เจ้าของโรงงานปืนลั่นใส่เสมียน ไล่ยิงคนงาน เสียชีวิตแล้ว ภรรยาเผยสามีเครียดสะสมเรื่องธุรกิจ

วันที่ 26 มี.ค. 66 พ.ต.อ.พงษ์สัณห์ มีศรี ผกก.สภ.บางปะกง พ.ต.ท.อำนาจ ยิ้มเนียม รองผกก.ป.สภ.บางปะกง พ.ต.ต.ปรีชา เข็มศิริ สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง ชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา กู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกง ตรวจสอบเหตุยิงกันภายในบริษัทแห่งหนึ่ง ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พบนายภูมิพัฒน์ อายุ 39 ปี เจ้าของบริษัท มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัดโดยพบอาวุธปืน แม็กกาซีน ขนาด11 มม.ตกอยู่ ข้างตัว

โดยนายภูมิพัฒน์นอนหายใจรวยริน มีเลือดออกจากศีรษะจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาลแล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์11 ส่วนบริเวณชั้นสามพบ น.ส.หทัยภัทร อายุ 28 ปี ทำหน้าที่เสมียน ถูกยิงเข้าที่หน้าอก 1 นัด นอนหายใจรวยรินอยู่กลางออฟฟิศ เจ้าหน้าที่เร่งทำการช่วยเหลือแล้วนำลำเลียงลงบันไดจากชั้นสามแล้วนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 เช่นเดียวกัน โดยเมื่อถึงโรงพยาบาลนายูมิพัฒน์ หัวใจหยุดเต้นถึง 2 ครั้งเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปั๊มหัวใจเกือบ 2 ชั่วโมงจน ยื้อชีวิตกลับมาได้ ส่วนน.ส.หทัยภัทร นั้นหลังจากเอ็กซเรย์แล้วพบว่ากระสุนไม่ถูกจุดสำคัญก็เตรียมย้ายไปโรงพยาบาลวิภาราม ที่จ.ชลบุรีเพื่อทำการรักษาต่อไป ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนบนออฟฟิศชั้น 3 จำนวน 2 ปลอก และบริเวณใต้บันไดจำนวน 4 ปลอก ก่อนที่ตำรวจจะเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นสอบสวนน.ส.ชญานิศ อายุ 39 ปี ภรรยาของนายภูมิพัฒน์ ให้การว่าทางญาติพี่น้องดูกล้องวงจรปิดเห็นสามีก้มหน้าอยู่ในห้องทำงานเหมือนหยิบอาวุธปืนออกมาซึ่งก้มอยู่หลายนาที ทำให้ตนเองกลัวว่าสามีจะยิงตัวเอง เลยกำลังเรียกลูกน้องที่ทำงานอยู่ด้านล่างขึ้นบันไดไปที่ออฟฟิชชั้น 3 เพื่อไปช่วยแย่งปืนจากนายภูมิพัฒน์ ที่นำปืนออกมาแล้วจะยิงตัวเอง ช่วงจังหวะที่ น.ส.ชญานิศเข้าไปล็อกตัว เพื่อแย่งปืนเป็นจังหวะเดียวที่ปืนยังอยู่ในมือของนายภูมิพัฒน์แล้วหันปืนมาลั่นใส่น.ส.หทัยภัทร เข้าที่หน้าอก1นัดก่อนล้มลงได้รับบาดเจ็บสาหัส

ก่อนนั้น นายภูมิพัฒน์ก็เกิดคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนไล่ยิงคนงานชาวเมียนมาร์ที่จะเข้ามาช่วยจนต้องหนีตายลงบันไดซึ่งนายภูมิพัฒน์ก็วิ่งไปไล่ยิงอีก 2-3นัด ก่อนจะเดินอยู่ที่ช่วงพักบันไดชั้นสองแล้วใช้อาวุธจ่อยิงขมับขวาแล้วล้มลงได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุน.ส.ชญานิศ ได้โทรตามคนรู้จักให้เรียกรถพยาบาลให้มารับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่ง น.ส.ชญานิศ เผยว่าสามีนั้นมีความเครียดสะสมจากเรื่องธุรกิจรีไซเคิล อีกทั้งเรื่องของหาย ซึ่งตนพยายามบอกให้ไปหาหมอเพื่อรักษาอาการเครียดดังกล่าว

ด้านนางซา อายุ 40 ปี คนงานสัญชาติเมียนมาร์ ให้การว่าขณะเกิดเหตุตนทำงานอยู่ด้านล่างพอภรรยาของเจ้าของเรียกว่าให้ขึ้นไปช่วยก็รีบขึ้นไปเป็นคนที่สาม แต่พอขึ้นไปก็จะเข้าไปช่วยแย่งปืน จู่ๆ เสียงปืนก็ดังขึ้น1นัด จากนั้นตนเห็นน.ส.หทัยภัทรล้มลงตนก็ตกใจก่อนจะได้ยินปืนอีก 1 นัด ทำให้ต้องรีบล้มตัวหนีตายแล้ววิ่งลงบันได จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนไล่หลังมาอีกแต่ไม่ได้นับก่อนจะรีบวิ่งไปหลบ จนสิ้นเสียงปืนจึงเดินออกมาดูก็พบว่าเจ้าของโรงงานยิงตัวเองไปแล้ว ซึ่งเบื้องต้นสาเหตุทางตำรวจจะสอบสวนบุคคลในบ้านเพิ่มเติม

ส่วนล่าสุดนายภูมิพัฒน์ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากแพทย์ทำการปั๊มหัวใจอยู่หลายชั่วโมง ส่วนอาการของ น.ส.หทัยภัทร นั้นปลอดภัยแล้ว