สังคม

ฉุนด่าเมียรัก! เตะผ่าวงข้าว กรามหัก ฟันร่วงหมดปาก

โดย onjira_n

23 ม.ค. 2566

5.6K views

เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 22 ม.ค.  พ.ต.ท.ธนเดช ปัญญาลิขิตกุล รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเกิดเหตุ มีหญิงถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส อยู่บริเวณ ลานจอดรถของ บริษัท ไดนามิคทรานสปอร์ต จำกัด ถนนเทพารักษ์ กม.26 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ เป็นหญิงหนึ่งราย ทราบชื่อ น.ส.พลอยไพลิน  อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่แห่งหนึ่ง ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ นั่งอยู่บนเสื่อข้างวงข้าว มีเลือดไหลออกหู ออกปาก เลอะเต็มเสื้อผ้าที่สวมใส่ กรามและฟันหัก อาการสาหัส แต่ยังพอให้การได้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฯ ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำส่งไปรักษาต่อที่ รพ.จุฬารัตน์ 5 ใกล้เคียง

โดย น.ส.พลอยไพลิน (ผู้บาดเจ็บ) กล่าวว่า ขณะ ตน กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อน ๆ จู่ ๆ นายปาณชัย (ผู้ก่อเหตุ) เดินเข้ามาหาที่วงข้าว ไม่พูดจาอะไร เตะเสยเข้าใบหน้าครั้งแรกเลือดออกหู แล้วเตะซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ทำให้กรามและฟันของตนหักทันที

ส่วนสาเหตุ คาดน่าจะมาจาก ตน กับ ภรรยาผู้ก่อเหตุ ได้โพสต์ด่ากันไปมาทางเฟซบุ๊ก เนื่องจาก ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เคยขอยืมรถยนต์ของสามีตนไปใช้ เมื่อนำมาส่งคืน มีริ้วรอยความเสียหายกลับมาด้วย ตนจึงสอบถามถึงความรับผิดชอบ ทำให้เกิดเป็นความบาดหมาง จากนั้นมีการโต้เถียงกันผ่านเฟซบุ๊กมาโดยตลอด แล้ววันนี้ นายปาณชัย ลือโลก (ผู้ก่อเหตุ) ก็เข้ามาทำร้ายร่างกายตน อย่างไม่ทันตั้งตัว เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว


นายปาณชัย (ผู้ก่อเหตุ) กล่าวว่า ภรรยาของตน ได้ขอยืมรถยนต์ของสามี น.ส.พลอยไพลิน (ผู้บาดเจ็บ) ไปใช้จริง เมื่อนำไปส่งคืน คู่กรณี บอกว่ามีริ้วรอย ถูกขูดขีด ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า เป็นความเสียหายเดิม หรือเกิดขึ้นใหม่ แต่คู่กรณี เคยนำรถฯ ไปเคลมประกันภัยซ่อมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ทำไมถึงไม่ซ่อมไปพร้อมกันเลยทีเดียว เหมือนแกล้ง เก็บเอาไว้มาเรียกร้องกับภรรยาของตน อีกทั้ง น.ส.พลอยไพลิน (ผู้บาดเจ็บ) มีการโพสต์ด่าภรรยาของตนมาโดยตลอด เหมือนไม่ยอมจบเรื่อง ไม่รู้ว่าต้องการอะไร ทั้ง ๆ ที่ตนกับภรรยา ก็พร้อมยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ยอมรับตนทำลงไปนั้น เพราะสุดทนจริง ๆ

ในส่วนของ น.ส. กมลวรรณ ภรรยาของนายปาณชัย  (ผู้ก่อเหตุ) กล่าวว่า ตน เคยขอยืมรถฯของสามีผู้บาดเจ็บ ไปใช้จริง ส่วนริ้วรอยที่พบเห็นนั้น ตนไม่แน่ใจว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากที่ตนนำรถฯไปใช้ แต่ก็พร้อมชดใช้ค่าซ่อมส่วนต่างที่เกิดขึ้น และได้พูดคุยกับสามีของผู้บาดเจ็บที่ชื่ออำนวย เข้าใจกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่า นายอำนวย ได้ไปบอกให้ภรรยา หรือ น.ส.พลอยไพลิน (ผู้บาดเจ็บ) เข้าใจหรือเปล่า ซึ่งที่ผ่านมา น.ส.พลอยไพลิน (ผู้บาดเจ็บ) เป็นฝ่ายเริ่มก่อน มีการโพสต์ด่าตนมาโดยตลอด ตนยอมรับว่ามีส่วนผิด ที่ได้โพสต์ด่ากลับไปเช่นกัน กระทั่ง ทำให้สามีของตนเห็นข้อความด่ากัน ทนไม่ไหว จึงลงมือก่อเหตุฯ ครั้งนี้ ตนเสียใจมาก ไม่น่าเกิดขึ้นเลย ขณะเกิดเหตุ ตนนั่งอยู่ที่รถฯ สามีเดินไปคนเดียวโดยไม่มีอาวุธ

นายบี (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะล้อมวงนั่งกินข้าวอยู่นั้น ไม่มีใครทันตั้งตัว เนื่องจาก นายปาณชัย เดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ เมื่อมาถึง ได้ลงมือก่อเหตุทันที หากถ้าเดินเข้ามาแล้ว มีการโวยวาย เสียงดังก่อน ยังพอตั้งตัว ห้ามปรามกันได้ แต่เข้ามาเงียบ ๆ แบบนี้ ห้ามไม่ทันจริง ๆ ซึ่งคนทั้งหมดนี้ ก็รู้จักกันดี เพราะทำงานอยู่ในบริษัทฯ เดียวกัน

ในส่วนของ เจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ได้เชิญตัวนายปาณชัย  ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.บางเสาธง ถึงสาเหตุฯ ครั้งนี้ และรอคำวินิจฉัยอาการของผู้บาดเจ็บจากแพทย์ เพื่อนำมาประกอบสำนวน ในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



คุณอาจสนใจ