สังคม

รวบ 3 คนใกล้ชิด ช่วย 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' แหกศาล ย้อนประวัตินักธุรกิจพันล้านผู้ใจบุญ แม่ทัพ IO

โดย nattachat_c

23 ธ.ค. 2565

481 views

ตำรวจเค้นสอบ 3 คนใกล้ชิดประสิทธิ์เอี่ยวช่วยหนีศาล สารภาพแล้ว 2 คุมตัวพาค้นหลักฐานห้องพักสามย่าน กองปราบเตรียมรับโอนคดี เชื่อทำเป็นขบวนการ ราชทัณฑ์ สั่งเรือนจำคลองเปรม ขังประสิทธิ์ แดนความมั่นคงสูง สอบเจ้าหน้าที่ร่วมขบวนการ ชี้โซ่ตรวนนักโทษ ต้องใช้กุญแจพิเศษเท่านั้น


จากกรณี นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนชื่อดัง พยายามหลบหนีระหว่างการนัดสอบคำให้การ และตรวจพยานหลักฐานคดีฉ้อโกงประชาชน หลอกให้ร่วมลงทุนซื้อคูปองทอง / ลงทุนซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว / ระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ รวมมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้าน ที่ศาลอาญาเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (22 ธ.ค. 65)


นายประสิทธิ์ถูกคุมตัวมาที่ศาล เพื่อนัดสอบคำให้การ กรณีหลอกลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ความเสียหาย 1,900,000 บาท ซึ่งเป็นคดีใหม่ ที่ผู้เสียหายเพิ่งฟ้อง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 65 


จากนั้น เมื่อสอบคำให้การที่ห้องเวรชี้เสร็จ นายประสิทธิ์ก็ขอใช้สิทธิ์ตรวจพยานหลักฐานในคดีเก่า ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะขอใช้สิทธิ์ตรวจพยานลักษณะนี้มาตลอด เจ้าหน้าที่จึงอนุญาต จากนั้น นายประสิทธิ์ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าปวดท้องถ่ายหนัก ขอเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 คน จึงพาตัวนายประสิทธิ์ไปเข้าห้องน้ำ และยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตู


ระหว่างนั้นมีผู้สมรู้ร่วมคิดของนายประสิทธิ์ 1 คน อยู่ภายในห้องน้ำ และส่งกุญแจไขโซ่ตรวน รวมถึงเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าหุ้มส้น และหนวดปลอมให้กับนายประสิทธิ์ เมื่อนายประสิทธิ์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เดินเร็วออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังบันไดกลางของอาคารศาล


โชคดีที่มีจำเลยคดีอื่นที่เดินเข้าห้องน้ำเช่นกันสังเกตเห็น จึงตะโกนเรียกนายประสิทธิ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ศาลที่อยู่บริเวณดังกล่าวรู้ตัวและเข้าจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ไล่จับกุมนายประสิทธิ์ไปจนชั้น 3 ระหว่างนั้น นายประสิทธิ์ก็มีความพยายามจะปีนบันไดกระโดดหนีลงมาด้วย จนทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาเล็กน้อย ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็สามารถจับกุมตัวนายประสิทธิ์ไว้ได้


เบื้องต้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้วว่า ลูกกุญแจที่นำมาไขและเสื้อผ้าที่ใช้เปลี่ยน นำมาจากไหน มีใครเป็นคนเตรียมการให้หรือไม่ เพราะก่อนที่จะนำตัวจำเลยออกจากเรือนจำ กรมราชทัณฑ์มีการตรวจร่างกายตามมาตรการอยู่แล้ว แต่ไม่พบความผิดปกติ


ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วโซ่ตรวนมีสภาพปกติ ไม่ได้ถูกทำลาย แสดงว่าต้องมีกุญแจในการไข และต้องตรวจสอบดูว่า เอากุญแจมาจากไหน


ขณะที่ พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัย 3 รายที่ปรากฏภายในภาพวงจรปิด คือเลขาและคนสนิทของนายประสิทธิ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา โดยอยู่ระหว่างการสอบถามและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ว่าทั้งสามคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพยายามหลบหนีของนายประสิทธิ์หรือไม่และจะต้องมีการพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการละเมิดศาลหรือไม่


ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. พ.ต.ท.ธเนศ ศรีจำปา รองผกก.สส.สน.พหลโยธิน เผยว่า ฝ่ายสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมา 3 คน เป็นชายคนสนิท 1 คน / สาวเลขา 1 คน / แฟนหนุ่มเลขาสาว 1 คน ขณะนี้มีคนรับสารภาพแล้ว 1 คน คือนายสมประสงค์ ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดใช้เสื้อผ้าของตนเองเตรียมมาให้นายประสิทธิ์เปลี่ยนเพื่อหลบหนี ซึ่งมีภาพกล้องวงจรเห็นว่านายสมประสงค์ ถือกระเป๋าเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมา ก่อนที่นายประสิทธิ์จะเข้าห้องน้ำ 


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือให้ผู้ต้องขังหลบหนีการจับกุมจากเจ้าพนักงาน ส่วนเลขาสาวและแฟนหนุ่ม นั้นทางตำรวจกองปราบปรามได้นำตัวไปค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่พักและตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร


ต่อมาเมื่อเวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สน.พหลโยธิน ได้พาผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 คน คือเลขาสาวและแฟนหนุ่ม ขึ้นรถออกจากสถานีตำรวจเพื่อนำตัวไปตรวจค้นห้องพักย่านสามย่านเพื่อค้นหาพยานหลักฐานบางอย่างเพิ่มเติม หลังทั้งสองยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันวางแผนให้การช่วยเหลือนายประสิทธิ์จริง พร้อมกับยอมรับอีกว่า ตามแผนที่วางไว้หากสามารถพาตัวนายประสิทธิ์ ออกจากศาลได้จะพาไปที่ห้องพักย่านสามย่าน เพื่อเปลี่ยนชุดปลอมตัวอีกครั้ง จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวไปตรวจค้นยังสถานที่ดังกล่าวเป็นการด่วน


รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า มีคนร่วมกระบวนการทั้งหมดในการช่วยนายประสิทธิ์ หลบหนี มีทั้งหมด 4 คน แต่ถูกจับเพียง 3 คน ประกอบด้วย เลขา แฟนเลขา และคนใกล้ชิด ตอนนี้ตำรวจกำลังตามจับเลขาคนที่ 2 ของนายประสิทธิ์ที่แอบหลบหนีไปได้ ส่วนเรื่องหนวดปลอม เพียงแต่มีการเตรียมไว้ แต่ไม่ได้ติด เพราะตอนถูกจับ นายประสิทธิ์มีเพียงหน้ากากอนามัยปิดใบหน้าเท่านั้น


นายอายุตม์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงและรายละเอียดกรณีดังกล่าว จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และขอให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันโดยมี ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา เป็นประธานกรรมการ ในการสอบหาข้อเท็จจริงในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการวางมาตรการและการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ผู้ต้องขังหลบหนีเช่นนี้ได้อีก

-------------

ก่อนหน้าจะเป็นที่รู้จักในฐานะนักธุรกิจพันล้านผู้ใจบุญ นายประสิทธิ์ เกิดที่จังหวัดกระบี่ในครอบครัวค่อนข้างยากจน ทั้งยังเป็นเด็กค่อนข้างเกเร ไม่เรียนหนังสือและต่อยตีจนเกือบตายมาแล้ว 4 ครั้ง เคยกระทั่งโดนยิงแต่รอดมาได้


เมื่อชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ ประสิทธิ์ระบุว่าเขาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไม่มีเงินสักบาท ต้องมานอนข้างถนน แต่วันนี้เด็กยากจน เกเร ทุกคนมองว่าเป็นภาระสังคมกลับทำงานเพื่อสังคม เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยไม่หวังผลตอบแทน


หลังเข้ากรุงเทพฯ เขาจับพลัดจับผลูไปทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น รับเหมาและเป็นเซลขายเครื่องแรงดันน้ำ แต่ไม่มีอาชีพใดเลยที่สร้างเงินจำนวนมหาศาลให้ประสิทธิ์ ระหว่างนั้นเขายังมีเวลาวางแผนขยับขยายไปทำกิจการอื่นๆ นั่นคือทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกระบี่ บ้านเกิด ด้วยเงินทุนที่ได้จากการทำงานก่อนหน้านี้ ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีคนใหม่ของจังหวัด ซึ่งกินเวลาความสำเร็จไม่นานนัก


