เจอตัวแล้วอาจารย์ล่องหน จัดทัวร์ญี่ปุ่นทิพย์ หลอกนักเรียนสูญเงินนับล้าน

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. , พ.ต.อ.ธนนท์ โตงิ้ว รอง.ผบก.ทล., พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล., พ.ต.ท.ยุทธนัน จันทร์เนตร รอง ผกก.5 บก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. ทำการติดตามกรณีอาจารย์รายหนึ่ง หลอกนักเรียนซื้อตั๋วเที่ยวญี่ปุ่น แต่สุดท้ายกลับล่องหนหายไปพร้อมเงินนับล้าน



สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ได้ปรากฏมีประเด็นทางออนไลน์ ว่ามีนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งเกือบ 40 คน กำลังเดือดร้อน เนื่องจากถูก นายชลัท ซึ่งเป็นอาจารย์โรงเรียน โกงค่าทัวร์ทิพย์รวมมูลค่าหลายล้านบาท โดยนายชลัท ได้แจ้งกับทางนักเรียนว่า ที่บ้านทำธุรกิจทัวร์ จึงจะรับผิดชอบการเดินทางไปญี่ปุ่นของนักเรียน ผู้ปกครอง และอาจารย์คนอื่นๆของโรงเรียนในครั้งนี้ ทั้งนี้นายชลัท ได้คิดค่าทัวร์กับผู้เดินทางคนละประมาณ 50,000 บาท



โดยก่อนเดินทาง นายชลัท ได้แจ้งกับผู้เดินทางว่า ได้เตรียมตั๋วเครื่องบินต่างๆเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงวันเดินทาง คณะผู้เดินทางกลับพบว่านายชลัท ได้หายตัวไป และเมื่อสอบถามทางเคาน์เตอร์สายการบิน พบว่าไฟลต์บินตามกำหนดเดินทางนั้นเต็มไปแล้ว และไม่มีชื่อของผู้เดินทางจากโรงเรียนดังกล่าวในไฟลต์บินแต่อย่างใด



ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. (พิษณุโลก) ได้ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เนื่องจากมีรายงานมาว่ามีขบวนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ใช้เส้นทาง ทล.126 เป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกระทำความผิด จึงได้ทำการออกตรวจพื้นที่อย่างละเอียด เมื่อเจ้าหน้าที่ออกตรวจมาถึงบริเวณแยกหนองอ้อ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ปรากฏพบรถต้องสงสัย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ จึงแสดงตัวขอทำการตรวจสอบ พบนายชลัท อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว



จากการตรวจสอบภายในรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้บริเวณเบาะนั่งผู้โดยสารฝั่งซ้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเตาอั้งโล่พร้อมถ่านฟืน และจดหมายสั่งเสียฉบับหนึ่งเขียนด้วยลายมือนายชลัท จึงได้ขอเชิญตัวนายชลัท มาพักสงบสติอารมณ์ ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงสีหราชเดโชชัย พร้อมกับพูดคุยปรับทุกข์ และหาสาเหตุ รวมถึงเหตุจูงใจ



ทราบว่าก่อนหน้านี้ นายชลัท ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ทำโปรแกรมศึกษาดูงานของนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ต่อมานายชลัท มีปัญหาในด้านการเงินจึงได้กระทำการดังกล่าว และได้มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมาพบก่อน จึงสามารถยับยั้งเหตุดังกล่าวได้ทัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมารับตัวนายชลัท เพื่อดำเนินการต่อไป