สังคม

"ชูวิทย์" ปัดไม้ขนไก่ป้ายกระทรวงคมนาคม แฉปมทุจริต คค.เผย เบื้องต้นรับเรื่องไว้แล้วส่งตรวจสอบตามขั้นตอน

โดย kanyapak_w

7 มี.ค. 2566

274 views

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถือไม้ปัดขนไก่ และไม้กวาด แสดงเชิงสัญลักษณ์ทำความสะอาดบริเวณหน้าป้ายกระทรวงคมนาคม จากนั้นมอบแจกันดอกไม้ ติดป้ายกระดาษที่เขียนว่า “ปราบโกง” ให้กับ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมหอบเอกสารหลักฐาน ให้ตรวจสอบปม การทุจริตคอรัปชัน ที่เกิดขึ้นในช่วงที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ บริหาร และยื่นหนังสือร้องเรียนให้ นายอธิรัฐ ตรวจสอบเรื่องที่ นางสุขสมรวย เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงนามเอกสาร แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม



โดยยื่นเอกสารกรณีหนังสือเร่งรัดและบริหารสัญญาโครงการ ของกรมทางหลวงชนบท จำนวน 9 รายการ เม็ดเงินกว่า 322 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2566 ถือเป็น การใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต ควบคุมงบประมาณและสั่งการแทนรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง พร้อมระบุนางสุขสำรวยมีสามีเป็นระดับรองผู้การอำนาจเจริญ ซึ่งทั้งคู่มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้ที่ต่อต้านนางสุขสำรวยในจังหวัดอำนาจเจริญอยู่เสมอ



อีกทั้งให้ตรวจสอบ นางสุขสำรวยเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเลขาของนายสุทัศน์ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และมีพฤติกรรมข่มเหง ใช้อำนาจบีบบังคับคน ภายใต้เงาของนายสุทัศน์เรื่อยมา โดยบีบเอาเปอร์เซนต์โครงการที่นายสุทัศน์ เอาลงมาขายงานกับอบต. ทำให้มีฐานะร่ำรวยอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ครอบครัว พ่อเป็นบุคคลล้มละลาย และน้องชายนางสุขสำรวยที่ชื่อนายบอย ยังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีตำแหน่งใหญ่โต จัดการงบประมาณทั้งหมดของชลประทาน เขต 7 ในจังหวัดอุบลราชธานี รวมไปถึงภาคอีสานหลายแห่ง ซึ่งงบประมาณดังกล่าวต้องผ่านนางสุขสำรวยทั้งหมด



สำหรับหลักฐาน การฮั้วประมูลของกระทรวงคมนาคม รวม 40 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1200ล้านบาท เพื่อป้อนงานรับเหมาให้ตระกูลชิดชอบ , ตรวจสอบกรณีบริษัทบุรีรัมย์พนาสิทธิ์ที่ได้งานไป ตรวจสอบหจก. หจก.หนึ่ง ของนายศักดิ์สยาม ที่ใช้นายศุภวัฒน์ เป็นนอมินี ซึ่ง หจก. ดังกล่าวประมูลของกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบทในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 1% แทบทุกงาน และทุกงานจะมีบริษัทแห่งหนึ่งเป็นคู่เทียบประมูลเสมอ โดยแกล้งแพ้ให้หจก. แต่หากเป็นงานนอกบุรีรัมย์ หจก.ฯ จะเสนอต่ำกว่าราคากลาง 20-30% เพราะฮั้วไม่ได้



พร้อมโชว์เอกสาร บริษัทฯ ที่บริจาคให้พรรคภูมิใจไทย 5 ล้านบาท ส่วนหจก.ฯ บริจาคให้พรรคภูมิใจไทย 4.8 ล้านบาท ขณะที่นายศุภวัฒน์ นอมินีนายศักดิ์สยาม บริจาคให้พรรคภูมิใจไทย 7.5 ล้านบาท



รวมไปถึงกรณีบริษัทอีก 2 บริษัทที่ได้งานรถไฟฟ้าสัมปทานรางคู่ ไม่ต่างจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงที่สองที่มีการคอรัปชันเหมือนกัน 



นอกจากนี้ยังขอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพฤติกรรมของนายภคพงศ์ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งได้รับร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมชู้สาวกับลูกน้องในรฟม. (ชื่อว่าโอปอล) และเมื่ออยู่ในตำแหน่งก็มีฐานะร่ำรวยขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความสนิทสนมกับนายปลิว จึงเป็นที่มาของการฮั้วประมูล รถไฟสายสีส้ม ซึ่งทั้งสองเรื่องถือเป็นการไร้จริยธรรมและผิดวินัยทางราชการอย่างร้ายแรง



รวมทั้งกรณีผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ กรณีที่ดินเขากระโดง ที่ดินของรฟท. โดยขับไล่เฉพาะชาวบ้านทั่วไป แต่ไม่ฟ้องขับไล่ตระกูลชิดชอบ และหลีกเลี่ยงโดยใช้วิธีฟ้องศาลปกครองแทนเพื่อยื้อเวลา ซึ่งล่าสุด ได้สั่งการให้อธิบดีกรมที่ดิน เพิกถอนโฉนดแล้วโดยไม่รอให้รฟท.ยื่นฟ้อง



ด้านนายอธิรัฐ กล่าวว่าจะเร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในแต่ละเรื่อง ส่วนโครงการรถไฟสายสีส้ม คงต้องชะลอการส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรอการตรวจสอบก่อนหากพบข้อผิดสังเกต ในกรณีนางสุขสำรวยลงนามแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมนั้น โดยหลักการแล้วในฐานะเลขานุการรัฐมนตรีไม่สามารถลงนามแทนได้ แต่คงต้องไปดู เรื่องการมอบหมายและเนื้อหาในเรื่องนั้นนั้น



ทั้งนี้ในชูวิทย์ ยอมรับโดยตรงว่าตั้งใจมาแฉในช่วงเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน หากแฉก่อนหน้านี้ก็คงจะไม่เกิดผลอะไร



ล่าสุด นายอธิรัฐ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการในแต่ละเรื่อง ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่นายชูวิทย์ ได้มายื่นหนังสือในวันนี้ ซึ่งในส่วนของกรณีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น จากการหารือเบื้องต้นกับผู้ว่าการ รฟม.เมื่อวานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป 100% เนื่องจากยังมีคดีการฟ้องร้องที่ศาลยังไม่วินิจฉัยตัดสินใน 3 คดี จึงต้องมาพิจารณารายละเอียดให้รอบครอบอีกครั้ง โดยจะพยายามทำให้เร็วที่สุด จะทำให้ทุกเรื่องมีคำตอบสู่สังคมและให้เป็นไปตาระเบียบกฎหมาย



อย่างไรก็ตามยืนยันว่าหากการดำเนินการไม่เป็นไปตามกฎหมาย จะยังไม่นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอย่างแน่นอน ส่วนหากโครงการไหนของกระทรวงคมนาคมไม่ขัดต่อระเบียบกฎหมาย จะเร่งรัดเดินหน้าให้เป็นรูปธรรมและนำมาพิจารณาทบทวนก่อนเสนอไปยัง ครม.เพื่อเดินหน้าต่อไป




“เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบตามระเบียบขั้นตอน ทั้งนี้ ตามหน้าที่ของเลขานุการรัฐมนตรีแล้ว ไม่สามารถลงนามแทนรัฐมนตรีได้ แต่ตนเพิ่งทราบเรื่องจึงยังต้องไปตรวจสอบเพิ่มเติม”



คุณอาจสนใจ

Related News