ปีต่อมาเขาก็โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนสิ้นเนื้อประดาตัว ติดหนี้นับพันล้านและกัดฟันหาเงินมาใช้หนี้ด้วยการลงทุนในธุรกิจอย่างอื่น ซึ่งเขาไม่เคยอธิบายว่าคือธุรกิจใดบ้าง


อีก 3 ปีต่อมา เขาปลดหนี้ได้หมด และตั้งบริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือมัณดาวีต์ กรุ๊ป พร้อมบริษัทในเครือที่อ้างว่ามีสำนักงานทั่วโลก ดังนี้ บริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จำกัด / บริษัท มัณดาวีต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด / บริษัท จิรากานา จำกัด / บริษัท อ่าวนาง ซีวิว คอนโด จำกัด / บริษัท อ่าวนาง ซีวิว รอยัล โฮเทล จำกัด / บริษัท เอ็มวี เทรดดิ้ง คอเปอร์เรชั่น จำกัด / บริษัท MWT Marketing Pte. Ltd. / บริษัท เอส-แพลนเนต จำกัด / บริษัท อินทิเกรทเต็ด ซิสเต็ม ซอฟท์แวร์ จำกัด / บริษัท Mandawei Co., Ltd / บริษัท สวัสดี ดอทคอม จำกัด / บริษัท สวัสดี การบิน จำกัด / บริษัท เว็บ สวัสดี จำกัด(มหาชน) / บริษัท N2O Health Solution Co., Ltd. / บริษัท นทีทองธาร จำกัด / บริษัท เอ็ม แอล ฟิวเจอร์ เทค จำกัด / บริษัท Deetrip จำกัด  / บริษัทเหนือโลก จำกัด / บริษัท สำนักงานประธานกรรมการบริหาร / สหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน / สมาคมการค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน


นายประสิทธิ์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเวลานี้เขากลับรู้สึกเคว้งคว้าง เนื่องจากชีวิตดูไร้เป้าหมาย จึงตั้งใจทุ่มเททำประโยชน์ให้สังคมดังที่เขาระบุไว้ในเว็บไซต์ว่า “ในอดีตผมเคยเป็นคนไม่ดี แต่อยากเปลี่ยนตัวเอง เลยให้สัญญากับฟ้าว่าขอให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ และถ้าผมได้ดี…เงินที่หาได้ กำไร 90% จะคืนให้สังคมตลอดไปและสืบไป”


เป็นที่มาของการทำโครงการ ‘คืนคุณแผ่นดิน’ ที่มีเป้าหมายในการตอบแทนสังคมด้วยงานการกุศลต่างๆ โดยทำเป็นรายการทีวี ผ่านสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในรายการ คืนคุณแผ่นดิน เพื่อสังคมและประชาชน


หากไล่ดูตามเว็บไซต์ของประสิทธิ์แล้ว จะพบว่าผลงานของโครงการคืนคุณแผ่นดินนั้นปรากฏขึ้นครั้งแรกในวันที่ 9 มี.ค. 2563 ในหัวข้อ ‘พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความยั่งยืน’ โดยเนื้อหาระบุเพียงว่า พล.อ. พีรพงษ์ เมืองบุญชู ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ถ่ายรูปคู่กันกับประสิทธิ์, 12 มีนาคม 2563 หัวข้อ ‘โครงการคืนคุณให้แผ่นดิน เดินหน้าช่วยหมอ พยาบาลที่ขาดแคลน Mask’ ที่ประสิทธิ์มอบหมายให้ตัวแทนเดินทางไปมอบหน้ากากอนามัยยังโรงพยาบาลศรีสังวาลย์, 30 มีนาคม หัวข้อ ‘คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ลงพื้นที่โครงการพัฒนาความเป็นอยู่ข้าราชการอย่างยั่งยืน’


งานล่าสุดในนามโครงการคืนคุณแผ่นดินคือ ‘รวมพลังคนทั้งชาติ เทิดทูน และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์’ ในวันที่ 4 ต.ค. 2563 หลังจากนั้นไม่ปรากฏผลงานใดๆ อีก


