สังคม

'แพรรี่' ซัด พศ.ทำอะไรอยู่ นิ่งปม 'ครูบาไก่' ด้านสำนักพุทธฯ ขอนแก่น ยันไม่ได้เพิกเฉย แต่ไม่มีหน้าที่สึกพระ

โดย petchpawee_k

27 ม.ค. 2566

48 views

สำนักพุทธขอนแก่น ยันไม่ได้เพิกเฉย กรณีครูบาไก่ ต้องรอผลทางคดีเสร็จสิ้นก่อน  จ่อ เรียก สอบถาม ข้อมูลการเล่นน้ำตกและขี่เจสกี ผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ วอนสังคมเข้าใจ สำนักพุทธ ไม่มีหน้าที่จับพระสึก แต่คอยสนับสนุนช่วยเหลือพระสงฆ์ หากผิดจริงก็มีบทลงโทษ  


จากกรณีคลิปฉาววงการสงฆ์ตอกเสาเข็ม ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมบนโลกออนไลน์


วานนี้ (26 ม.ค.) แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้มาสัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส กับพิธีกร หนุ่ม กรรชัย และหลังจากจบรายการ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่กำลังถกเถียงกันอยู่เกี่ยวกับคลิปฉาวของครูบาตอกเสาเข็ม


แพรรี่ กล่าวว่า ตนยังนับถือศาสนาพุทธ ขอบคุณที่ทำให้หนูมีวันนี้ ยังสำนึกในพระคุณพระพุทธศาสนา


แต่ที่ตนออกมาเพราะอยากจะเตือน ถ้าในคลิปใช่ครูบาจริงๆ ถ้ารู้ว่าทำผิด คุณออกมา คุณต้องยอมรับ หนูขอใช้คำว่าชายชาติพระ ฉะนั้นศึกออกมาเถอะค่ะ ถ้ารู้ว่าผิดก็ออกมาค่ะ ผู้ชายมีให้กินเยอะค่ะ และอยากให้สำนักพุทธช่วยดำเนินการหรือออกมา แทค แอคชันด้วย เพราะอย่างไรก็ต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบ เร่งตรวจสอบเลยค่ะ เพราะตอนนั้นขนาดตนหัวเราะ วันรุ่งขึ้นเรื่องถึงสภาฯ มันเร็วขนาดนั้นเลย แต่ครั้งนี้ ยังไม่ออกมาพูดสักคำ อยากให้มีความยุติธรรมด้วย


ถ้าท่านคิดว่าบริสุทธิ์ก็อยู่ต่อไป แต่ถ้าวินัยทางพระ ถ้าผิดก็ออกมาแค่นั้น หนูโดนลูกศิษย์ครูบาส่งข้อความมาด่าเยอะมาก สรุปศรัทธาอะไรกัน เราต้องศรัทธาในพระพุทธศาสนาสิค่ะ เราต้องแยกค่ะ


อยากให้อันไหนที่สำนักพุทธดำเนินการได้ ทำเลยค่ะ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนไขข้อข้องใจในตรงนี้ แต่ถ้าหากถ้าพิสูจน์ออกมาแล้วว่าไม่ใช่ครูบาจริงที่ปรากฎอยู่ในคลิปตนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือครูบาเช่นกัน


ในส่วนความคืบหน้าเรื่องการดำเนินการกับกรณีของครูบาไก่ ทีมข่าวสอบถาม นายติราช นาถปุญโญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า กรณีนี้ต้องขอชี้แจงสังคมว่าสำนักพุทธ ไม่ได้มีหน้าที่จับพระสึก แต่หน้าที่คือ ดูแลส่งเสริม สนับสนุนพระสงฆ์ การที่พระสงฆ์ทำผิด ก็จะมีพระธรรมวินัยและบทลงโทษระบุไว้


กรณีของครูบาไก่ คณะสงฆ์ได้รับทราบและดำเนินการเรียกครูบาไก่มาสอบถามตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา โดยครูบาไก่ให้การปฏิเสธทั้งเรื่องภาพลับและเรื่องเงินในวัดไม่โปรงใส


