เปิดใจลูกบ้านซื้อห้องชุด 1.5 ล้าน สุดเซ็งปัญหาอื้อ-น้ำนองแถมเห็ด

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมเรื่องราวลงในกลุ่ม "พวกเราคือผู้บริโภค'" โดยมีเนื้อหาระบุว่า "ว่าด้วยเรื่องค่าส่วนกลางอะไรจะขนาดนี้ 660 บาทต่อเดือน ถ้าแจ้งตั้งแต่ตอนจองบ้านก็พอเข้าใจ แต่นี่ทำเรื่องห้องไปแล้วถึงจะแจ้ง ห้องราคาเกือบล้านห้า แต่สภาพคือแบบนี้เหรอ ค่าส่วนกลางแพงขนาดนี้ซื้อคอนโดดีกว่าค่ะ นี่บ้านสำหรับคนรายได้น้อย หน่วยงานไหนเข้ามาจัดระเบียบทีค่ะ ไม่ไหวทั้งค่าส่วนกลางและเรื่องบ้าน เดือดร้อนมาก ไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง ตอนนี้เพิ่งอยู่ได้แค่ 6 เดือนยังห่วยขนาดนี้"

ทั้งนี้ ในคลิปวิดีโอและภาพที่ผู้โพสต์เอาไว้ ปรากฏว่ามีปัญหาน้ำรั่วซึมจากเพดานไหลลงมาที่กำแพง มิเตอร์น้ำหน้าห้องรั่วซึมจนน้ำนองเต็มพื้น ผู้โพสต์บอกว่าต้องแจ้งหาช่างมาซ่อมเอง เพราะแจ้งไปทางโครงการตอบกลับมาให้รอคิว ส่วนท่อน้ำทิ้งหลังห้องก็ตัน ที่เห็นเป็นฟองผู้โพสต์บอกว่าไม่ได้ซักผ้า แต่มาจากห้องข้างบนที่ซักผ้าและน้ำไม่ระบาย จึงทำให้น้ำซักผ้านองอยู่หลังห้องของตัวเอง

ล่าสุดวันที่ 29 ธ.ค. 65 ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่ไปยังโครงการห้องชุดดังกล่าว พบลูกบ้านมารออยู่เกือบ 10 คน โดย น.ส.ทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ห้องของตนที่มีปัญหา ลูกบ้านหลายห้องมีปัญหาไม่ต่างกัน วันนี้เห็นมีผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จึงอยากสะท้อนปัญหาให้ฟัง

จากนั้นได้เดินนำผู้สื่อข่าวเข้าไปดูภายในห้องของ น.ส.ทิพย์ ทำให้พบว่าจุดแรกบริเวณห้องรับแขก มีร่องรอยของน้ำรั่วซึมและรอยร้าวระหว่างข้อต่อของเพดานกับผนัง เช่นเดียวกับภายในห้องนอน ก็มีรอยน้ำรั่วซึมในลักษณะเดียวกัน

น.ส.ทิพย์ เปิดเผยว่า ยิ่งในช่วงเวลาที่มีฝนตก ในห้องนอนแทบจะนอนกันไม่ได้ เพราะน้ำจะรั่วซึมไหลนองเต็มพื้น ส่วนบริเวณห้องรับแขกอีกจุดคือผนังกั้นระหว่างห้องน้ำกับห้องรับแขก จะมีความชื้นและน้ำภายในห้องน้ำจะซึมมาถึงผนังด้านนอกทำให้เฟอร์นิเจอร์ข้าวของเครื่องใช้เสียหาย ทั้งนี้ ตนทำสัญญาซื้อขายห้องชุดดังกล่าวในราคา 1 ล้านกว่าบาท ตั้งใจซื้อห้องชุดราคาที่ไม่แพงเหมือนคอนโดฯ เพราะกำลังทรัพย์ไหวเท่านี้ และชวนญาติพี่น้องมาซื้ออีก 3-4 ห้อง เพื่ออาศัยอยู่ด้วยกัน

แต่สุดท้ายกลับต้องมาเจอปัญหาเช่นนี้ ตนรู้สึกท้อใจ เพราะเคยแจ้งนิติบุคคลไปแล้วหลายครั้ง ก็อ้างว่าไม่ได้อยู่ในส่วนรับผิดชอบ ต้องแจ้งไปยังเจ้าของโครงการ เมื่อแจ้งไปยังเจ้าของโครงการก็โยนกันไปมา กระทั่งตนต้องทนอยู่ในสภาพเช่นนี้มานานถึง 6 เดือน บางอย่างต้องจ้างช่างมาซ่อมเอง เพราะรอไม่ไหว และกลัวว่าลูกเล็กจะถูกไฟดูด

นอกจากห้องของน.ส.ทิพย์ ที่มีปัญหา ยังพบว่ามีลูกบ้านอีก 3-4 ห้อง มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจึงพยายามติดต่อไปยังเจ้าของโครงการและนิติบุคคล ซึ่งส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความเข้าใจกับลูกบ้าน

เจ้าของโครงการฯ บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ปัญหา ซ่อมอุดรอยรั่วซึมบริเวณห้องรับแขกและห้องนอนเรียบร้อยแล้ว ส่วนกำแพงห้องน้ำ ยืนยันว่าจะส่งช่างมาซ่อมให้ภายใน 1-2 วัน เช่นเดียวกับลูกบ้านห้องอื่น ๆ ในวันนี้ให้ทำหนังสือส่งคำร้องแจ้งปัญหา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะรีบแจ้งไปยังผู้บริหาร เพื่อให้เร่งแก้ปัญหาให้กับลูกบ้านต่อไป 

อย่างไรก็ตาม เรื่องค่าส่วนกลางเดือนละ 660 บาท เจ้าหน้าที่โครงการ อธิบายว่า ภายในโครงการมีห้องชุดหลายราคา ซึ่งค่าส่วนกลางจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคส่วนกลางต่าง ๆ เช่น ระบบท่อน้ำทิ้ง แม้ว่าจะต่อออกมาจากห้องของลูกบ้าน นิติบุคคลจะต้องเข้าไปรับผิดชอบและแก้ปัญหา รวมถึงเรื่อง ไฟฟ้า ประปา ไฟส่องสว่างทางเดิน พื้นที่ส่วนกลางสาธารณะที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งโครงการจะประสานกับนิติบุคคล และเร่งเข้ามาแก้ปัญหาให้กับลูกบ้านทันที