ชายเมาวัย 46 ปีหึงโหด ภรรยามีชู้ล็อกคอดับ ก่อนนอนกอดร่างทั้งคืน

วันนี้ (21 ธ.ค.65) ตำรวจสภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุคนถูกทำร้ายเสียชีวิตในบ้านพักคนงานก่อสร้างไม่มีเลขที่ ในชุมชนทุ่งสว่าง ถนนอดุลยเดชซอย 7 เขตเทศบาลนครอุดรธานี


หลังได้รับแจ้ง ตำรวจรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันทีพบกับนายตุ้ม อายุ 46 ปี บ้านอยู่ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ยืนรอเจ้าหน้าที่ และรับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้าน ซ้ำยังมีอาการเมาทางฤทธิ์แอลกอฮอล์ บอกว่า ผมฆ่าภรรยาผมเอง เหตุเพราะเมา ตอนแรกนึกว่าไม่ตายคิดว่าสลบ แต่ตอนเช้ามาปลุกตัวแข็งแล้ว เสียใจมากไม่คิดว่าจะพลั้งมือแรงไปหน่อย แค่ใช้แขนล็อกคอเมียไว้เท่านั้น


ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัวมาดูจุดที่นายตุ้มทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิตที่บริเวณห้องเช่าพร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ร่วมชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต


โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีห้องนอน 5 ห้อง มีรั้วรอบขอบชิด ที่ประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านถูกล็อกด้วยกุญแจ เจ้าหน้าที่จึงใช้ค้อนทุบทำลายกุญแจเข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากกุญแจอยู่กับคนงานที่ออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งเพื่อนคนงานไม่ทราบว่ามีคนตายในห้องพัก


เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดออกดูพบศพนางสาวอุลัยพร อายุ 34 ปี ชาวชุมชนบ้านเหล่า ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี นอนหงายห่มผ้าอยู่บนที่นอน สภาพตัวแข็งทื่อ


เจ้าหน้าที่ตรวจตามร่างกายพบบริเวณขอบตาซ้ายเขียวช้ำ น่าจะเสียชีวิตตั้งแต่เที่ยงคืนของคืนที่ผ่านมา โดยผู้เป็นสามี ได้เข้าไปเปิดผ้าห่มหอมแก้มภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย และสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าภรรยาเอง โดยใช้ท่อนแขนล็อกคอจากด้านหลังจนภรรยาขาดใจตาย


เนื่องจากดื่มเหล้าและมีปากเสียงกันเรื่องหึงหวงช่วงหัวค่ำวานนี้ อาสากู้ภัยจึงนำศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนมอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี


ตำรวจชุดสืบสวน สอบถามนายตุ้ม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนอยู่กินกับภรรยามาได้ 4 ปี มีลูกชายวัย 1 ขวบเศษ ซึ่งตอนนี้ให้พี่สาวดูแลอยู่ที่ จ.สกลนคร ส่วนตนและภรรยามาทำงานก่อสร้างอยู่กับนายจ้าง ประมาณ 1 เดือนกว่า โดยพักอาศัยอยู่รวมกันกับเพื่อนคนงาน


ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำได้นั่งดื่มเหล้ากันในห้องพัก และมีปากเสียงกัน เนื่องจากภรรยาปันใจให้ชายอื่น เพราะภรรยาเป็นคนหน้าตาดี และตนเคยไปตามที่บ้านชายอื่นกลับคืนมาแล้วหลายครั้ง เมื่อตนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ภรรยาก็จะดุด่าด้วยคำหยาบคาย จึงโมโหจนหน้ามืด ประกบกับเมาเหล้า จึงใช้ท่อนแขนรัดคอภรรยาจนเสียชีวิต และนอนกอดศพภรรยาทั้งคืน


ทีแรกไม่คิดว่าจะตาย กระทั่งเวลา 04.00 น. ตนตื่นขึ้นมาพบว่าภรรยาตัวเย็นผิดปกติและไม่หายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร กระทั่งเช้าจึงเดินไปเล่าเรื่องราวให้นายจ้างฟังที่บ้านที่อยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร และขอชดใช้กรรมที่ตนเองก่อ เพราะสุดจะทนกับพฤติกรรมของภรรยาสุดที่รักคนนี้แล้ว และขอโทษญาติพี่น้องของภรรยากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเป็นห่วงลูกชายวัยขวบเศษ ที่อยู่กับพี่สาวของภรรยา ต้องมากำพร้าแม่และพ่อต้องมาติดคุก


ตำรวจได้คุมตัวนายตุ้มมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพและได้ควบคุมตัวไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก ในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” ดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป