื่องเหล่านี้จะจบลงง่ายๆ แต่เพราะคุณชูวิทย์ตกหลุมพรางของตนเองที่ออกมายอมรับสารภาพ และก็ทำให้ต้องมีการดำเนินการในการตรวจสอบตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


โดยสรุปแล้ว ทนายตั้มขอยืนยันว่าบิลใบเสร็จที่เกี่ยวข้องกับการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น ไม่ได้ใช้สื่อมวลชนเป็นเหยื่อ ไม่ได้หลอกใช้สื่อ หากสื่อจะแบนก็ยอมรับ

----------------

วานนี้ (27 มี.ค. 6) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก บิ๊กบิล์ แอนด์ดีไซน์ ได้โพสตข้อความ ระบุว่า “เห็นข่าวดังวันนี้ ที่มีคุณช.ออกมาพูดถึงทนายดังเรื่องค่าดำเนินการในการแถลงข่าว ซึ่งเรื่องนี้มันเกือบเกิดขึ้นกับตัวเราเช่นกัน เรื่องราวนี้มันเกิดขึ้นก่อนที่ผมจะได้ออกรายการโหนกระแส โดยได้รับความเมตตาจากเพจ Drama-addict ได้ช่วยประสานกับพี่หนุ่มกรรชัยให้ผมในเรื่องคดีพลอยแดง **ย้ำว่าก่อนออกโหนกระแสนะครับ**


ด้วยความที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากจะมีที่พึ่งทางกฎหมาย จึงได้พยายามติดต่อหาทนายของประชาชนท่านนึง แต่มีค่าบริการในการพูดคุยทางโทรศัพท์ 1,500 บาท ได้คุยกับทนาย 20 นาที ด้วยความหวังแห่งทางสว่าง เราจึงทำตามขั้นตอนของทางไลน์ Official โดยโอนเงิน 1,500 เพื่อที่จะปรึกษาทนายในเวลา 20 นาที พอทนายรับสายเราก็แนะนำตัวเเละปรึกษาเรื่องคดีพลอยแดงประมาณ 2 นาที ทนายบอกว่าเรื่องนี้ต้องออกสื่อ ให้เข้ามาคุยกันที่สำนักงาน และทิ้งท้ายบอกว่าให้นัดกับเลขาต่อเลย และก็วางสาย และเลขาบอกว่าต้องชำระเพิ่มอีก 3,000 เพื่อลงคิวนัดเข้าพบที่สำนักงาน


มจ่ายตังเพื่อคุย 20 นาที และอยากจะปรึกษาแนวทางกับคุณก่อนทางโทรศัพท์ แต่ยังไม่ทันคุยรายละเอียดคุณก็ตัดบท 1,500 ของผมคุ้มมั๊ยกับเวลา 2 นาที ทำไมไม่ให้ผู้ใช้บริการใช้สิทธิของเค้าให้เต็มที่


ถ้าผมมีเงินผมคงโดนค่าแถลงข่าวด้วยแน่ๆ เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร


โพสต์ยังมีภาพสลีปโอนเงินจำนวน 1500 บาท และมีรายละเอียด ค่าปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์กับทีมทนาย ครั้งละ 20 นาที ราคา 1000 บาท / ปรึกษากับตัวทนายโดยตรง 20 นาที ราคา 1500 บาท / ค่าปรึกษากับทนายโดยตรงที่สำนักงาน 20 นาที ราคา 3000 บาท



โพสต์ดังกล่าวยังมีแชทสนทนา โดยมีการขอคิวปรึกษาทนาย พร้อมรายละเอียดการชำระเงิน โดยหลังจากมีการโทรคุยกันประมาณ 2.30 นาที ทางฝั่งลูกความได้มีการขอให้นัดคิวเพื่อเจอทนายที่สำนักงาน พร้อมได้มีการสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายในวันเข้าพบว่า พอจะช่วยเหลือกันก่อนได้หรือไม่ เพราะทางทนายเองก็สนใจคดีดังกล่าว และอยากให้เข้ามาคุยที่สำนักงาน พร้อมย้ำทิ้งท้ายไปว่า “ได้คุยกันแค่ 2 นาทีเอง”


ทั้งนี้ ผู้โพสต์ดังกล่าวเป็นผู้เสียหายจากกรณีคดีดังเมื่อ 29 ปีก่อน คดีขโมยพลอยแดง ขนาดใหญ่ 2 ก้อน มูลค่า 1,300 ล้านบาท ที่นักธุรกิจ 4 คนซึ่งเป็นเพื่อนกันได้ร่วมหุ้นกันซื้อ และเตรียมจะขายต่อให้นักธุรกิจสหรัฐฯ แต่กลับถูกหนึ่งในหุ้นส่วนหักหลัง ร่วมมือกับตำรวจ จัดฉากการจับกุม ยึดพลอยไป ก่อนพลอยหายไร้ร่องรอย ผ่านมา 29 ปี ศาลฎีกาตัดสินให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้เงินให้ผู้เสียหาย 157 ล้าน กระทั่งเวลาผ่านไป ยังไม่ได้เงินสักบาทเดียว


จนได้มีการติดต่อทนายดังเพื่อสู้คดี และได้เสียเงินค่าปรึกษา 1,500  บาท โดยได้มีการพูดคุยกันไม่ถึง 2 นาที และทางทนายบอกว่า เรื่องนี้ต้องออกสื่อ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยต่อ กระทั่งต่อมา ได้มาออกรายการโหนกระแสเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีแอดมิน เพจ drama-addict ประสานงานให้

----------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/yyK1Wpw_7oA

คุณอาจสนใจ

Related News