สังคม

หลวงพ่อปีนต้นไม้ จี้นายกฯ สอบสื่อนำเสนอข่าวฉาว – 'แพรรี่' แนะพระฉันผัดไทยแค่ในโรงครัว อยู่ในที่ๆควรอยู่

โดย thichaphat_d

15 ก.พ. 2566

693 views

วานนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น. ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธมโม ประธานภาคีเครือข่ายองค์กรพลังชาวพุทธ ได้ขึ้นไปผูกเปลบนต้นไม้บริเวณริมถนนพิษณุโลก หลังกองทัพภาคที่ 1 โดยในมือของพระรูปดังกล่าวได้ถือดอกกุหลาบสีแดง และพยายามยื่นดอกกุหลาบไปทางทำเนียบรัฐบาล

โดยผู้คนที่เฝ้าสังเกตการอยู่ด้านล่างได้พยายามตะโกนขึ้นไปบอกว่า "หลวงพ่อลงมา" ซึ่งจากการพูดคุยทราบว่าพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา พยายามจะมอบกุหลาบให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยื่นหนังสือขอให้อนุมัติงบประมาณจำนวน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้พระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในชาติ

โดยอ้างว่าหลังจากที่ผ่านมาวงการภาพลักษณ์ในวงการสงฆ์มีความเสื่อมเสียทั้งที่เป็นส่วนน้อย สวนทางกับพระสงฆ์ส่วนใหญ่ยังประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ดังนั้นจึงต้องการของบประมาณดังกล่าวเพื่อไปแก้ไขปัญหาในวงการสงฆ์และความขัดแย้งของคนในชาติ

ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผยว่า พระองค์นี้เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้มีการตักเตือน แต่ก็ยังกลับมาก่อเหตุซ้ำในวันนี้

ด้านพระครูภูวิจิตร พระอีกรูปที่เดินทางมาด้วยกัน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ช่วงเช้าได้เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทำเนียบรัฐบาล ขอร้องให้นายกฯตรวจสอบ สื่อมวลชน ที่ปัจจุบันมีการเสนอข่าวพาดพิง วงการพระพุทธศาสนา บางข่าวเสนอข่าวเท็จ โดยไม่ตรวจสอบใช้วาทกรรมทำลายพระสงฆ์และพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องที่พระครูปลัดฯ มีความรู้สึกอัดอั้นมานาน เพราะภาครัฐไม่แก้ไข

ส่วนที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้นั้นตนไม่ทราบ เพราะพระครูปลัดได้แยกกันเดินออกมาจากศูนย์รับเรื่องร้องเรียน พอเดินตามออกมาเห็นคนมุงตนก็ตกใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพระครูปลัดฯ ได้ปีนขึ้นไปผูกเปลนอนอยู่บนต้นโพธิ์ ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง จึงได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายพร้อมกับรถกู้ภัย เข้ามาเคลียร์พื้นที่ และได้นำเอาเบาะรองมาปูพื้นบริเวณใต้ต้นไม้ ป้องกันหากว่าพระครูปลัดฯ ตัดสินใจกระโดดลงมา

จากนั้นเวลาผ่านไปอีกประมาณ 20 นาที รถกระเช้าของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เดินทางมาถึง โดยได้ให้พระครูภูวิจิตร ขึ้นกระเช้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อไปเจรจานิมนต์ให้พระครูปลัดลงมาจากต้นไม้ ซึ่งมีการนำโทรศัพท์ให้พระครูปลัดฯ ให้คุยต่อสายไปยังกับเจ้าหน้าที่ตัวแทนของทำเนียบรัฐบาล จนตัดสินใจลงมาอย่างปลอดภัย

พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา หลังลงมาจากต้นไม้เปิดใจระบุว่า อยากให้สื่อมวลชนทราบว่าการนำเสนอข่าวในด้านลบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่พระสงฆ์ทุกวันนี้พระสงฆ์เดินบิณฑบาตแทบจะไม่มีอาหารจะฉันแล้ว มีความลำบากมาก โดนกลั่นแกล้งทุกวันจากข่าวที่ถูกนำเสนอ ทั้งนี้ไม่ปฏิเสธว่าอาจจะมีพระสงฆ์ที่ทำความเสื่อมเสีย แต่ส่วนที่ดีที่เป็นหลักของสังคมก็ยังมีอยู่ มองว่ามีวิธีการสร้างสรรค์ให้เป็นสิ่งที่ดีงามได้ไม่จำเป็นต้องทำร้ายพระสงฆ์

