สังคม

ทัพเรือจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 กำลังพล อย่างสมเกียรติ ญาติภูมิใจ ทุกคนได้รับเกียรติอย่างสูงสุด

โดย nattachat_c

27 ธ.ค. 2565

19 views

พระราชทานเพลิงศพ 3 กำลังพล ร.ล.สุโขทัย จัดอย่างสมเกียรติ กองทหารเกียรติยศเป่าแตรนอนส่งดวงวิญญาณ ผบ.ทร.มอบธงชาติคลุมโลงศพให้ญาติระลึกถึงความดี ญาติเผยได้รับเกีรยติสูงสุด ภูมิใจแต่ใจลึกๆ ยังช็อกและเสียใจ


วานนี้ (26 ธ.ค. 65) เวลา 13.00 น. ที่ ฌาปนสถาน กองทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ กำลังพลที่ประสบเหตุเสียชีวิต จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ดังนี้


1. ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก (สรั่งช่างกล เรือหลวงสุโขทัย หมวดเรือที่ 1 กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ)

2. พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ (ช่างโซนาร์ แผนกอาวุธและการเรือ เรือหลวงสุโขทัย)

3. พันจ่าเอก อำนาจ  พิมที (พลขับรถ หมู่ตรวจการณ์ หน้าที่ 1 กองร้อยรักษาฝั่งที่ 2 กองพันรักษาฝั่งที่ 12 กรมรักษาฝั่งที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง)


เวลา 12.30 น. เคลื่อนโลงศพของกำลังพลทั้ง 3 นาย ออกจากศาลาพร้อมกันทั้ง 3 ศพ ทหารกองทัพเรือแบกโลกศพเวียนรอบเมรุ 3 รอบ

ทหารกองเกียรติยศ พลแตรเป่าสัญญาณแตรนอน ร่วมส่งดวงวิญญาณซึ่งเป็นสัญญาน แสดงว่าวันอันเหน็ดเหนื่อยได้ผ่านพ้นไปแล้ว และจะได้พักเสียที จากนั้นนำโลงศพขึ้นไปวางตั้งไว้บนเมรุ ทหารกองทัพเรือตั้งขบวนหน้าเมรุทำความเคารพต่อ 3 ทหารกล้า เข้าสู่ขั้นตอนพิธีพระราชทานเพลิงศพ


ขณะที่พิธีกรทางตัวแทนกองทัพเรือ ได้กล่าวเชิดชูเกียรติ กล่าวสดุดีทหารกล้า การเยียวยาที่ทายาทจะได้รับ รวมถึงการเลื่อนชั้นยศให้กับกำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุเรือ ร.ล.สุโขทัย อับปาง ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของญาติและเหล่าทหารเรือลูกประดู่ ที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ


โดยมี พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพกำลังพลทั้ง 3 นาย และมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองทัพเรือ ตลอดจนกำลังพลกองทัพเรือ จากหน่วยต่างๆ ร่วมในพิธีอย่างสมเกียรติ เพื่อแสดงความไว้อาลัยและระลึกถึงคุณงามความดีเป็นครั้งสุดท้าย และเป็นเกียรติแก่ครอบครัวของกำลังพลที่ได้เสียสละชีวิตในหน้าที่จนวาระสุดท้าย ท่ามกลางกองทหารเกียรติยศ


เวลา 13.25 น.ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เชิญผ้าไตรพระราชทาน วางหน้าหีบศพของกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 3 นาย และเจ้าหน้าที่ได้เชิญกล่องเพลิงพระราชทานมายังบริเวณพิธี

โดยมีตัวแทนญาติตั้งแถวรับ จากนั้นครอบครัวของกำลังพลที่เสียชีวิตทั้ง 3 นาย อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเพลิงศพ พิธีกรอ่านประวัติผู้วายชนม์ เพื่อนร่วมรุ่นกล่าวคำอาลัย


เวลา 14.00 น. วงดุริยางค์ทหารเรือบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ เพื่อสดุดีทหารกล้า

ต่อมาพลเรือเอก เชิงชาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบธงไตรรงค์หรือธงชาติ ที่ใช้คลุมโลงศพผู้เสียชีวิต มอบให้กับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เพื่อระลึกถึงคุณงามความดี จากนั้นได้มอบเงินช่วยเหลือสวัสดิการต่างๆ ให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตทั้งสาม


