สังคม

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ปคบ. ร่วม สสจ.ชลบุรี ลุยต่อเนื่อง รวบ 3 หมอเถื่อน

โดย onjira_n

24 มี.ค. 2566

3.1K views

วันที่ 24 มีนาคม 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์  รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ  นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา  กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., ว่าที่ พ.ต.อ.สุพจน์  พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี โดย นายแพทย์อภิรัต  กตัญญุตานนท์ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติกรณีจับกุม บุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์ทำการรักษาโรคให้ประชาชนทั่วไป 3 ราย ตรวจค้นคลินิก 3 จุด  

พฤติการณ์ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เข้าตรวจค้นคลินิกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี จำนวน 2 จุด ดำเนินคดีคลินิกเถื่อน และจับกุมแพทย์เถื่อน 2 ราย เนื่องจากส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนโดยตรง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าระวังการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งต่อมา กก.4 บก.ปคบ. ได้รับการประสานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) ว่ามีประชาชนแจ้งเบาะแสให้ทำการตรวจสอบคลินิกที่เปิดดำเนินกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และรักษาโดยบุคคลอ้างตัวเป็นแพทย์ซึ่งไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ในพื้นที่เขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงลงพื้นที่ทำการสืบสวนพบว่า มีการเปิดคลินิกโดยมีบุคลากรที่ไม่ใช่แพทย์ทำการรักษาให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปจริง จนนำไปสู่การตรวจค้นจับกุมในครั้งนี้  

โดยในวันที่ 21 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี นำหมายค้นของศาลจังหวัดชลบุรี เข้าตรวจค้นสถานพยาบาลในพื้นที่ จ.ชลบุรี จำนวน 3 จุด รายละเอียดดังนี้

1. คลินิกเสริมความงามบนห้างแหลมทอง ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ภายในห้างสรรพสินค้าแหลมทองบางแสน เลขที่ 278/2 ถนนลงหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี พบว่าคลินิกดังกล่าวเปิดให้บริการเสริมความงามแก่ประชาชนทั่วไป และพบ น.ส.ริญญาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ทำการฉีดวิตามินบำรุงผิวเข้าเส้นเลือดให้กับผู้มารับบริการ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่า สถานพยาบาลดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และไม่มีใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล อีกทั้ง ผู้ทำการตรวจรักษา ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดย น.ส.ริญญาภัทร ฯ กล่าวอ้างว่าจบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ไม่มีงานประจำเป็นหลักแหล่ง โดยรับจ้างทำหัตถการตามคลินิกต่างๆ (การใช้เข็มฉีด หรือใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์กับร่างกายตามแพทย์สั่ง) แล้วแต่จะมีผู้ใดจ้างไปทำงาน โดยก่อนถูกจับกุมได้เดินทางไปเที่ยวในพื้นที่ เขตพัทยา จ.ชลบุรี ในระหว่างนั้นต้องการหาค่าเดินทาง จึงเข้าไปหางานในกลุ่มหางานพยาบาล จากนั้นจึงสมัครและมาทำงานคลินิกดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยปกติจะรับงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม น.ส.ริญญาภัทร ฯ พร้อมตรวจยึดยาแผนปัจจุบันที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง และยาแผนปัจจุบันที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำนวน 16 รายการ ตรวจยึดเวชระเบียนผู้มารับบริการ, วัสดุ อุปกรณ์ เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี  

2. คลินิกเสริมความงาม ย่านบางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี พบว่าคลินิกดังกล่าวเปิดให้บริการเสริมความงามแก่ประชาชนทั่วไป และพบ น.ส.ฐาปณีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ทำการฉีดวิตามินบำรุงผิวเข้าเส้นเลือดให้กับผู้มารับบริการ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่า สถานพยาบาลดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และไม่มีใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล อีกทั้ง ผู้ทำการตรวจรักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไปนั้น ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดย น.ส.ฐาปณีย์ฯ รับว่า จบการศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 และไม่มีเคยมีประสบการณ์ หรือความรู้ทางการแพทย์มาก่อน โดยทำมาแล้วประมาณ 2 เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม น.ส.ฐาปณีย์ ฯ และได้ตรวจยึดยาแผนปัจจุบันที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง และยาแผนปัจจุบันที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำนวน 70 รายการ ตรวจยึดเวชระเบียนผู้มารับบริการ, วัสดุ อุปกรณ์ เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี

3. คลินิกเวชกรรม พื้นที่ ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบพบว่าคลินิกดังกล่าวเปิดรักษาโรคทั่วไปให้กับประชาชน โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น พบ นายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี แสดงตัวเป็นแพทย์ ทำการตรวจรักษา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบ พบว่าสถานพยาบาลดังกล่าว มีใบประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบดำเนินการสถานพยาบาลถูกต้อง แต่แพทย์ที่ทำการรักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไปนั้นไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยนายอาทิตย์ฯ รับว่าเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และรับว่าคลินิกดังกล่าวมี ภรรยา เป็นผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ประกอบกับตนเองพอจะมีความรู้ด้านการรักษา ประกอบกันกับเนื่องจากค่าจ้างแพทย์แพง เพื่อประหยัดต้นทุนจึงทำการตรวจรักษาเอง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม นายอาทิตย์ฯ พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ในการรักษา และยาแผนปัจจุบัน จำนวน 6 รายการ เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี  

รวมตรวจค้นคลินิก 3 จุด แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา 3 ราย ดังนี้

1. น.ส.ริญญาภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา  

2. น.ส.ฐาปณีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

3. นายอาทิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

อนึ่ง การปล่อยให้บุคคลที่มิใช่แพทย์มาให้บริการรักษา ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ปล่อยปละละเลยให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีคำสั่งทางปกครองให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว หรืออาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตได้ โดยหากพบการกระทำความผิดพนักงานสอบสวนจะมีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

การกระทำของผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นความผิดตาม

1. พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

2. พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  

3. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

4. พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี

หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ก่อนเข้ารับการรักษาโรค หรือเสริมความงาม ตามสถานพยาบาลต่างๆ ควรตรวจสอบการได้รับอนุญาตของคลินิกและแพทย์ที่ทำการรักษาก่อนในเบื้องต้น เพราะอาจทำให้ได้รับความเสี่ยงในการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ไม่ถูกต้องจากบุคลากรที่ไม่ใช้แพทย์ และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนหากพบสถานพยาบาลหรือแพทย์ที่ต้องสงสัยว่าอาจอยู่ลักษณะหมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค



คุณอาจสนใจ