แก๊สหมดเป็นเหตุ ทอดหมูไม่สุก หนุ่มย่องขโมยถ่าน

จากกรณีที่กล้องวงจรปิดภายในร้านถูกดีทรายทอง บันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายเข้ามาขโมยของภายในร้าน ในช่วงกลางดึก เวลา 3.41 น. วันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา โดยกล้องจับภาพเป็นชายวัยรุ่นลักษณะผอมสูง ใส่เสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีขาว เดินเข้ามาจากทางข้างร้าน ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำดื่ม 1 แพ็ค บริเวณชั้นวางของด้านหน้าร้าน หลังจากนั้นชายคนดังกล่าว ยังเอื้อมไปหยิบถุงถ่านสีดำ 1 ถุง ก่อนจะวิ่งออกไป ที่แรกนึกว่าคนร้ายจะหนีไปแล้วไม่กลับมา แต่ไม่ถึง 5 นาที คนร้ายรายนี้วกกลับเข้ามาอีกพร้อมเพื่อนชายอีก 1 คน ก่อนจะวิ่งไปข้างร้าน เพื่อดูดน้ำมันรถซาเล้งที่จอดอยู่ข้างร้าน โดยหัวขโมยรายแรก ยังได้หยิบขวดเปล่าภายในร้าน เอาไปใส่น้ำมัน ซึ่งหลังได้น้ำมันไปแล้ว ได้วิ่งออกจากร้านไป โดยหัวขโมยทั้ง 2 คนยังได้หยิบถุงถ่านไปอีกคนละถุง

ล่าสุดช่วงค่ำวันนี้ ( 24 มกราคม 2566 ) หัวขโมยที่เข้ามาขโมยของได้เดินทางกลับมาที่ร้านถูกดีทรายทอง เพื่อเข้ามาขอโทษนายบรรจง สังเกตกิจ (เสื้อแดง ) อายุ30 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งทั้งหมดเป็นเยาวชนอายุ 16-17 ปี ประกอบด้วย นายหนึ่ง นามสมมุติ อายุ 17 ปี ( ธนวัฒน์ ทับเจริญ ) เสื้อน้ำตาล คนที่เข้ามาคนแรก,นายสอง นามสมมุติ อายุ 16 ปี (สนธิ เคนพิมพา) เสื้อดำ คนที่เข้ามาขโมยน้ำมันรถซาเล้ง และนายสาม นามสมมุติ อายุ 17 ปี (คมสันต์ รัตนกำเนิด) เสื้อเขียว คนที่จอดรถจักรยานยนต์รออยู่ด้านนอกร้าน ซึ่งเยาวชนทั้งสามได้เข้ามายกมือไหว้ขอโทษและจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก

นายสาม นามสมมุติ อายุ 17 ปี เปิดเผยว่า ตนเองเห็นข่าวออกไปก็สำนึกผิดจึงได้คุยกับเพื่อนๆ เพื่อเดินทางมารับผิดชอบและขอโทษเจ้าของร้าน โดยเมื่อคืนนี้เพื่อนๆ ได้มาที่บ้านของตน ตอนดึกตนเองรู้สึกหิว จึงได้เปิดเตาแก๊สเพื่อทอดหมู แต่ระหว่างทอดหมูอยู่นั้น แก๊สเกิดหมดหมูยังไม่ทันสุก จำได้ว่าร้านขายของชำภายในหมู่บ้านมีถ่านวางอยู่หน้าร้าน จึงได้ชวนกันออกไป และด้วยความคึกคะนองประกอบกับความหิวจึงตั้งใจไปขโมยถ่าน เมื่อไปถึงร้าน นายหนึ่ง ได้เดินเข้าไปก็พบถ่านวางอยู่ แต่ด้วยน้ำที่จะนำมาต้มน้ำกระท่อมหมด นายหนึ่งจึงหยิบน้ำออกมาด้วยหนึ่งแพ็ค พร้อมกับถ่านหนึ่งถุง เมื่อเดินมาถึงรถแล้วได้คุยกันว่า จะติดไฟจากถ่านยังไง นายสองจึงมีความคิดว่า ใช้น้ำมันเบนซินช่วยในการจุดถ่าน จึงได้วิ่งกลับเข้าไปในร้านพร้อมกับนายหนึ่ง เพื่อไปดูดน้ำมันจากรถซาเล้งที่จอดอยู่ข้างร้าน และก็หยิบถุงถ่านออกมาอีกคนละหนึ่งถุง จากนั้นก็กลับไปทอดหมูและต้มน้ำกระท่อมตามที่ได้วางแผนกันไว้

นายบรรจง เปิดเผยว่า ดีใจที่เด็กกลุ่มนี้สำนึกผิด และมาขอโทษ ตนเองไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เพราะเป็นเด็กในซอยบ้านเดียวกัน ก็ได้สั่งสอนพร้อมบอกว่า หากไม่มีกินก็ให้มาขอ อย่ามาขโมยอีก เพราะเราเป็นคนบ้านเดียวกัน เล็กๆน้อยๆ แบ่งปันกันได้ ซึ่งเด็กๆ ก็รับปากตนว่า จะไม่ไปก่อเหตุในลักษณะนี้กับร้านค้าที่ไหนอีก