ลูกศิษย์เผย 'ครูบาไก่' ให้ถูสบู่ช่วงล่าง-ถ่ายรูปทำคอนเท้นต์เล่นน้ำตก ด้าน 'อิคคิว' ยื่น ปปง.สอบเส้นทางการเงิน

ยังคงเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง กรณี พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ที่ถูกอดีตลูกศิษย์ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ประพฤติไม่เหมาะสม

วานนี้ น.ส.วาสนา เคลือบสูงเนิน หรืออิคคิว และนางสาว คมคาย เวกนวล อดีตโยมอุปัฏฐากครูบาไก่ ยื่นหนังสือร้องเรียน ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทองคำ ที่ครูบาไก่กับพวกได้ทรัพย์สินไปจากประชาชน

นางสาวคมคาย กล่าวว่า ตนเองนำเอกสารมายื่นให้ทาง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทรัพย์สินของครูบาไก่ เพื่อให้อายัดบัญชีธนาคารของครูบาไก่และพรรคพวก ป้องกันการโยกย้ายทรัพย์สิน และทองคำจำนวน 188 บาท

ซึ่งทองคำจำนวน 188 บาทนั้น เป็นทั้งทองคำที่ญาติโยมถวาย และถวายเงินทำบุญ ให้ไปซื้อทองคำมา เพื่อนำมาหล่อเป็นพระองค์ปฐมองค์เล็ก ซึ่งตอนนี้ตนเองทราบข่าวว่าพระองค์ปฐมองค์นี้ได้หายไป

ส่วนเส้นทางการเงินของครูบาไก่นั้นพบว่า มีการโยกย้ายโอนเงินให้กับญาติ และผู้ชายคนสนิทที่ครูบาไก่อ้างว่าเป็นลูกหลาน อีกทั้งครูบาไก่มีการโฆษณาเชิญร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อจะสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆภายในวัด แต่หลังจากมีคนบริจาคมาแล้ว กลับไม่มีการก่อสร้างใดๆ เกิดขึ้นเลย

ส่วนเหตุผลที่ต้องออกมาเปิดเผยข้อมูลของครูบาไก่ นางสาวคมคาย บอกว่า ไม่ได้เป็นความโกรธแค้นส่วนตัว ในอดีตตนเป็นลูกศิษย์คนสนิท แต่ประมาณ 4-5 เดือน ก่อนที่จะเกิดเรื่อง ตนเองและอิคคิว ได้ถอยห่างจากครูบาไก่ หลังจากทราบเรื่องของชายหนุ่มคนสนิท และมีชายหนุ่มแวะเวียนมาที่กุฏิบ่อยครั้ง ก็ได้มีการเตือนครูบาไก่หลายครั้ง แต่ก็ยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม

เมื่อเตือนแล้ว ยังมีการกล่าวหาว่าตนและอิคคิวยักยอกเงินของวัดจำนวน 7 แสนบาท ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง เงิน 7 แสนบาทนั้น ครูบาไก่ยืมจากตนและโอนมาคืน ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นเงินกฐิน และครูบาไก่โอนเงินให้ตนเองจริง แต่เป็นเงินที่ครูบาไก่ต้องใช้หนี้ตนเอง เพราะยืมไปประมาณ 1.3 ล้านบาท

เมื่อถูกใส่ร้าย จึงต้องออกมาปกป้องชื่อเสียง และปกป้องความศรัทธาของญาติโยม และการที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลลับ ตนเองมีหลักฐาน ไม่ได้กล่าวลอยๆ และมอบหลักฐานให้ตำรวจไปหมดแล้ว รวมทั้งคลิปลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นคลิปเรื่องทางเพศ ผ่านมาจนถึงวันนี้ อยากบอกครูบาไก่ว่า ให้ออกมายอมรับความจริง

สำหรับประเด็นที่ว่าตนเองออกมาแฉ เพราะไม่พอใจเรื่องผลประโยชน์นั้น จึงอยากถามกลับว่า ตนเองมีผลประโยชน์อะไรจากที่นี่ เพราะตั้งแต่ปี 64 ที่ตนเองเข้ามา ก็มาสร้างวัด บูรณะวัด ให้คนรู้จัก ทำให้คนรู้จักครูบาไก่ แล้วตนเองจะล้มล้างเพื่ออะไร

