สังคม

ตร.สอบสวนกลาง เตือน 'ห้ามกดลิงก์แปลก' เด็ดขาด - เจ้าของร้านข้าวต้มแทบล้มทั้งยืน โดนดูดเงินกว่า 6 แสน

โดย nattachat_c

13 ม.ค. 2566

29 views

วานนี้ (12 ม.ค. 66) เพจ ตำรวจสอบสวนกลาง โพสต์ข้อความระบุ ขณะนี้มีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบริษัทเอกชนส่ง sms ให้ผู้เสียหาย แจ้งเหยื่อว่า จะได้รับของรางวัล หากหลงเชื่อจะหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน แล้วให้พิมพ์ชื่อ นามสกุล ภาษาอังกฤษ และเบอร์โทรศัพท์  มิจฉาชีพจะสามารถควบคุมมือถือระยะไกลได้ และจะทำการโอนเงินไปสู่บัญชีเป้าหมายด้วยตนเอง ปรากฎว่าเงินหายไปหมดบัญชี


วิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

1.มีสติ หากมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานใดติดต่อหรือแสดงตัว ไม่ว่าเรื่องใดๆ ให้โทรสอบถามจากเบอร์กลางของหน่วยงานที่ถูกอ้างถึง

2.ห้ามกดลิงก์หรือติดตั้งแอปที่ไม่ทราบที่มาที่ไป รวมถึงไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ เมื่อรับสายจากต้นทางที่ไม่ทราบที่มาที่ไปชัดเจน

3.หากเผลอกดลิงก์ติดตั้งแอปแปลกปลอมดังกล่าว ให้รีบลบ หรือรีเซ็ตเครื่องใหม่ทันที

4. หลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปธนาคาร กับบัญชีธนาคารที่มียอดเงินสูง หากจำเป็นให้จำกัดยอดวงเงินที่รับความเสี่ยงได้เอาไว้

-------------

วานนี้ (12 ม.ค. 66) ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.สุนิสา แนวถาวร อายุ 29 ปี ชาว จ.มหาสารคาม เจ้าของร้านราชาข้าวต้ม ตั้งอยู่บริเวณ ถ.เลี่ยงเมืองปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่า


เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65 เวลา เวลา 14.45 น. มีมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหาหลอกลวงอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และให้กดรับลิงก์ ต่อมา พบว่าเงินในบัญชีธนาคารกสิกรไทย ถูกโอนออกไปยังบัญชีธนาคารยูโอบี พร้อมเพย์ 0628960859 ยอดเงิน จำนวน 643,882 บาท หมดเกลี้ยงบัญชี  จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด


น.ส.สุนิสา (ผู้เสียหาย) เผยว่า ในวันดังกล่าว มีเบอร์โทรศัพท์โทรเข้ามาหาตนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร สอบถามว่าตนชื่อ-นามสกุลนี้ใช่มั้ย มีข้อมูลของตนอยู่ในกรมสรรพากรเรื่องรายได้ไม่ถึงกำหนดที่ต้องชำระภาษีและพูดการลดหย่อนภาษี มิจฉาชีพบอกให้ตนไปติดต่อที่สำนักงาน หากไม่มีเวลาสามารถทำออนไลน์ได้เลย


จากนั้นมิจฉาชีพให้ตนแอดไลน์ ส่งลิ้งค์มาให้ โทรมาสอนขั้นตอนการยืนยันตัวตน ให้ตนเองทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ให้ตนกดลิ้งค์ พอกดตามลิ้งค์ที่มิจฉาชีพให้มา มันขึ้นแอพกรมสรรพากร มิจฉาชีพให้ตนตรวจสอบชื่อ ใส่รหัส 6 ตัว ให้ตนพิมพ์ชื่อ-นามสกุล รายละเอียดต่างๆ และให้ติ้กเครื่องหมายข้อ 1 ข้อ 2 เมื่อตนติ้กที่ข้อ 1 มันขึ้นอีกหน้านึงเหมือนให้ตนปลดล็อค ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ ตนอ่านไม่ออก จึงถามถามกลับไปว่าต้องทำหรอ มิจฉาชีพบอกต้องทำเพื่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบข้อมูลได้


