สังคม

คลื่นซัดหนัก! เรืออับปางหลายลำในวันเดียว ศรชล.เตือนชาวเรือ เกาะติดพยากรณ์อากาศใกล้ชิด

โดย petchpawee_k

20 ธ.ค. 2565

39 views

ระวังคลื่นซัดหนัก! ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) แจ้งเตือนชาวเรือสองฝั่งทะเลไทย เกาะติดข่าวพยากรณ์อากาศรายชั่วโมงหลังเกิดเหตุเรืออับปางหลายลำ


จากสภาพอากาศภาคใต้ฝั่งตะวันออกที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 4 ม. ในช่วงนี้ ส่งผลต่อการเดินเรือทุกประเภท โดยเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 03.25 น. ศปก.ศรชล.ภาค 1 ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากกัปตันเรือ ANUPHUM เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากเรือเสียการทรงตัว ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากหลุดออกจากเรือและทำให้เรือเอนขวา ทราบพิกัดห่างจากปากน้ำชุมพร ประมาณ 5.7 ไมล์ทะเล (9.5 กม.) ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร


กระทั่งเวลา 08.32 น. ได้รับแจ้งสถานการณ์ล่าสุดว่า ลูกเรือ จำนวน 10 คน ยังลอยคอบนผิวน้ำทะเลรอความช่วยเหลือ โดยมีเรือ PATARAVARIN 88 ช่วยเหลือลูกเรือทั้งหมดได้แล้ว ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์ว่าเกิดจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่


นอกจากนี้ ศรชล. ยังได้รับรายงานสถานการณ์เรือเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา จาก ศรชล.ภาค 2 ช่วงเช้ามืด เรือประมง "ส.นพรัตน์ 4" อับปางพิกัดห่างไป 30 ไมล์ทะเล (56 กม.) ตะวันตกเฉียงใต้จากเกาะแสมสาร ลูกเรือได้รับการช่วยเหลือทั้งหมดกลับเข้าเกาะแสมสารแล้ว


ยังมีรายงานกรณี "เรือสันทัดสมุทร 2" เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุไม้ยางพารา จำนวน 36 ตู้ และลูกเรือ 9 คน ขอความช่วยเหลือเรือถูกคลื่นลมจมลงบริเวณพิกัดห่างจากสถานีเรือสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 35 ไมล์ทะเล (65 กม.) ต่อมาลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือแล้ว โดยมีผู้พบเห็นตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 30 ตู้ พัดเข้าฝั่งพื้นที่ อ.ไชยา จนท.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบแล้ว


ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ศรชล.ภาค 2 ได้รับแจ้งว่า "เรือทรัพย์สุนันท์" เรือประมงประเภทอวนครอบหมึก พร้อมลูกเรือ 5 คน ขอความช่วยเหลือเรือถูกคลื่นลมกำลังจม บริเวณพิกัดห่างจากปากร่องน้ำสงขลา ระยะ 19 ไมล์ทะเล (35 กม.)


เรือบรรทุกน้ำมันชื่อ "ภัทรพัณณ์" ประสบเหตุเกยตื้นบริเวณใกล้ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา สภาพเรือติดตื้นเฉพาะบริเวณท้ายเรือ ส่วนหัวเรือยังคงลอยอยู่ ซึ่งทางบริษัทเรืออยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์สภาพคลื่นลม เพื่อพิจารณาในการกู้เรืออีกครั้งเมื่อสภาพคลื่นลมสงบ


กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 23.33 น. ร.ล.สุโขทัย อับปางบริเวณพิกัดระยะห่าง 16 ไมล์ทะเล (30 กม.) ทางทิศตะวันออกของ อ.บางสะพาน กำลังพล 106 นาย ได้รับการช่วยเหลือแล้วกว่า 70 คน ส่วนที่เหลือยังกระจัดกระจายอยู่ตามเรือขนส่งพาณิชย์และเรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่ใกล้เคียงจุดเรืออัปปาง มีรายงานผู้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย


