สังคม

โฆษก พศ. สั่งเร่งสอบปมครูบาชื่อดังขอนแก่น มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย

โดย paranee_s

10 ม.ค. 2566

200 views

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part5.2 แจ้งเรื่องมายังผู้สื่อข่าวว่า มีอดีตโยมอุปัฏฐากพระเกจิชื่อดัง จังหวัดขอนแก่น ส่งภาพของลับผู้ชายที่ระบุว่าเป็นของพระเกจิ ส่งไปให้ผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย และหากเป็นจริงก็ไม่อยากให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง เพราะพระเกจิดังกล่าวมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั้วประเทศ


เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (10 ม.ค. 65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นางสาววาสนา อายุ 33 ปี ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ที่นำเรื่องราวออกมาเปิดเผยในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยได้นำหลักฐานข้อความแชตต่างๆ พร้อมภาพหลักฐานยืนยันว่าบุคคลที่กล่าวหานั้นคือ ครูบาชื่อดังขอนแก่นจริง ๆ


ซึ่งมีทั้งคลิปเสียงสนทนาที่ครูบาพูดคุยเรื่องทั่วไปกับผู้ชาย โดยเธอรวบรวมหลักฐานส่งข้อมูลให้สื่อ ทั้งหมด 4 คน เป็นผู้ขายทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอ ซึ่งเธอถ่ายเก็บเอาไว้เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 64 โดยขณะนั้นที่ข้อเท้ายังไม่มีการสักลายแต่อย่างใด


และมีภาพที่เธอนำมายืนยันกับสื่อมวลชนว่า เข้าไปเป็นโยมอุปัฏฐากเมื่อปี 64 โดยขณะนั้นที่ข้อเท้ายังไม่มีรอยสัก และต่อมาเป็นอีกภาพที่ถ่ายด้วยกันเมื่อปี 65 ซึ่งมีรอยสักพญานาคที่ข้อเท้าแล้ว และหลักฐานต่าง ๆ เป็นข้อความแชตเชื่อได้ว่าครูบาเป็นคนพิมพ์เอง เนื่องจากมีคลิปเสียงที่ส่งให้ใช้ เป็นการสนทนาแทนการพิมพ์อีกจำนวนหลายคลิป


พร้อมกันนี้เธอได้นำของขลัง เครื่องราง รวมทั้งพระเหรียญต่าง ๆ ที่ครูบาทำพิธีปลุกเสกขึ้นมาในพิธีสำคัญต่าง ๆ ในพื้นที่ ซึ่งนำมาให้ผู้สื่อข่าวดูเป็นจำนวนมาก โดยมูลค่าการซื้อขายในตลาดอยู่ที่เหรียญละพัน และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามแรงศรัทธาในพิธีปลุกเสกต่างๆ


นอกจากนี้ เธอ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง ยืนยันสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริงและไม่ได้มีความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับครูบาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ครูบาและลูกศิษย์ที่วัดออกมาพูดนั้น กล่าวหาว่าโกงเงินวัดบ้าง ทั้งที่เธอไปทำบุญ มีหลักฐานทุกอย่างในการทำบุญ ซึ่งต่าง ๆ ที่พูดมานั้น ทำให้ตนเองเกิดความเสียหายเสียหาย จึงต้องออกมาปกป้องในสิทธิของตัวเอง และปกป้องพระพุทธศาสนาด้วย


ส่วนในเรื่องของการดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องนี้มีอย่างแน่นอน และจะได้ไปปรึกษาทนายความและผู้รู้กฎหมาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอีกครั้ง


ในส่วนของเรื่องรอยสักนั้น เป็นรอยสักที่เพิ่งสักเป็นรูปพญานาค โดยสักเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ทุกอย่างตนเองมีหลักฐาน ทั้งคลิป ทั้งภาพ ยืนยันได้ว่าเป็นครูบาชื่อดังตัวจริงที่ส่งภาพของลับให้กับผู้ชายรายหนึ่ง


นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอื่น ๆ ที่นำมาเปิดเผย ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง พูดตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง มีทั้งข้อความที่ครูบายอมรับสารภาพว่าทำจริง และเรื่องที่ขอโอกาส ขอชีวิตใหม่ ทั้งหมดนั้นตนเองมีพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งแชตที่มีการพูดคุยไกล่เกลี่ย ปกปิดหลักฐานภาพลับต่าง ๆ จากผู้ชายอักษรย่อ จ. โดยเจรจาขอเงินจำนวน 120,000 บาท จากครูบา แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ และตอนนี้คิดว่าน่าจะคุยกันได้แล้ว


ขณะที่ นายเอ (นามสมมุติ) ชาว จ.มหาสารคาม ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของครูบา เคยไปช่วยขับรถไปกิจนิมนต์ให้ ซึ่งยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า จำได้แม่นว่าเป็นครูบาทั้งมือทั้งผิวพรรณ หากใครเคยใกล้ชิดจะรู้ทันทีว่ามือใคร วินาทีแรกที่รู้จากนางวาสนา หัวใจตกไปอยู่ตาตุ่ม


ยิ่งไปกว่านั้นพอเห็นหลักฐานต่าง ๆ ยิ่งพูดไม่ออก และในส่วนของข้อเท้าที่มีรอยสักรูปพยานาคนั้น ยืนยันว่า เป็นของครูบาที่เพิ่งสักได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่คบหากับผู้ชายอักษร ย่อ จ. โดยทั้งคู่คบกันประมาณ 2 ปี และหากย้อนนับไปก็จะพอดีกับช่วงที่สักข้อเท้าหลังจากที่คบกับผู้ชายคนดังกล่าวในวันที่ 4 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา


จึงทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ทั้งนี้เป็นความคิดส่วนตัวของตัวเองที่เคยเลื่อมใสศรัทธาในตัวครูบาเหมือนลูกศิษย์ลูกหาคนอื่น ๆ และตนเองก็เคยเข้าไปขับรถพาไปรับกิจนิมนต์หลายครั้ง จดจำร่างกายได้ทั้งหมด เพราะด้วยความที่ดูแลใกล้ชิดก็จะมองออกทันทีว่าใช่หรือไม่ใช่ และไม่จำเป็นต้องเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเป็นปี เพียงแค่ 3 เดือน หรือ 6 เดือน หากใครได้อยู่ใกล้ชิดก็จะรู้ทันทีว่าเรื่องจริงหรือโกหก


พร้อมยืนยันอีกครั้งว่าที่พูดมาทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว และเป็นความเชื่อส่วนตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนเองเชื่อในพยานหลักฐานที่ปรากฏ


ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายติราช ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น โดยได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ ว่า เบื้องต้นได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน หากใครมีข้อมูลก็ขอความร่วมมือให้ช่วยประสานให้ที เพื่อจะใช้เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของคณะสงฆ์ มีหลักฐานที่แน่ชัดพอก็จะช่วยทางคณะสงฆ์ดำเนินการได้ดีและง่ายขึ้น


ซึ่งในการดำเนินข้อมูลนี้ทางสำนักพุทธจะถวายข้อมูลแก่คณะสงฆ์ ซึ่งจะดำเนินการด้วยตัวท่านเอง เนื่องจากว่าพระสงฆ์จะมีระบบการปกครองของท่านเอง ทั้งเรื่องพระธรรมวินัยและข้อกฎหมายต่าง ๆ ดังนั้นทางสำนักคณะพุทธ ถ้ามีข้อมูลต่าง ๆ ก็จะสนับสนุนเข้าไป และตอนนี้ทางสำนักพุทธยังไม่ได้มีการลงพื้นที่ไปที่วัด แต่ทั้งนี้ก็จะเร่งดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องที่กำลังอยู่ในกระแสของสังคม


ด้านคุณสุพัฒน์ เมืองอัจฉา โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือพศ. กล่าวว่า ทางพศ.ได้ส่งข้อมูลพระเกจิดังที่เป็นข่าว ให้พศ.จังหวัดขอนแก่น นำไปถวายแด่คณะสงฆ์จังหวัด เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หาข้อมูลเชิงลึก


เบื้องต้นจากหลักฐานไม่สามารถชี้มูลความผิดได้ ว่า จะถึงขั้นสึกหรือไม่ ต้องให้เวลาพศ.จังหวัดและเจ้าคณะสงฆ์จังหวัดพิจารณา

คุณอาจสนใจ

Related News