ผู้ว่าฯตั้งกก.สอบร้ายแรงผอ.โรงเรียน จ่อย้ายปมทุจริตอาหารกลางวัน

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 66 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเรียกตัวผอ.โรงเรียน สอบปากคำกรณีเพจปฎิบัติการหมาเฝ้าบ้าน นำข้อมูลออกมาแฉทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน โดยได้ทำการสอบปากคำใช้เวลาประมาณ 30 นาที

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้าห้องประชุมร่วมกับ รองอำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 และคณะกรรมการ ที่ได้แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อทำการสอบสวน ข้อเท็จจริง เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ โดยใช้เวลาในการประชุมกันประมาณ 40 นาที จากนั้นผู้ว่าฯ ได้อออกมาจากห้องประชุม พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

นายวิชวุทย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาติดตามการสอบสวนถึงข้อเท็จจริงประเด็นการสอบสวนต่าง ๆ พบว่ามีมูล มีการเอาเงินอาหารกลางวันของน้อง ๆ นักเรียนในระดับชั้นอนุบาล และในชั้นประถม ซึ่งในช่วงแรกได้วันละ 21 บาท และต่อมาได้เพิ่มวันละ 22 บาท มาทำอาหารรวมกันให้เด็กได้ทาน ในระดับชั้นมัธยมศึกษาจำนวน 60 คน และครูอีกประมาณ 30 คน ซึ่งนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 60 คนก็มีการเก็บเงินวันละ 20 บาท และของคุณครูเดือนละ 300 บาท

แต่ว่าเงินตรงนี้นำมาซื้อวัตถุดิบบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้งบในส่วนของชั้นอนุบาล และประถมศึกษา ทำให้อาจจะมีปัญหาในเรื่องของคุณภาพอาหารลดลง อาจจะไม่ตรงกับคุณภาพอาหารปริมาณอาหาร ที่ทางกระทรวงการศึกษาธิการกำหนดไว้ ทำให้เกิดประเด็นมีการร้องเรียนในสื่อโซเชียล ตามที่ปรากฎที่สื่อมวลชนได้รับทราบมาแล้ว ในการดำเนินการของจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากนี้คณะกรรมการเขตการศึกษาพื้นที่สุราษฎร์ธานี เพื่อที่สรุปผลข้อเท็จจริงต่าง ๆ ตั้งกรรมการสอบร้ายแรงกับผอ.โรงเรียน

"สิ่งแรกที่ต้องดำเนินการก็คือ ย้ายผอ.โรงเรียน ไปที่อื่นก่อน และตั้งกรรมการสอบวินัยถ้ามีมูล ก็ได้ให้กรรมการศึกษาธิการลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความจริงปรากฏให้เร็วที่สุด สำหรับเงินช่วยเหลือค่าอาหารกลางวัน มีไว้สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล และประถมศึกษาเท่านั้น แต่ผอ.โรงเรียน ได้นำมาใช้รวมกันทั้งหมด รวมทั้งชั้นมัธยม และคุณครูด้วย ในส่วนเงินที่เก็บมาจากนักเรียนมัธยมศึกษา 60 คน คนละ 20 บาท และคุณครูเดือนละ 300 บาทต่อคน ที่มีการทำบัญชีนอกไว้ ซึ่งมันผิดกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ" ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าว

นายวิชวุทย์ กล่าวต่อว่า เรื่องของการทุจริตโครงการอาหารกลางวันนักเรียนในพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกิดเหตุลักษณะแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อจังหวัด ซึ่งตนได้เน้นย้ำ ผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหารผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษามาโดยตลอด ได้มอบหมายให้ท่านรองผู้ว่าฯ ทั้ง 4 ท่าน ซึ่งมีการแบ่งโซนแบ่งเขตกันเรียบร้อยแล้วให้ลงไปในพื้นที่ จะต้องมีการพบปะผู้บริหารสถานศึกษาต่าง ๆ เน้นย้ำดูแลปริมาณ และคุณภาพอาหารกลางวันของน้อง ๆ นักเรียน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก

ขณะที่นักเรียน ชั้นประถมศึกษาที่ 5-6 ได้เดินทางมาเข้าค่ายพักแรม ที่โรงเรียน เปิดเผยว่า กลางวันทานอาหารของโรงเรียนมาตลอด และหากไม่อิ่มก็เติมได้ รสชาติอาหารก็อร่อย ส่วนข่าวที่ออกมานั้นไม่รู้ แต่ตนเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นจริง