ประชุม ครม.เต็มคณะ เคาะมาตรการคุมโควิด รับ นทท.จีน วันนี้ - 'อนุทิน' ยันยึดแนวทางเดิม ไม่เลือกปฏิบัติ

'อนุทิน' ลั่นวันนี้บ่าย 3 จะประชุม ครม.เต็มคณะ เคาะมาตรการคุมโควิด-19 หลังจีนเปิดประเทศ ยันยึดแนวทางเดิม ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกชาติที่เข้าไทยต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มั่นใจไทยมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยว แม้จะมีความเสี่ยง แต่เทียบแล้วให้ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมากกว่า ย้ำสายพันธุ์โควิด และภูมิคุ้มกัน ของไทยและจีนไม่ต่างกัน


เมื่อวันที่ 4 ม.ค.66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ ปลัดกระทรวง และผู้บริหารหน่วยงานสังกัดในกระทรวงสาธารณสุข ร่วม ประชุม ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 1/2566


โดยหลังการประชุม นายอนุทิน ได้แถลงข่าวในการประชุมได้เน้นย้ำมาตรการต่าง ๆ ในเรื่องความพร้อม การบริหารจัดการสถานการณ์โควิด ประกาศปีสุขภาพผู้สูงวัยเพื่อรองสังคมผู้สูงอายุ


สำหรับเรื่องการพิจารณามาตรการรับนักท่องเที่ยวของไทย กรณีจีนเตรียมเปิดประเทศ ยังยืนยันแนวปฏิบัติเดิม สำหรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ ไม่มีการเลือกปฏิบัติไม่ว่าชาติใด ที่ต้องรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม โดยมีกรมควบคุมโรคเป็นผู้กำหนดเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติ ที่มีคณะผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ และนักวิชาการ ร่วมกันพิจารณา โดยในวันนี้ (5 ม.ค.) จะมีการประชุม แผนการรับนักท่องเที่ยว โดย ครม.จะเป็นผู้พิจารณา


ส่วนประกันสุขภาพ ที่นักท่องเที่ยวจีน ต้องซื้อเข้ามายังประเทศไทย นั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ออกมาเป็นมาตรการบังคับ เป็นเพียงคำแนะนำ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ ที่จะครอบคลุมการรักษาพยาบาลหากติดเชื้อโควิด-19


ยืนยันไทยมีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวทุกประเทศ แม้จะมีความเสี่ยง แต่เมื่อเทียบกับประโยชน์ด้านเศรษฐกิจแล้ว มีมากกว่า


นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า หากพิจารณาเรื่องสายพันธุ์โควิด ในประเทศจีนไม่แตกต่างจากประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ที่เป็นสายพันธุ์โอมิครอน เช่นเดียวกับภูมิคุ้มกันที่ไม่แตกต่างกัน เนื่องจากประเทศจีนส่วนใหญ่ ประชากรติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมากแล้วมีภูมิคุ้มกันธรรมชาติ รวมถึงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด ที่ส่วนใหญ่ประชากร ฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 3 เกือบครอบคลุม ร้อยละ 90


หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์เมื่อเข้าไทยแล้ว อยากจะรับวัคซีนโควิด-19 สามารถติดต่อสถานพยาบาลได้โดยตรง มีวัคซีนเพียงพอ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งทางกรมควบคุมโรคได้จัดตั้งศูนย์ อำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ศูนย์การแพทย์บางรัก เพิ่มเติมด้วย


ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการจัดหาวัคซีนโควิดรุ่นใหม่ 2 สายพันธุ์ นายอนุทิน ระบุว่า เบื้องต้นได้มีการขอรับบริจาคมาจากประเทศอื่น ๆ ซึ่ง ยืนยันว่า วัคซีนโควิด ที่ไทยมีอยู่ขณะนี้มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับวัคซีน 2 สายพันธุ์


ข้อมูลจาก นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า เบื้องต้น มีการคาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามายังไทยไตรมาสแรกต้นปี 2566 ประมาณร้อยละ 5 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด แบ่งเป็น เดือนมกราคม 60,000 ราย กุมภาพันธ์ 90,000 ราย และมีนาคมประมาณ 1.5 แสนราย


ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่จะเข้ามาในประเทศไทย ช่วงแรกจะเป็นการทยอยเข้ามาเป็นกลุ่มย่อยก่อน เช่น นักธุรกิจเดินทางมาเยี่ยมญาติและเดินทางมาเพื่อศึกษา ซึ่งทางการจีน ได้มีการระบุชัดเจนว่ากรณีการเดินทางกลับประเทศต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR ภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งหากพบการติดเชื้อโควิดก็จะต้องให้ทำการรักษาจนกว่าจะหายถึงจะกลับเข้าประเทศจีนได้ จึงเป็นที่มาของคำแนะนำที่ให้นักท่องเที่ยวจีนซื้อประกันสุขภาพระยะสั้นที่ครอบคลุมการรักษาโควิด


โดยแนวปฏิบัติสำหรับการควบคุมการแพร่ระบาด ตอนนี้ทางกรมควบคุมโรคได้ให้ศูนย์ EOC ติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย ว่ามีความแตกต่างของการแพร่ระบาดสายพันธุ์โควิดหรือไม่ และดูว่าชาติใดมีการติดเชื้อโควิดมากกว่าชาติอื่น ๆ เพื่อนำข้อมูลมาเป็นแนวทางในการออกมาตรการควบคุมโรค รวมไปถึงมีทีมเก็บตัวอย่างจากระบบน้ำบนเครื่องบิน เพื่อดูในเรื่องของสายพันธุ์โควิดเช่นเดียวกัน


ขณะที่จุดตรวจคัดกรองอุณหภูมิ ที่สนามบินในประเทศนั้น ได้ยกเลิกทั้งหมดแล้ว เนื่องจากมีข้อมูลว่า การวัดอุณหภูมิ ไม่สามารถยืนยัน การติดเชื้อโควิด-19 ได้ และทำให้เกิดความแออัดในพื้นที่

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/08qNIL48baQ