โดยในพิธีฯ ทางกองทัพเรือ ระบุว่า แม้ครอบครัวได้สูญเสียคนในครอบครัวไป แต่ทางกองทัพเรือก็สูญเสียกำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่เพื่อชาติ  จากนั้นแขกผู้ร่วมงานทั้งญาติ พี่น้องเหล่าทหารเรือลูกประดู่ ขึ้นวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ ก่อนจะมีการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ

โดยในพิธีฯ ทางกองทัพเรือ ระบุว่า แม้ครอบครัวได้สูญเสียคนในครอบครัวไป แต่ทางกองทัพเรือก็สูญเสียกำลังพลที่ปฎิบัติหน้าที่เพื่อชาติ  จากนั้นแขกผู้ร่วมงานทั้งญาติ พี่น้องเหล่าทหารเรือลูกประดู่ ขึ้นวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ ก่อนจะมีการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ
------------

หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพเสร็จ พ่อและแม่ของ พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ ได้ถือชุดปกติขาว หมวกหม้อตาลทหารเรือ กระบี่ พร้อมทั้งถือกล่องเพลิงพระราชทาน ธงไตรรงค์ที่ใช้คลุมโลงศพของลูกชาย เดินขึ้นรถกลับบ้าน โดยครอบครัวและญาติๆ ต่างเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้า ยังรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้


พ่อของพันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ เผยว่า กล่องเพลิงพระราชทานและธงชาติคลุมโลงศพของลูกชาย ที่พ่อได้รับเป็นสิ่งที่พ่อภูมิภาคใจ แต่ความภาคภูมิใจก็มีความเสียใจอยู่ลึกๆ ลูกชายตั้งใจอยากเป็นทหารเรือ พ่อบอกให้ไปสอบตำรวจแต่ลูกไม่ไป จิตใจของพ่อไม่ไหวตอนเห็นศพของลูกชายลงจากเครื่องบิน ซึ่งเคลื่อนร่างมาจากจากกองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์


พ่อเห็นกองทหารเกียรติยศ ยืนรอรับศพ ก็มีความคิดว่าทำไมไม่เป็นลูกชายที่ไปยืนรอ เวลานั้นพ่อรู้สึกสติแตกนิดหนึ่ง แต่ตอนนี้ทำใจดีขึ้น พ่อมีเรื่องคาใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ขอพูดดีกว่า เพราะจะทำให้หน่วยงานเสียหาย ภูมิใจที่กองทัพเรือดูแลอย่างดี


ภรรยาของพันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ เผยว่า ตนติดตามข่าวทีแรก บอกรอดปลอดภัยทุกคน ก็โล่งใจ ต่อมาแจ้งว่าสูญหาย 30 คน และมีรายชื่อปรากฏออกมา มีชื่อของสามีด้วย ก่อนจะมาทราบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว โดยก่อนที่เรือหลวงสุโขทัยจะอับปาง สามีโทรมาหาบอกว่าปีใหม่จะไปเที่ยวหาลูกชายวัย 6 ขวบ ที่ จ.อำนาจเจริญ ทุกวันนี้ลูกชายคนเล็กถามหาพ่อ คิดถึงพ่อ อยากให้พ่อตกเบ็ดเล่นด้วย

------------

ทีมข่าวได้พูดคุยกับภรรยาและลูกชายของพันจ่าเอก อำนาจ พิมที ถือชุดปกติขาว หมวกหม้อตาลทหารเรือ กระบี่ พร้อมทั้งถือกล่องเพลิงพระราชทาน ธงไตรรงค์ที่ใช้คลุมโลงศพ ที่รับมอบหลังพระราชทานเพลิงศพ


ว่าที่เรือตรี ภาสกร พิมที อายุ 24 สังกัด กรม ศสร.สอ.รฝ. พร้อมด้วยคุณแม่ แก้วมะนี พิมที อายุ 46 ปี และนายศุกลภัทร พิมที อายุ 15 ปี น้องชายคนเล็ก ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรชายของ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที และได้รับพระมหากรุณาธิคุณเลื่อยศเป็น นาวาตรี อำนาจ พิมที กล่าวในโอกาส พิธีพระราชทานเพลิงศพคุณพ่อว่า ผมเป็นหนึ่งในครอบครัวที่สูญเสีย มีความรู้สึกว่าเสียใจเป็นอย่างมาก แต่อีกใจหนึ่งก็มีความรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่พ่อได้รับเกียรติอย่างสูงสุดของชายชาติทหาร