จากนั้นพบว่าทั้งครูบาไก่และคู่กรณีก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกันทั้งสองฝ่าย คดีนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างแจ้งความดำเนินคดี ทางคณะสงฆ์ก็ต้องชะลอการพิจารณา ต้องรอทางคดีเสร็จสิ้นก่อนเพราะไม่สามารถชี้ชัดว่าใครผิดถูกได้ และไม่มีอำนาจไปสั่งพระรูปใดให้สึกได้  


ส่วนพฤติกรรมไม่เหมาะสมของครูบาไก่ ทั้งเล่นน้ำตก และขี่เจสกี ทางคณะสงฆ์พึ่งทราบจากข่าว ซึ่งไม่ทราบรายละเอียดว่า ภาพนี้เกิดขึ้นเมื่อใด เพราะทางผู้ร้องไม่ได้แจ้งข้อมูลมาให้กับคณะสงฆ์แต่นำไปเปิดเผยผ่านสื่อ ซึ่งทางคณะสงฆ์จะมีการตรวจสอบพฤติกรรมที่ครูบาไก่ทำ เข้าข่ายความผิดพระธรรมวินัยข้อใดหรือไม่ หากเข้าข่ายความผิด ก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของสงฆ์


ส่วนกรณีวัตถุมงคลของวัด ก็อยู่ในคดีความเช่นกัน ต้องชะลอการตรวจสอบด้วย อยากขอให้สังคมเข้าใจ บทบาทของสำนักพุทธ มีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนอำนวยการ ให้กับคณะสงฆ์ แต่ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินพิพากษ์ หรือสั่งการใดๆกับคณะสงฆ์ได้


เนื่องจากคณะสงฆ์ มีระบบการปกครองเป็นของตนเอง มีพระราชบัญญัติ กฎกระทรวงดูแล การจะไปบอกพระ1รูปให้สึก ทำไม่ได้ ก็ต้องดูความผิดทางทั้งทางอาญา ทางวินัยของสงฆ์ ซึ่งกรณีของครูบาไก่ ก็ไม่ได้เพิกเฉย แต่ชะลอ เพื่อรอทางคดีเสร็จสิ้นก่อน


ทั้งนี้ทีมข่าวตรวจสอบ ที่เพจวัตถุมงคล ครูบาไก่ พบว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เป็นการโพสต์ภาพการทำพิธี พิธีกรรมพิธีการงานเฉลิมฉลองอายุวัฒนะมงคล 30 ปี 10 พรรษา ครูบาไก่ พระสุวิทย์ ชินวโร ซึ่งไม่แน่ชัดว่า คืองานหรือพิธีกรรมอะไร หรือเป็นงานวันเกิดของครูบาไก่ โดยในภาพ มีการทำพิธีผูกข้อมือครูบา ตามประเพณีชาวอีสาน


ครูบาไก่นั่งเสลียง มีขบวนดนตรีและชาวบ้านเดินเป็นขบวน  ครูบาไก่ใส่หมวก และมีคณะสงฆ์เดินจูงมือ ผ่านลูกศิษย์ที่นั่งรอกราบไหว้ โดยพบว่าช่วงนี้ลูกศิษย์ที่เป็นผู้ชายก็จะนอนราบกับพื้นให้ครูบาไก่เหยียบ บางรายก็นำกระเป๋าเงิน หรือผ้า วางให้ครูบาไก่เหยียบเพื่อความศิริมงคล


สำหรับวันนี้ 27 ม.ค. ทางทนายความครูบาไก่ ก็จะไปยื่นเอกสารที่ ปปง. ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของกลุ่มนอดีตลูกศิษย์ ที่ออกมาร้องเรียน หลังพบว่า การก่อสร้างวัตถุมงคลท้าวเวสสุวรรณ และงานทอดกฐินของวัด มีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนบุคคล ไม่ใช่การโอนเข้าบัญชีวัด หรือครูบาไก่




รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/W3C0zG5JBOg

คุณอาจสนใจ

Related News