พอตนทำตามที่มิจฉาชีพแนะนำ มันก็ขึ้นหน้ากำลังตรวจสอบข้อมูล มิจฉาชีพบอกให้ตนรอให้โหลดครบ 100% เพื่อให้กรมสรรพากรตรวจสอบได้ ระหว่างนั้นคือไม่ได้วางสาย มิจฉาชีพโทรคุยกับตนตลอด โดยตนเปิดลำโพงฟังเสียงและให้ตนทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพบอก พอหน้าระบบขึ้นโหลดครบ 100% มิจฉาชีพบอกตนว่าโหลดครบแล้ว ต่อไปถ้ามีสรรพากรโทรมา จะเข้าโครงการคนละครึ่งได้เลย เพราะตนทำการลดหย่อนภาษีไปแล้ว ไม่ต้องไปเสียภาษีที่ไหนอีกแล้ว เพราะลดหย่อนไปแล้วเนื่องจากตนเองรายได้ไม่ถึง โดยทุกทีเราจะต้องเสีย ใช้เวลาคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง


จากนั้นมิจฉาชีพวางสายไป แต่โทรศัพท์มือถือของตนยังค้างหน้าแอพอยู่ กดอะไรก็ไม่ได้ กดกลับอะไรไม่ได้เลย ตนจึงวางโทรศัพท์และไปเตรียมของเปิดร้านต่อ เพราะไม่ได้คิดว่าเป็นมิจฉาชีพ คิดว่ามือถือคงมีปัญหา สาเหตุที่ตนเชื่อเพราะก่อนหน้านี้หลายเดือนที่ผ่านมา แม่ของตนโทรมาบอกว่ามีหนังสือจากกรมสรรพากรมาที่บ้าน เขาก็ไม่ได้ดูเพราะคนแก่อยู่บ้าน จึงทำให้ตนหลงเชื่อมิจฉาชีพ


หลังจากนั้นตนปิดและเปิดมือถือใหม่ มันเด้งเตือนว่ายอดเงินของตนเหลือ 0.65 บาท โดยมียอดเงินโอนออก 643,882 บาท ไปยังบัญชีชื่อ “น.ส.เบญรงค์ สุดยอดดี” จากนั้นมิจฉาชีพได้ไปกดยกเลิกลิ้งค์ที่ส่งมาในไลน์ (ผู้เสียหายแคปไม่ทัน) ผู้เสียหายพยายามโทรไลน์กลับไปยังมิจฉาชีพแต่ไม่ตอบรับ ยืนยันว่าตนไม่รู้จัก ขนาดแฟนของตนเองตนยังไม่เคยโอนเงินให้เยอะขนาดนี้


ทั้งนี้ ตนไปติดต่อธนาคารกสิกรไทยที่ตนเปิดบัญชี แจ้งธนาคารว่ามียอดเงินโอนออกไปจากบัญชี ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้โอน ธนาคารสามารถดึงกลับมาได้มั้ย มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง ธนาคารบอกว่าดึงไม่ได้ต้องไปแจ้งความ และบอกให้ตนอายัดบัญชีไว้ไม่ให้เงินออก


ตนจึงบอกไปว่าตนไม่มีเงินออกแล้ว มันเกลี้ยงบัญชีแล้ว ธนาคารสามารถตรวจสอบได้มั้ยว่าปลายทางเป็นอะไรยังไง ทางธนาคารที่ตนไปติดต่อก็โทรเข้าสำนักงานใหญ่ ได้ข้อมูลมาว่าปลายทางที่โอนไปเป็นธนาคารยูโอบี มีชื่อบัญชีนี้ รู้แค่ 4 ตัว หลังของเลขบัญชีมิจฉาชีพที่รับโอน