นายประสิทธิ์ยังสร้างแอปพลิเคชัน M-Help Me ‘Save Your Life’ ป้องกัน ช่วยเหลือ สื่อสาร เพื่อประชาชนและสังคม รวมทุกหน่วยงานไว้ในแอปพลิเคชันเดียว เว็บไซต์ของประสิทธิ์ระบุว่า ยอดการใช้งานแอปพลิเคชันนั้นขึ้นสูงเป็นอันดับ 1 หลังเปิดตัว ทั้งยังออกหนังสือ ‘อันธพาลกลับใจ กู้วิกฤตพันล้าน’ ที่ระบุว่าติดอันดับหนังสือขายดีในหลายๆ แห่งอีกเช่นกัน


นายประสิทธิ์ เคยออกรายการโทรทัศน์หลายรายการ เช่น ฝ่าวิกฤติกับกฤษติกา, ตีสิบ, คนค้นฅน และ เจาะใจ เป็นต้น


นายประสิทธิ์ เคยขอให้นายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ศิลปินชื่อดังแต่งเพลงให้ในชื่อ ประสิทธิ์ ผู้ให้ เพื่อบอกเล่าและยกย่องประสิทธิ์ที่สู้ชีวิตจนประสบความสำเร็จได้


นายประสิทธิ์ยังได้รับรางวัลแห่งคุณความดีอีกหลายรางวัล ไม่ว่าจะเป็น รางวัลสนับสนุนการทำดี ณ ข่วงพระเจ้าล้านนาไทย จังหวัดเชียงใหม่ จาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา / รางวัลจากโครงการคุณธรรมนำแผ่นดิน ‘คนทำดีต้นแบบสังคมแห่งปี 2558 คนดีเพื่อพ่อ’ และรางวัลโล่เกียรติยศในฐานะผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานพระราชทานรางวัล ‘เทพทอง’ จากสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์


ทั้งหมดนี้ทำให้ประสิทธิ์ถูกพูดถึงในแวดวงสังคมอย่างมาก โดยส่วนใหญ่เนื้อหาและรายละเอียดที่ประสิทธิ์พูดในรายการเหล่านั้นมักเป็นเรื่องชีวิตของตัวเองในอดีต ตลอดจนปณิธานในการสร้างคุณงามความดีและคืนคุณแผ่นดิน


เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2563 น.ส.พรรณิการ์ เปิดเผยข้อมูลว่า กองทัพมีปฏิบัติการด้านข่าวสารทำงานผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานกับทวิตเตอร์จำนวน 2 แอปฯ ซึ่งมีลักษณะการทำงานที่สามารถทวีตข้อความหลายข้อความได้ในเวลาเดียวกัน หรือ ‘ปั่นแท็ก’ บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ที่แอปพลิเคชันที่คณะก้าวหน้าอ้างว่าใช้ ‘ปั่นแท็ก’ คือ นายประสิทธิ์


หลังการเปิดเผยข้อมูล นายประสิทธิ์เข้าแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เอาผิดคณะก้าวหน้า ระบุว่าเขา “ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่รักในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างที่สุด สิ่งที่ทำเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์และช่วยส่งเสริมให้ประชาชนได้รู้จักการใช้โซเชียลให้เกิดประโยชน์”


ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปรามเปิดเผยว่า ประสิทธิ์กับพรรคพวกอีก 6 คนร่วมกันฉ้อโกงประชาชนจนเกิดมูลค่าความเสียหายรวมกันว่า 1 พันล้านบาท ผ่านการล่อลวงอย่างหลากหลายรูปแบบ เช่น แนะนำให้มาลงทุนหรือซื้อแพ็กเกจทัวร์, ลงทุนด้วยการให้โอนเงินเพื่อรับผลตอบแทนหลายเท่าตัว หรือให้ลงทุนในระบบกองทุนส่วนตัวของประสิทธิ์


ต่อมาเมื่อ 17 พฤษภาคม ประสิทธิ์เข้ามอบตัวพร้อมระบุว่า ฟ้าดินรู้ในสิ่งที่เขาทำ และมามอบตัววันนี้เพื่อพิสูจน์ตัวตน ก่อนจะถูกฝากขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภายหลังศาลอาญายกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เขาระบุว่า คุกขังได้แต่ตัว แต่อุดมการณ์ยังคงอยู่

--------------



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/j9R-MoDJPcA

คุณอาจสนใจ

Related News