ขอบคุณหลายๆ หน่วยงาน ขอบคุณทางสำนักพระราชวัง ที่ให้เกียรติและจัดงานให้พ่ออย่างสมเกียรติ ในฐานะทหารคนหนึ่ง ซึ่งคิดว่าคุณพ่อผมต้องภูมิใจเป็นอย่างมาก และครอบครัวของผมก็มีความภาคภูมิใจ สำหรับกองทัพเรือขอขอบคุณครับที่ให้คำมั่นว่าจะไม่ทิ้งครอบครัวของผู้สูญเสียทุกท่าน ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ


ด้านนางแก้วมะนี อายุ 46 ปี ภรรยาของนาวาตรี อำนาจ พิมที กล่าวถึงความรู้สึกและสิ่งบอกเหตุที่เกิดขึ้นว่า เขาอยากจะไปปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้เป็นพิเศษ ให้พาไปซื้อของใหม่ เช่น หัวเข็มขัดใหม่ แถบแพรใหม่ และเสื้อจิตอาสา เตรียมใหม่หมดเลย แบบเนี๊ยบมาก และบอกว่าจะกลับมาในวันที่ 20 ธันวาคม และเขาก็กลับมาในวันที่ 20 ธันวาคม จริงๆ


ในเรื่องของสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดขึ้นอะไรนั้น ถ้าเป็นชาวพุทธก็อาจจะคิดว่าเป็นความฝัน เพราะได้ฝันว่าตัวเองไปงานขาวดำ ในวันที่ 15 ธันวาคม และเจอเพื่อนร่วมรุ่นของเขาซึ่งเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือรุ่นเดียวกับเขาเยอะมาก และมีบรรดาแม่บ้าน รุ่น 36 ที่ไปขึ้นเขาด้วยกัน


เมื่อมองลงมาเห็นน้ำทะเลสวย จึงได้ลงมาเพื่อที่จะขึ้นเรือเล็กๆ มองลงไปในน้ำเห็นตัวเลขอยู่ในน้ำ 422 211 แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ตนก็ไปตีเป็นหวย แต่เพิ่งมารู้ว่าเรือหลวงสุโขทัย หมายเลข 442 ซึ่งก็เป็นลางบอกเหตุที่ฝันเห็นก่อนที่สามีมาขอไปราชการในวันที่ 16 ธันวาคม และให้ไปส่งสมามีขึ้นเรือ ในวันที่ 17 ตนก็ได้ไปส่งสามีขึ้นรถเพื่อที่จะไปลงเรือ


ขณะเกิดเหตุ สามีได้ฝากข้อความไว้ในไลน์และพยายามติดต่อกัน จนถึงเวลา 22.00 น. ได้คุยกันประมาณ 4 นาที เพื่อรอเรือมาช่วย และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุ สามีเพียงส่งไลน์มาเฉย ๆ และคิดว่าสามีน่าจะต้องกลับมาได้เ พราะเราเชื่อมั่นว่ากองทัพเรือมีเรือที่จะขนย้ายออกมาได้ เรามีความเชื่อมั่น ถึงแม้ว่าสภาวะอากาศที่มีคลื่นลมรุนแรงก็ตาม

-------------

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ถือว่ากําลังพลที่เสียชีวิตจากเรือหลวงสุโขทัย เป็นผู้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ได้พิจารณาบำเหน็จด้านสิทธิกำลังพลสูงสุดให้แก่กำลังพลโดยจะพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือน 3-5 ชั้น กับขอพระราชทานเลื่อนยศ 2-4 ชั้นยศ รวมทั้งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ ตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ ดังนี้


ชั้นยศเรือเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็นพลเรือตรี กับได้รับสิทธิกำลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่นๆ รวมเป็นเงินประมาณ 2 ล้านบาท


ผู้ที่มีอายุราชการและฐานเงินเดือนสูง ชั้นยศพันจ่าเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็นนาวาตรี กับได้รับสิทธิกำลังพล ประกอบด้วยเงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่นๆ รวมเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท

-------------

คุณอาจสนใจ

Related News