สังคม

ครม.เห็นชอบเสนอให้ยูเนสโกขึ้นทะเบียน “ผ้าขาวม้า” ตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

โดย onjira_n

28 ก.พ. 2566

134 views

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 28 มี.ค. 66 ได้เห็นชอบให้เสนอ ผ้าขาวม้า : ผ้าเอนกประสงค์ในวิถีชีวิตไทย (Pha Khoa Ma : Multifunctional cloths in Thai life) ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อยูเนสโก และให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญหาทางวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามในเอกสารการนำเสนอต่อไป



การเสนอนี้ เป็นไปตามที่ไทยได้เป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนและรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Convention for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) ซึ่งตามอนุสัญญาได้ให้รัฐภาคีสามารถเสนอรายการที่เป็นตัวแทนมรดกวัฒนธรรมฯ ต่อยูเนสโกได้ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้นำเสนอรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก อาทิ ปี 2561 ขึ้นทะเบียนโขน ปี 2562 ขึ้นทะเบียนนวดไทย และปี 2564 ขึ้นทะเบียนโนรา



น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ก่อนนำเสนอต่อยูเนสโกในครั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมได้มีการพิจารณาถึงคุณค่าของผ้าขาวม้าในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณค่าความสำคัญที่ผ้าขาวม้าที่มีต่อวิถีชีวิตคนไทย ด้วยผ้าที่มีลวดลายตารางสี่เหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ขนาดกว้าง 60-80 ซม.และยาว 120-180 ซม. พบการใช้ประโยชน์อยู่ทุกภาคและชุมชน รวมถึงชาติพันธุ์ต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มไทลื้อ ไทยวน ไทยลาว ภูไท ส่วย กูย เป็นต้น



มีลวดลายหรือสีแตกต่างกันตามเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น เป็นผ้าสารพัดประโยชน์ เข้าถึงง่ายและผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทยหลายด้าน ทั้งการทอผ้าใช้กันเองในครัวเรือน แลกเปลี่ยนในหมู่บ้านและชุมชน ไปจนถึงเป็นของขวัญ และใช้ในงานพิธีกรรมต่างๆ มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชี้ว่าผ้าขาวม้ามีมาตั้งแต่สมัยเชียงแสนจนถึงปัจจุบัน ผ่านการปรับปรุงต่อยอดภูมิปัญญา พัฒนาคุณภาพให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น



น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ผ้าขาวมามีลักษณะที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ทั้งด้านการปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม งานเทศกาล ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติด้วยการที่สะท้อนชีวิตที่เรียบง่ายและยั่งยืนเนื่องจากผ้าขาวม้าหนึ่งผืนสามารถนำมากลับใช้ใหม่และใช้หมุนเวียน ตลอดจนเกณฑ์ด้านงานช่างฝีมือดั้งเดิม



นอกจากนี้การเสนอขึ้นทะเบียนผ้าขาวม้าจะส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมรดกวัฒนธรรมฯ อีกทั้งกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่นำไปสู่การสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในระดับโลก และแสดงถึงความสร้างสรรค์ของมนุษยชาติ เป็นต้น



คุณอาจสนใจ

Related News