ส่วนที่บริเวณหาดตะโละกาโปร์ ในพื้นที่ ม.3 ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้มีเรือขนาดใหญ่ได้เกยตื้นบริเวณหาดตะโละกาโปร์ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ต่างออกมาดูกันจำนวนมาก และพบกับเรือยางที่กำลังลอยอยู่บริเวณนั้น จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือเพราะเกรงว่าอาจจะประสบอุบัติเหตุจากการเดินเรือในช่วงมรสุมของสภาพอากาศในช่วงนี้


จากนั้น นายอารีฟ สารอเอ็ง เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้มายังพื้นที่จึงได้รีบเข้าช่วยเหลือเรือยางดังกล่าวและพบกับลูกเรือจำนวน 8 คนรวมกัปตัน จากการตรวจสอบพบว่าเรือที่เกยตื้นเป็นเรือกลเดินทะเล สัญชาติอินโดนีเชียโดยมีการสอบถามกับทางเจ้าของเรือจึงทราบว่าเรือดังกล่าวได้เดินทางจากจังหวัดสมุทรสาครในวันที่10 ธันวาคม 65 เพื่อเดินทางไปยังเมืองเมรัก ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีลูกเรือ 8 คนรวมกัปตัน


เมื่อเรือเดินทางในวันที่ 13 ธันวาคม 65 ทางกัปตันได้ทิ้งสมอเรือบริเวณปากร่องน้ำนราธิวาส ห่างจากฝั่ง 6 ไมล์ทะเล เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เรือเอียง ปรากฏว่ามีน้ำอยู่ในระวางที่ 1 บริเวณใกล้หัวเรือ ของทั้งหมด 3 ระวาง พบว่าน้ำจากระวาง 1 เข้าไปในระวาง 2 โดยมีอาการเอียงไปด้านเดียวทางกาบซ้ายของเรือ แต่ไม่สามารถใช้ปั้มสูบน้ำท้องเรือได้เนื่องจากใยแก้วไปอุดเครื่องสูบน้ำที่จะปั้มน้ำออก จึงใช้วิธีถ่วงเรือโดยการบัสลาสฝั่งกาบขวาเพื่อให้เรือตั้งตรง


แต่ปรากฏว่าวิธีใช้ถ่วงเรือโดยการบัสลาสไม่สำเร็จ จึงใช้เครื่องสูบน้ำแบบจุ่ม และระหว่างนั้นได้ประสานบริษัท เพื่อเดินทางไปจังหวัดสงขลาเพื่อซ่อมแซม แต่ปรากฏว่าขณะเดินทางมีคลื่นลมแรง จนทำให้เรือเอียงมากจาก 7 องศา ไปที่ 10 องศา จึงตัดสินใจนำเรือมาเกยตื้น บริเวณหาดตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานีในช่วงค่ำในวันที่ 18 ธันวาคม 65


และในวันที่ 19 ธันวาคม 65 นายเรือพบว่าเรือเอียงเพิ่มขึ้นประมาณ 15 องศา จึงตัดสินใจแจ้งไปยังกรมเจ้าท่าปัตตานีเพื่อแจ้งว่าเรือประสบปัญหา ก่อนที่จะสละเรือเพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกเรือ โดยอาศัยเรือยางชูชีพเป็นพาหนะเพื่อเอาตัวรอด ก่อนที่จะพบกับเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า พร้อมชาวบ้านบริเวณดังกล่าวที่ได้ให้ความช่วยเหลือ ดึงแพชูชีพขึ้นจากทะเล และนำส่งลูกเรือทั้ง 8 คนโดยปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำทั้ง 8 คนไปตรวจสอบเอกสารและประสานเจ้าของเรือมารับต่อไป


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/F8nBD4-meA4


คุณอาจสนใจ

Related News