สังคม

‘หมอธีระ’ โพสต์ผลวิจัยชี้โควิด ‘โอมิครอน’ ไม่ได้อ่อนกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ย้ำฉีดวัคซีน มีสติอย่าประมาท

โดย petchpawee_k

22 ธ.ค. 2565

26 views

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก 'Thira Woratanarat' ระบุว่า  


21 ธันวาคม 2565

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 428,907 คน ตายเพิ่ม 802 คน รวมแล้วติดไป 658,632,418 คน เสียชีวิตรวม 6,674,650 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ไต้หวัน และฮ่องกง

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.32 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 81.17

...สามก๊กในถ้วยซุปสายพันธุ์...

Gerstung M จากมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมัน สรุปลักษณะการระบาดในปัจจุบันทั่วโลก ยืนยันให้เห็นปรากฏการณ์"ซุปสายพันธุ์ (variant soup)" ซึ่งถือเป็นระลอกที่มีการระบาดโดยมีหลากหลายสายพันธุ์ของไวรัส แตกต่างจากระลอกก่อนๆ ที่มักมีตัวหลักที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมจากอู่ฮั่น D614G อัลฟ่า เดลต้า BA.1/2 และ BA.5

ขณะนี้ Omicron มีการกลายพันธุ์ไปกว่า 500 สายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มระบาดจริงจังในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเท่านั้น

ซุปสายพันธุ์ถ้วยนี้ หากวิเคราะห์ดูจะพบว่ามีไวรัสสายพันธุ์ย่อยที่แย่งกันระบาดทั่วโลก โดยมีตัวนำอยู่ประมาณ 3 ก๊กที่ดูจะไม่ค่อยน้อยหน้ากว่ากันนัก ได้แก่ BQ.1.x, XBB.x, และ BA.2.75.x

BQ.1.x ครองฝั่งตะวันตกของโลก

XBB.x ครองฝั่งตะวันออกของโลก

และ BA.2.75.x มีชุกชุมอยู่ในหลากหลายประเทศ ค่อนข้างกระจาย

โดยที่สายพันธุ์ที่ครองการระบาดเดิมอย่าง BA.5 ถูกเบียดลดสัดส่วนลงไปอย่างต่อเนื่อง

...อย่างไรก็ตาม หากดูอัตราการขยายตัวของการระบาด BQ.1.1 คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เกิดการระบาดวงกว้างมากขึ้นในฝั่งตะวันออกของโลกได้ในอีกไม่นาน

...อัพเดตความรู้โควิด-19

"Omicron นั้นไม่ได้อ่อนกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม"

หลายคนคงคุ้นเคยกับวาทกรรมว่า Omicron is mild จนทำให้เข้าใจว่าเป็นหวัดธรรมดา หรือกระจอก

แต่รอบปีที่ผ่านมา เราเห็นกันชัดเจนว่าสายพันธุ์นี้ แม้จะทำให้โอกาสป่วยรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า แต่ก็มีคนติดเชื้อจำนวนมาก ป่วยและตายจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากมีสมรรถนะที่แพร่ได้เร็วขึ้นง่ายขึ้นมาก และดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าเดิม

ล่าสุด Robinson ML และทีมงานจากสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ผลการวิจัยประเมินอัตราป่วยรุนแรงและเสียชีวิตในผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 แล้วต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 5 แห่งในฝั่งตะวันออกของประเทศ

โดยเปรียบเทียบระหว่างสายพันธุ์ดั้งเดิม เดลต้า และ Omicron

สาระสำคัญคือ พบว่าในกลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนนั้น แม้ Omicron จะทำให้ป่วยรุนแรงและเสียชีวิตน้อยกว่าเดลต้าราว 28% แต่มีอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตพอๆ กับสายพันธุ์ดั้งเดิม

ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว หากป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจะลดลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใดก็ตาม

...ผลการศึกษานี้จึงช่วยชี้ให้เราเห็นว่า Omicron นั้นแม้จะดูอ่อนกว่าเดลต้า แต่ความรุนแรงพอๆ กับสายพันธุ์ดั้งเดิม ไม่กระจอก

การฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนด จะช่วยลดการป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดเสี่ยง Long COVID ได้ด้วยดังที่เคยนำเสนอข้อมูลวิชาการมาให้ทราบมาหลายครั้งแล้ว

...ปัจจุบันไทยยังมีการติดเชื้อแต่ละวันจำนวนมาก ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท

การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

-------------------------------------------

ต่อมาคุณหมอได้โพสต์ อีกว่า  ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิสซูรี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาลักษณะอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 โดยเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจอื่น เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และกลุ่มที่ไม่ได้ติดเชื้อ


ศึกษาในผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 17,487 คนจาก 122 โรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา จนถึง 14 เมษายน 2565

สาระสำคัญคือ พบว่าการติดเชื้อโรคโควิด-19 นั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดอาการผิดปกติหลังจากติดเชื้อแตกต่างจากไวรัสทางเดินหายใจอื่นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่

ใจสั่น (palpitation)

ผมร่วง (hair loss)

อ่อนเพลีย/เหนื่อยล้า (fatique)

เจ็บหน้าอก (chest pain)

หอบเหนื่อย (dyspnea)

และปวดข้อ (joint pain)

ผลการศึกษานี้ ก็ดูจะสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่เราเห็นในปัจจุบันทางคลินิก ที่มีผู้ป่วย Long COVID จำนวนมากที่มาพบแพทย์ด้วยอาการผิดปกติต่างๆ ดังกล่าว

และตอกย้ำว่า โควิด-19 นั้นไม่กระจอก ไม่ใช่หวัดธรรมดา ไม่ใช่หวัดใหญ่

การติดเชื้อแต่ละครั้ง เสี่ยงต่อป่วยรุนแรง เสียชีวิต และเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติเรื้อรังอย่าง Long COVID ได้

ควรป้องกันตัว ไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ ย่อมดีที่สุด

ไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด

ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท เลี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี

ที่สำคัญมากคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

จำนวนเสียชีวิตส่วนเกินจากทุกสาเหตุ นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดมานั้น สะท้อนถึงสถานการณ์ของแต่ละประเทศได้อย่างดี



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/PHRQ1Mt68hw

คุณอาจสนใจ

Related News