น.ส.สุนิสา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งใจเก็บเงินนี้ไว้เป็นเงินเก็บของครอบครัว ตนทำงานหาเงินมาเก็บไว้มาตลอดเกือบ 10 ปี ตั้งใจจะทยอยเงินไปเก็บไว้บัญชีของแฟนบางส่วน ให้มันมีเงินเก็บทั้ง 2 บัญชี


ตอนเกิดเหตุมีแจ้งเตือนมา ตนนึกว่าข่าวแจ้งเตือนเลยไม่ดู แต่พอตนจะโอนเงินไปยังบัญชีแฟน 150,000 บาท กลับโอนไม่ได้ ตนเลยไปกดตั้งค่ายอดเงินที่จะทำโอนต่อวันใหม่เพราะคิดว่ามันเกินวงเงินที่ต้องโอนต่อวัน และหน้าแอปมันขึ้นว่าเงินในบัญชีของคุณไม่เพียงพอ ตนก็แปลกใจและเข้าไปดูหน้าบัญชีของตน พอเห็นยอดเงินเหลือ 0.65 บาท ขาอ่อนไม่มีแรง เรียกแฟนมาดูก็ตกใจมาก


“ความรู้สึกคือไม่มีแรง เหนื่อยท้อ เจ็บใจเงินหามาทั้งชีวิต เหมือนหามาให้คนอื่นโกง จะกินอะไรหรู ๆ แพง ๆ ยังไม่กล้ากิน แฟนก็ไม่มีแรงจะทำมาหากินต่อ ที่ทำมาเหมือนมันสูญไปทั้งหมด เข่าทรุดกินนอนไม่ได้ บางวันร้องไห้เสียใจ หมดกำลังใจแต่จะทำยังไงได้ เราชาวบ้านธรรมดาไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย เป็นลูกชาวนาจนๆ คนหนึ่ง ตนมีลูก 2 คน ที่ต้องดูแล คนไม่เข้าใจก็จะสมน้ำหน้าเรา ถ้าไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจหรอก”


น.ส.สุนิสา กล่าวอีกว่า “ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ถ้าเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้อย่าเพิ่งหลงเชื่อ อย่ารีบกดลิ้งค์  อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามคนร้าย ไม่อยากให้ไปหลอกคนอื่นอีก อย่างตนเองไม่ได้มีเงินมาก เก็บหอมรอมริบแต่โดนหลอกเอาไปเกลี้ยงบัญชี บางครั้งคิดสั้น แต่นึกถึงหน้าลูก พ่อแม่ จึงชีวิตกลับคืนมากได้ ตนทำงานมาทั้งชีวิต เงินหายหมดบัญชี มันทำใจลำบาก กว่าจะผ่านอุปสรรคอะไรมาได้ ทั้งฝนลม โควิด พอฟื้นตัวได้ก็โดนหลอก”


ด้านนายวราพล ชารีงาม อายุ 29 ปี แฟนหนุ่ม กล่าวว่า “รู้สึกเสียใจเงินหามาทั้งชีวิต ตอนที่แฟนมาบอกว่าเงินหายหมดบัญชี จึงรีบปิดร้านพากันไปธนาคาร เข่าทรุดจนทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้เพราะท้อ เงินก้อนนี้ตนและแฟนสาวช่วยกันทำงานเก็บมาตั้งแต่อายุ 19 ปี เก็บมาเล็กๆ น้อยๆ พอเกิดเหตุการณ์นี้เงินหายไปในพริบตา มันเป็นเงินที่แบ่งเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัวและดูแลลูกด้วย  อยากให้ตำรวจช่วยตามตัวมิจฉาชีพให้ได้ ทุกวันนี้กลัวไปหมด ไม่กล้ากดลิงก์อะไรเลย”

---------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MDRL0DJnR-k

คุณอาจสนใจ

Related News