ส่วนที่เสียเราก็ว่าไป ส่วนที่ดีเราก็ส่งเสริม เราเป็นห่วงว่าสิ่งที่สื่อมวลชนนำเสนอไปมันเกิดความเสียหาย สร้างความเกลียดชังเกิดขึ้นในหมู่พระสงฆ์และประชาชน

พร้อมระบุว่า ต้องการนำดอกกุหลาบมอบให้นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันแห่งความรัก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีอยู่ที่สูง เราก็ต้องอยู่ที่สูงเพื่อส่งดอกหมายถึงนายกรัฐมนตรี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาพระครูปลัดธีระฯ พร้อมกับพระครูภูวิจิตรเข้าไปพักที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีนำประชุม คณะรัฐมนตรีอยู่ ในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ด้าน แพรรี่-ไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์วิจารณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า

“ก็อยู่ในที่ๆพระควรจะอยู่สิเจ้าคะ พระเนี่ย ถ้าอยู่แบบพระจริงๆ อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ทั้งนั้นแหล่ะเจ้าค่ะ

อย่างที่ท่านเขียนมากัน ดิฉันอยากชวนให้แยกแยะแบบนี้นะคะว่า

พระเดินริมทะเลไม่ผิดค่ะ แต่พระจะขึ้นค่อมเจ็ทสกีหรือห้อยโหนบานาน่าโบ็ทเยี่ยงฆราวาส แบบนี้ ทำไม่ได้ค่ะ พระจะเข้าเซเว่นได้นะคะ แต่พระจะสั่งขนมจีบซาลาเปาหลังเที่ยง แบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ พระจะซื้อน้ำปานะฉัน แบบนี้ทำได้นะคะ แต่พระจะฉันพญานาคเป็นขวดๆ แล้วเมาหัวราน้ำ แบบนี้ไม่ได้ค่ะ

พระมีสิทธิ์เข้าห้างสรรพสินค้านะคะ แต่พระไม่มีสิทธิ์ช็อปของแบรนด์เนมอันเกินควรแก่สมณะจากปัจจัยของชาวบ้านค่ะ ครีมทาผิวและน้ำหอมใดๆ ไม่ควรแก่สมณะนะคะ กระเป๋าหรือรองเท้าราคาแพง ก็ไม่ใช่สิ่งที่สมณะพึงเลือกซื้อใช้สอยด้วยตนเอง

พระจะอาบน้ำตกที่ไหนไม่มีใครว่าค่ะ แต่พระจะเปลื้องผ้า ให้คนถูบ่าถูหลัง จะถ่ายรูปอาบแดด เล่นหูเล่นตาอย่างเสียสมณสัญญา แบบนี้ทำไม่ได้ค่ะ

พระไม่ต้องปีนเสาไฟ หรือหนีไปอยู่บนยอดดอยยอดไม้หรอกนะคะ ดูจะลำบากเกินจำเป็ีน พระจะอยู่ในโบสถ์ในวิหารหรือในลานเจดีย์ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ท่านไม่ลืมว่า ท่านเป็นนักบวช ท่านไม่ใช่ฆราวาส ท่านประพฤติพรหมจรรย์ ท่านไม่เสพกามคุณ ท่านห่มเหลือง ท่านไม่ได้ใส่กางเกง ถ้าระลึกได้แบบนี้ อยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ

คือปัญหาทุกวันนี้มันเหมือนที่โบราณเขาว่า คือหัวโล้นอยากรำหัวดำอยากเทศน์ มันก็เลยผิดที่ผิดทางไงคะ พระอยากเสพกามคุณแบบชาวบ้าน แต่พระไม่อยากลาสิกขา มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น คือสิ่งไหนที่พระไม่ควรทำ พระก็ทำ ที่ไหนที่พระไม่ควรอยู่ พระก็ไปอยู่ แล้วแบบนี้จะมาโทษใครกันล่ะคะ ก็ต้องโทษพวกท่านเองนั่นแหล่ะ ที่ละทิ้งความเป็นสมณะในตัวเอง

ปล. ผัดไทควรฉันในโรงครัวของวัดนะคะ ไม่ควรเข้าไปฉันในห้องน้ำสาธารณะ มันดูไม่งาม จบ !


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZPUj5IJ5NpE

คุณอาจสนใจ

Related News