แม่ร้อง อาเลี้ยงขืนใจลูกสาววัย 12 ปีนานนับปี ซ้ำขู่ฆ่าหากบอกใคร

ช่วงบ่ายวันนี้ (12 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นส.หวาน (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี แม่ของ ด.ญ. อายุ 12 ปี ว่าลูกสาวของตนถูกนายศุภชัย ซึ่วเป็นอาเลี้ยง บังคับข่มขืนมานานนับปี แถมยังขู่ฆ่าและขู่จะนำคลิปออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ หากด.ญ.ไม่ยอมและนำเรื่องนี้ไปบอกใคร


ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านญาติของนายศุภชัย ในพื้นที่ตำบลคลองอุดมจร อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลัง นส.หวาน ได้หนีออกมาจากบ้านหลังเกิดเหตุในพื้นที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ก่อนจะส่งลูกสาววัย 12 ปี ไปอยู่กับญาติที่จังหวัดปราจีนชั่วคราว เพราะเกรงกลัวนายศุภชัย จะตามล่า


ก่อนจะนำแชตการสนทนาทั้งหมดของนายศุภชัย และลูกสาว ให้ผู้สื่อข่าวดู โดยในบทสนทนามีการขอร่วมหลับนอน และกำหนดกฎกติกาไว้ 4 ข้อ หาก ด.ญ. ไม่ทำตาม ก็จะนำภาพลับที่ถ่ายไว้ทั้งหมดมาเผยแพร่ ทำให้ด.ญ.กลัวจึงต้องยอมทนมานานนับปี


นส.หวาน เปิดเผยว่า ตนเองมาจับได้เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.66) ตนเองไปรับลูกสาวกลับมาจากโรงเรียนแล้วรู้สึกปวดหัว จึงมานอนพักที่บ้าน เป็นจังหวะที่ลูกสาวเดินเข้าห้องน้ำ แล้ววางโทรศัพท์ไว้ สักพักมีข้อความเด้ง เป็นชื่อของอาเลี้ยงเด้งขึ้นมา ตนเองก็เริ่มรู้สึกแปลกใจ


พอลูกสาวออกมาจากห้องน้ำ จึงได้ซักถามและให้ลูกสาวเปิดล็อกโทรศัพท์ ตอนแรกลูกสาวไม่ยอมปลดล็อกให้เพราะเกรงกลัวคำขู่ จนตนเองต้องบังคับลูกว่ากลัวใครมากกว่ากัน จนสุดท้ายลูกสาวจึงปลดล็อกโทรศัพท์ และร้องไห้ปล่อยโฮออกมา


เมื่อตนอ่านข้อความแชตและรูปภาพอนาจารของลูกสาวในแชตที่คุยกับนายศุภชัยแล้ว รู้สึกใจหวิวพูดอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าคนใกล้ตัวจะมาทำกับลูกสาวตนแบบนี้


นส.หวาน เปิดเผยต่อมา เมื่อสอบถามลูกสาว เหตุการณ์ครั้งแรกที่นายศุภชัย ก่อเหตุขืนใจนั้นมีระยะเวลานานนับปี ก่อนที่ตนจะย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ โดยในแชตนายศุภชัย บังคับไว้ 4 ข้อ คือ 1.ให้ลูกสาวเพิ่มเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก 2.กดติดตามกลับในไอจี 3.บังคับให้ด.ญ.หวานออกมานวดให้ และ4.คือต้องยอมมีอะไรกัน


หากไม่ยอมทำ 4 ข้อนี้ ก็จะนำรูปภาพของด.ญ.ไปประจานในเฟซบุ๊ก และส่งให้เพื่อนในห้องเรียนของ ด.ญ.ดู ซึ่งทุกครั้งที่นายศุภชัยจะมีอะไรกับลูกสาวตน จะใช้ช่วงที่ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือช่วงกลางดึกที่ทุกคนนอนแล้ว


