วิวาทเดือดเพื่อนบ้าน! ปมจอดรถขวางทางเข้า-ออกมากว่า 8 ปี

วันนี้ (23 ก.พ.66) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากกรณี มีผู้โพสคลิปทะเลาะกันเรื่องจอดรถขวางทางเข้าออกหน้าบ้านจนมีปากเสียงกัน เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน บางบัวทอง จ.นนทบุรี ช่วงเวลาประมาณ 21.00 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งคู่กรณีจอดรถบริเวณถนนหน้าบ้านของเขาเอง แต่รถของบ้านตนไม่สามารถเอารถเข้าออกบ้านตนเองได้ เพราะวงเลี้ยวไม่พอจึงได้มีการขยับรถของทางคู่กรณีทุกครั้งที่จะเข้าออก ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจจนมีปากเสียงกันตามคลิป

น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี เล่าว่า เกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ตนอยู่บนห้องและมีหลานได้เรียกให้ตนลงมาดูพ่อด่วน เพราะตอนนั้นพ่อของตนโวยวายอยู่หน้าบ้าน เนื่องจากคู่กรณีได้บอกให้พ่อของตนขยับรถของเขาให้ตรงจุดที่เขาจอดเหมือนเดิม ซึ่งพ่อของตนหลังจากเข็นรถคู่กรณีเพื่อที่จะเอารถเข้าบ้านได้แล้วก็แล้วก็เข็นรถกลับให้แต่อาจจะไม่ตรงกับจุดเดิมที่เขาจอดจึงสร้างความไม่พอใจให้กับคู่กรณี ซึ่งตอนนั้นพ่อของตนคงโมโหสุดๆแล้วจึงมีปากเสียงกัน ต่อมาตนจึงได้เข้าไปพูดคุยกับทางคู่กรณีว่าถนนตรงนี้เป็นที่สาธารณะ ควรเอารถมาจอดตรงนี้ไหมและตนจำเป็นต้องเข็นรถของคู่กรณีทุกครั้งที่จะเอารถเข้าบ้านตนเองไหม ซึ่งอาจจะทำให้เขาไม่พอใจเพราะตอนที่ตนเดินไปถามตนก็ยอมรับว่าสีหน้าของตนไม่พอใจ ในระยะเวลา 7-8 ปีแล้วที่ตนต้องเข็นรถคู่กรณีทำแบบนี้ ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ของเขาเลย

โดยผู้เสียหายตั้งข้อสงสัย ว่าตนต้องเข็นรถออกตลอดอย่างนี้ และการที่เราจอดรถในบ้านเรากลายเป็นคนผิดหรือ แล้วการที่เขาจอดรถบนถนนกลายเป็นสิ่งที่ถูกหรอ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีปากเสียงกันมาก่อนแต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ และจากคลิปที่เห็นจะเห็นว่าคนที่เป็นแฟนของผู้ชายทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามาทำร้ายร่างกายและมีการพูดข่มขู่ วันนี้ตนจึงต้องเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน เพราะกลัวว่าทุกคนอาจจะได้รับอันตรายเพราะที่บ้านมีทั้งหลาน พ่อ แม่ และก็ยายที่จะต้องอยู่ที่บ้านหลังนี้

ทั้งที่ ทางบ้านเราไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเขาเลย ยอมเป็นฝ่ายที่เข็นรถของคู่กรณีมาตลอด จะมีบางครั้งที่เขาดึงเบรกมือที่จะต้องเรียกให้เขามาขยับรถให้ หลังจากนี้ก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงก็คงต้องให้เป็นหน้าที่ของกฏหมายและสังคมช่วยพิจจารณา เพราะทางหมู่บ้านไม่มีกรรมการหรือนิติฯที่จะเขามาช่วยดูแลในส่วนนี้ เคยปรึกษาหลายคนเขาก็แนะนำว่าให้ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป หรือไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน