สื่อต่างประเทศรายงานหญิงอเมริกันเชื้อสายไทยหนีกลับกรุงเทพฯ หลังก่อเหตุชนคนเสียชีวิตช่วงปีใหม่

สำนักข่าวประเทศรายงานว่าหญิงอเมริกันเชื้อสายไทยเดินทางหลบหนีกลับมายังประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมและดำเนินคดี หลังจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุชนคนเสียชีวิตในวันปีใหม่

หญิงคนดังกล่าว มีชื่อว่า ทับทิม  วัย 57 ปี ซึ่งเธอถูกกล่าวหาว่า ขับรถชนนายเบนจามิน เคเบิล (Benjamin Kable) นักศึกษามหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตต วัย 22 ปีจนเสียชีวิต ขณะที่เขากำลังเดินกลับบ้าน ที่เขตโอกแลนด์ เคาท์ตี (Oakland County) รัฐมิชิแกน ของสหรัฐอเมริกา



เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เบนเดินทางไปฉลองปีใหม่กับเพื่อน หลังจากปาร์ตี้เสร็จเขาเดินทางกลับบ้านด้วยการเรียกรถจากอูเบอร์ พอเดินทางออกไปเขาถูกอูเบอร์คันดังกล่าวไล่ลงจากรถ โดยขณะนั้น เขาอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 10 นาที เบนจามินจึงส่งข้อความไปบอกเพื่อน และเดินกลับบ้านไป



ขณะที่กำลังเดินข้ามถนน ก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง ชนเบนจามินอย่างแรงจนเสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวก็ขับหลบหนีไป



พยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า คนขับรถคันดังกล่าวเป็นผู้หญิง และรถยนต์ที่ขับเป็นรถ BMW 320i สีขาว ปี 2016 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบชิ้นส่วนของรถตกอยู่ในที่เกิดเหตุ



ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวว่าคนขับรถคือ ทับทิม ซู ฮาวซัน (Tubtim “Sue” Howson) แต่ไม่สามารถจับกุมตัวเธอได้เพราะหลังจากก่อเหตุ เธอได้หลบหนีออกจากสหรัฐฯ กลับมายังประเทศไทย โดยเธอได้โทรไปบอกเพื่อนว่า เธอคิดว่าตัวเองขับรถชนคนตายและจะเดินทางกลับไทย แม้เพื่อนจะบอกให้เธอมอบตัว แต่เธอก็ตอบว่า “ไม่เอาตำรวจ ๆ”



หลังจากนั้น เธอก็ซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียว เดินทางจากสหรัฐฯ มายังกรุงเทพ โดยต่อเครื่องที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส และกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ และมาถึงไทย ในวันที่ 5 มกราคม วันเดียวกันกับที่ตำรวจระบุตัวว่าเธอคือผู้ต้องสงสัย



ล่าสุด ตำรวจสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาขับรถชนคนตายและหลบหนีกับทับทิม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เธอมีเจตนาที่จะหลบหนีการถูกดำเนินคดีหรือจำคุก



พ่อของผู้เสียชีวิตให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า การที่ผู้ต้องสงสัยหลบหนีทำให้บาดแผลของเขาเลวร้ายมากยิ่งขึ้น และการที่ได้รู้ว่าผู้ต้องสงสัยหลบหนีออกนอกประเทศเพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองถูกดำเนินคดีทำให้เขารู้สึกผิดหวังมาก ๆ



ทั้งนี้ ทับทิม ซู ฮาวซัน (Tubtim “Sue” Howson) อาศัยอยู่กับสามีและลูก โดยบ้านของเธออยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 1 ไมล์ ตอนนี้สามีของเธอยังคงอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากที่ภรรยาหลบหนีออกนอกประเทศมาแล้วกว่า 1 เดือน เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และวันที่เกิดเหตุเขาก็ไม่ได้อยู่ที่สหรัฐฯ



อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ และไทยมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และทางตำรวจเขตโอกแลนด์ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลจับกุมและส่งตัวผู้หญิงคนนี้กลับมารับผิดชอบและรับโทษตามกฎหมายที่สหรัฐฯ