ส่วนเรื่องการสร้างเหรียญวัตถุมงคลนั้น เงินทุกบาททุกสตางค์เข้าบัญชีครูบาไก่ทั้งหมด และสิ่งก่อสร้างภายในวัด ไม่ว่าจะเป็นพระยืน ศาลา หรือแม้แต่เก้าอี้ ที่ครูบาไก่นั่งแถลงข่าว ก็เป็นเงินส่วนตัวของอิคคิวทั้งหมด

สุดท้าย ตนเองอยากฝากถึงครูบาไก่ว่า "ตอนนี้เชื่อว่าครูบาไก่ รู้อยู่แก่ใจว่ากำลังทำอะไร และสิ่งที่ทำลงไปมันผิดขนาดไหน ครั้งหนึ่งครูบาไก่เคยบอกกับตนเองว่า ถ้าเกิดปัญหาตรงนี้ ท่านจะออกมายอมรับแบบลูกผู้ชาย แล้วสิ่งที่ท่านพูดอยู่ตรงไหน ซึ่งเรื่องนี้ครูบาไก่ เคยยอมรับกับตนเองและอิคคิวว่าทำจริง แต่ขอโอกาสและขอชีวิตใหม่" จึงมีภาพเข้าถ้ำปฏิบัติธรรม เหมือนที่ตัวเองเคยให้ข่าว

ส่วนความเห็นส่วนตัวของตนเองนั้น มองว่า ครูบาไก่ควรจะต้องสึก และขอโทษประชาชน แล้วทุกอย่างมันก็จะจบ ไม่อยากให้มาดันทุรังแบบนี้  ส่วนครูบาไก่จะดำเนินคดีตนเองก็ยินดี เพราะเชื่อว่าเรื่องถ้าไม่มีมูล หมามันไม่ขี้

------------

ส่วนประเด็นภาพที่ครูบาไก่เล่นน้ำตก และนั่งซ้อนเจ็ตสกีนั้น ทีมข่าวได้พูดคุยกับ อดีตลูกศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า

ภาพเล่นน้ำตกนั้น เกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.กำแพงเพชร โดยครูบาไก่และคณะ ได้รับกิจนิมนต์ไปที่อุทยาน วันนั้น จนท.ปิดอุทยาน เมื่อเสร็จกิจนิมนต์แล้ว มีหลายคนอยากเล่นน้ำตก ครูบาไก่ก็เลยพาคณะสงฆ์และลูกศิษย์ที่ตามมาด้วย ลงเล่นน้ำตก โดยภาพจะเห็นว่า ครูบาพิงโขดหินและแช่น้ำ หากไม่ใช่พระสงฆ์จะมองผ่านๆ คล้ายกับนายแบบ และมีคณะสงฆ์เล่นน้ำด้วยกันอย่างสนุกสนาน

ส่วนการถูสบู่ ตนเป็นคนถูกสบู่ให้จริง ถูช่วงล่าง ส่วนด้านบนครูบาถูเอง ซึ่งตอนถูสบู่ก็ถ่ายรูป ทำคอนเทนต์ ซึ่งก็ไม่คิดว่าภาพจะหลุดออกมา เพราะวันนั้นมีแค่ลูกศิษย์คนสนิท และคณะสงฆ์เท่านั้น

ส่วนการซ้อนท้ายเจ็ตสกี ลูกศิษย์คนนี้ก็บอกว่า อยู่ในเหตุการณ์เช่นกัน ครูบาไก่ก็ใส่สบง แล้วม้วนถลกขึ้น ภาษาอีสานเรียกว่าตุ้ม ทำเป็นคล้ายกางเกง แล้วใส่ชูชีพ ซ้อนท้ายลูกศิษย์คนสนิท แล้วขับออกไปกลางทะเล ก่อนเคลื่อนออกไป ก็โบกมือบ๊ายบายลูกศิษย์ด้วย

เมื่อถามว่า ทั้งสองเหตุการณ์เหตุใดลูกศิษย์ไม่ห้ามครูบาไก่ เพราะเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม อดีตลูกศิษย์คนนี้บอกว่า ครูบาไก่เป็นพระ ย่อมรู้ดีว่า อะไรควร ไม่ควร แล้วลูกศิษย์ไม่มีใครกล้าห้ามครูบาอยู่แล้ว หากท่านจะทำอะไร

--------------