สธ.เฝ้าระวังไวรัสมาร์บวร์ก หลังพบระบาดหนัก อิเควทอเรียลกินี และแอฟริกากลาง

หลังจากที่องค์การอนามัยโลกเฝ้าระวัง "ไวรัสมาร์บวร์ก" ในประเทศอิเควทอเรียลกินี ในแอฟริกากลาง ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ให้ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ยกระดับการตรวจคัดกรองอาการเบื้องต้น ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศ อิเควทอเรียลกินี และประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะต้องตรวจรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง

อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า เชื้อไวรัสมาร์บวร์ก เป็นโรคที่มีความรุนแรงสูง ไทยกำหนดให้เป็น 1 ใน 13 โรคติดต่ออันตราย มีอัตราการป่วยเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 88 เป็นไวรัสในสกุลเดียวกับไวรัสอีโบลา คือ Filoviridae ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง หลายรายมีเลือดออกและอุจจาร่วง ติดต่อได้ทางเลือด และอุจจาระเช่นเดียวกับไวรัสอีโบลา พบไวรัสในค้างคาวและแพร่เชื้อมาสู่คน

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือยาต้านไวรัสที่รักษาได้ ให้รักษาเป็นแบบประคับประคองตามอาการ- ข้อมูลของผู้ที่เดินทางจากประเทศ กินิ มายังไทย ยังมีจำนวนน้อย อย่างข้อมูลปี 2565 มีผู้เดินทางเพียง 10 คน จึงยังไม่ต้องกังวลหรือตื่นตระหนก ล่าสุดมีรายงานพบผู้ป่วยสงสัยเพิ่ม 2 ราย บริเวณชายแดนประเทศแคเมอรูน ติดกับพื้นที่ระบาดในประเทศอิเควทอเรียลกินี

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา จากไบโอเทค โพสต์ในเฟซบุ๊ก ส่วนตัวว่า มาร์บวร์ก  "Marburg" เป็นไวรัสที่ถูกค้บพบเมื่อปี 1967 ที่เมือง "Marburg" จากเจ้าหน้าที่ 3 ราย ในห้องปฏิบัติการ ที่ไปสัมผัสกับชิ้นส่วนของลิงที่ติดเชื้อมาจากอูกันดา ก่อนกระจายไปหลายคนในเยอรมนี และนอกเมืองMarburg ในขณะนั้นในยุโรปพบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 31 ราย ดังนั้นไวรัสมาร์บวร์กจึงไม่ใช่ไวรัสอุบัติใหม่ แต่เป็นไวรัสเก่าที่อุบัติซ้ำ แม้จะติดเชื้อจากลิง แต่สัตว์ที่เป็นพาหนะของไวรัสนี้ คือ ค้างคาว ซึ่งสามารถส่งไวรัสสู่คนได้ผ่านการสัมผัสเชื้อ