ล่าสุดเมื่อ 2-3 คืนมา นายศุภชัยทักแชตมาหาลูกสาวตนขณะนอนอยู่ในห้องกับตน และให้ลูกสาวบอกกับตนว่า จะออกไปล้างขวดนมให้น้อง ซึ่งบ้านของตนที่อยู่กับสามีใหม่ปลูกติดกับบ้านของนายศุภชัยที่อยู่กับภรรยา และที่บ้านของตนไม่มีห้องน้ำ จึงต้องใช้ห้องน้ำในบ้านของนายศุภชัยมาโดยตลอด


เมื่อลูกสาวออกจากห้องไปตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าไปล้างขวดนมให้น้อง เพราะลูกสาวไม่เคยแสดงท่าทีออกมาว่าถูกกระทำอนาจาร เมื่อลูกสาวออกมาจากห้องแล้ว นายศุภชัยก็จะพาไปทำอนาจารข้างบ้านใต้ต้นกระท่อมข้างทาง โดยมีแค่แสลมสีดำขึงบังไว้ หรือบางทีก็พาหลานสาวไปทำอนาจารในห้องนอนของนายศุภชัย เมื่อไม่มีคนอยู่บ้าน


และที่สะเทือนใจไปมากกว่านั้น เมื่อไม่นานมานี้นายศุภชัยได้บังคับลูกสาวตนไปทำอนาจาร แต่น้องสาวด.ญ.เดินตามไปด้วย แต่ด.ญ.ได้ไล่น้องกลับไป และบอกกับนายศุภชัยว่า อย่าทำน้องหนู ให้ทำหนูเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นคำพูดที่ลูกสาวได้บอกตน


หลังจากนั้นเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (11 ม.ค.) ตนเองรอให้นายศุภชัยกลับมาจากทำงาน และจะสอบถามพูดคุยในเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่เมื่อนายศุภชัยกลับมากับภรรยา และเหมือนจะรู้ว่าตนเองรู้เรื่องแล้ว ก็ไม่ยอมลงจากรถก่อนจะให้ภรรยาเข้าไปหยิบของภายในบ้าน และขับรถกระบะนิสสัน นาวาร่า สีทอง ทะเบียนกรุงเทพมหานครออกไป จนรุ่งเช้าตนเองจึงพาลูก ๆ ออกมาจากบ้านสามีใหม่ และส่งด.ญ.ไปอยู่กับญาติที่จังหวัดปราจีนบุรี


ส่วนตนก็หนีออกมาอยู่ที่บ้านญาติของนายศุภชัย และพยายามติดต่อให้เขามาพูดคุย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ตัดสินใจนำเรื่องนี้ออกมาร้องสื่อให้ช่วยเหลือ ส่วนอาการของ ด.ญ.น้ำหวาน มีบ่นว่าปวดท้องตั้งแต่เมื่อวาน และยังคงหวาดกลัวคำพูดที่นายศุภชัย ขู่ฆ่าไว้หากนำเรื่องออกมาบอกใคร


ขณะที่ ญาติของนายศุภชัย เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้า แม้ตนจะเป็นญาติของนายศุภชัย ก็รับไม่ได้กับเรื่องนี้ ทั้งยังมาทราบภายหลังว่า นายศุภชัยยังเคยแชตหาลูกสาวตน ที่มีอายุเพียง 15 ปี ชวนให้ออกไปด้านนอกเวลากลางคืน และให้ถ่ายภาพของลับให้ดูเพื่อแลกกับเงิน แต่ลูกสาวของตนไม่เล่นด้วย พร้อมลบแชต และบล็อกเบอร์นายศุภชัยทิ้งไปก่อนหน้านี้


ตนเองเสียความรู้สึกมากๆ ขนาดลูกสาวของตน เป็นญาติแท้ของนายศุภชัยก็ยังไม่เว้น อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวนายศุภชัย มาดำเนินคดีติดคุกโดยเร็ว