สังคม

สาวร้องสื่อ ถูกสามีระดับผอ.สพป.เขต ทำร้าย-ฟ้องหย่า จับลากไปกับเก๋ง

โดย paranee_s

4 ม.ค. 2566

3.5K views

วันนี้ (4 มกราคม 2566) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางสาวเบญจวรรณ อายุ 30 ปี บ้านม. 11 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบัน อาชีพ ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ เปิดเผยคลิปกระโดดเกาะหน้ารถสามีตอนทะเลาะกัน และ ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ ดังนี้


“ดิฉันภรรยาท่าน ผอ สพป. สุราษฎร์ธานี นางสาวเบญจวรรณ ซึ่งได้จดทะเบียนสมรสกัน มีบุตร 1 คน อายุ 1 ขวบ 10 เดือน จะแจ้งเรื่อง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ทำร้ายร่างกายภรรยาและทอดทิ้งทั้งลูกและภรรยา ทิ้งหนี้สินไว้โดยไม่รับผิดชอบใด ๆ


ตอนจีบใหม่ ๆ ท่านเป็น รอง ผอ. ตอนนี้เป็น ผอ.เขต พอได้รับตำแหน่ง เหมือนเขาหลงอำนาจ ลืมตัว ละเลยหน้าที่ มีพฤติกรรมแปลก ๆ ชอบชวนทะเลาะ ไปประชุมต่างจังหวัด ปิดเครื่อง เปิดอีกทีตอนจะถึงบ้าน หาเรื่องทะเลาะบ่อย


ตอนจีบใหม่ ๆ เขาเอาใจทุกอย่างจนเราหลงใจเชื่อใจ พอตนท้องเขาบอกว่าให้ไปทำแท้ง ตนกลัวบาปเลยทำทุกทางเพื่อให้มีลูกอยู่ จนตอนนั้นเขากลัวส่งผลกระทบถึงตำแหน่งเขา ทางครอบครัว เลยให้จดทะเบียนสมรส และเขากำลังวางแผนขึ้นเป็น ผอ.เขต 


พอลูกคลอดออกมา เขาสอบได้ตำแหน่ง ผอ.สพป.สุราษฎร์ธานี ระดับเขต เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ จนถึงปัจจุบัน ไม่ให้ออกงาน เหมือนเป็นเมียน้อย ไปตลาด ไปห้างเป็นครอบครัว ไม่เคยได้ไป เพราะเขาไม่ไปกับเรา เหมือนปิดกั้นทุกอย่าง


วันที่ 16 ธ.ค. 65 ได้ทะเลาะกันเรื่องเงิน เขาจะขับรถไปอยู่บ้าน ลูกตนเลยห้าม วิ่งไปที่รถ เขาลากตนกับรถเก๋ง ตนจึงหาทางช่วยตัวเอง กระโดดขึ้นกระโปรงรถ เขาขับอย่างเร็ว เพื่อเบรกรถให้ตนตกลงมาจากรถ จากนั้นลงรถมาทุบตีตน แม่ตนเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาปกป้องลูกตัวเอง ใช้ไม้กวาดทางมะพร้าว ตีสามีตน


สามีใช้ตนบัง เพื่อตัวเองได้ไม่ต้องเจ็บตัว ตั้งแต่วันเกิดเหตุเขาไปไม่กลับเลย เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนไลน์ และไม่เคยโทรศัพท์กลับมาหาเลย ตนกับลูกลำบาก เขาทิ้งหนี้สินไว้ทุกอย่าง และตนเงินเดือน 9,000 บาท จะเอาเงินที่ไหน ปลดหนี้


ตนไปหาเขาที่ทำงานว่าจะถามว่าเอายังไง เขาสั่ง ให้ยาม ปิดประตูรั้วของสำนักงานเขต ซึ่งจริง ๆ ไม่มีสิทธิ์สั่งปิด เพราะเป็นสถานที่ราชการ ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์เข้า ยามบอกตนว่า ผอ.เขต สั่งไม่ให้ตนเข้าไป ตนไม่ได้มีช่องทางเจอเขาเลย รออยู่ 2-3 วัน ตัดสินใจไปหาเขาบ้านลูก เขาตอบมาว่า จะฟ้องหย่าตน ถามว่าข้อหาอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นถึงระดับ ผอ.เขต ตนทำอะไรเขาไม่ได้ และจะฟ้องเอาลูกไปเลี้ยงเอง


ซึ่งตนไม่เคยทอดทิ้งลูก แต่เขาทิ้งเรา 2 คนหลายครั้ง และครั้งนี้เขาใจดำมาก ๆ ลูกไม่สบาย เขายังใจดำ และไม่รับผิดชอบ หนี้สินใด ๆ


คนนอกมอง ผอ.เขต รักเด็ก คือการสร้างภาพ รักเด็ก แต่ความเป็นจริงเขาได้ทอดทิ้งเรา 2 คนแม่ลูกให้อยู่กันตามลำพัง เขาให้เลขาโทรมาบอกว่า มีอะไรให้สั่งมาทางเลขา ถามว่าเลขา มีหน้าที่ประสานเรื่องครอบครัวด้วยไหม เลขาพูดว่า ให้น้องจ๋าทำใจนะ ท่านไม่กลับไปอยู่กับน้องจ๋าแล้ว ถามว่าเลขามีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ ครอบครัวพัง บาปหนัก


ซึ่งตอนนี้ดิฉันได้แจ้งความไปแล้วรอหลังปีใหม่ ตำรวจออกหมายเรียกท่านสำเริง ไปให้การที่โรงพัก แต่ ณ ตอนนี้ ได้ทอดทิ้ง ไม่ได้ติดต่อทางบ้านใดๆ ทิ้งหนี้สินไว้ให้


และวันที่เลขาโทรมา ตนบอกว่าแจ้งความแล้ว เขาฝากมาบอกว่าให้แจ้งความเลย ไม่ต้องถอนแจ้งความ เขาไม่กลัวคดีอาญา


ซึ่งวันที่ตนไปหาเขาที่บ้านลูก นอกจากเขาบอกจะฟ้องหย่า ยังไล่ตนให้ไปหาสามีใหม่อีกด้วย ตนเห็นพฤติกรรมผิดปกติมาหลายเดือน คิดว่าเขาน่าจะมีคนใหม่ ถึงได้หาเรื่องจะหย่า เพราะลูกยัง 1 ขวบ 10 เดือน


ตัวเขาคุมโรงเรียน 158 โรงเรียน แต่เรื่องภายในครอบครัวบริหารไม่ได้เลย ดิฉันถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่ครั้งแรก ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เขาจะทุบตี เอาหัวไปกระแทกพื้น จนบางครั้งเป็นลม และเขายังเอาตนไปนินทากับลูกน้อง ว่าสาเหตุที่จะเลิกเพราะตนชวนทะเลาะทุกวัน แต่เขาไม่ได้ไปเล่าว่าเขาตีทำร้ายจิตใจ และร่างกายตนทุกครั้ง


ผอ.สพป.สุราษฎร์ธานี ตำแหน่งใหญ่ ทอดทิ้งลูกเมียเหมือนฆ่าเราทั้งเป็น ตอนนี้เขาจะทำเรื่อง ฟ้องหย่าตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 65 และไม่ติดต่อใด ๆ มา นอกจากให้เลขาโทรมาแจ้ง


จนกระทั่งเมื่อวานวันที่ 3 ม.ค. 66 เขา พร้อมลูกน้อง 3 คน เข้ามาขนของ และรถ ย้ายออกไปอยู่บ้านที่ นครศรีธรรมราช

คุณอาจสนใจ

Related News