สังคม

ชูวิทย์แฉตู้ห่าว สนิท ปปง. เกรงเปิดช่องทุจริต เสนอให้ลาออกทั้งคณะ

โดย onjira_n

16 ธ.ค. 2565

339 views

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดแถลงข่าวความคืบหน้าหลังจากเข้าร่วมรับประทานอาหาร พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.โดยมีพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจกันหลายเรื่องหลักจากนายชูวิทย์ นำหลักฐานเปิดโปงเครือข่ายทุนจีนสีเทา ซึ่งนายชูวิทย์ อยากขอบคุณ ผบ.ตร .และ รอง ผบ.ตร ที่ให้ความสำคัญในคดีนี้ พร้อมชี้แจงว่าตนเองได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะเปิดเผยข้อมูลกับสื่อมวลชน ในวันที่ 13 ก.ค. 65 เห็นจากตนเองเห็นสิ่งปกติ หลังสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนปราบคอรัปชั่นในประเทศอย่างจริงจัง


นายชูวิทย์ เปิดเผยข้อมูลอีกว่า จากจำนวนประชากรจีนจาก 14,000 ล้านคน ตนเองเชื่อมั่นว่าในจำนวนนี้ .5% ( ร้อยละ จุด5) หรือ 7 ล้านคนอาจเป็นกลุ่มทุนจีนสีเทา โดยบุคคลเหล่านี้จะเลือกไปลงทุนที่ประเทศ ที่มีระบบราชการอ่อนแอ เช่น เวียดนาม 7 ล้านคน, กัมพูชา 1 ล้านคน , สปป.ลาว 1 ล้านคน, ฟิลิปปินส์ 2 ล้านคน และไทย 3 ล้านคน โดยบุคคลเหล่านี้ถือพาสปอร์ต วานู อาตู และมอลต้า ที่ขบวนการเหล่านี้ใช้เงินไปแปลพาสปอต์หรือเปลี่ยนสัญชาติ เพื่อมาก่ออาชญากรรมข้ามชาติในประเทศไทย ยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ บ่อนพนันออนไลน์ หลอกคนจีนด้วยกันฯ จาก 5 เสือมาเฟียทุนจีนสีเทา ก็จะมีทั้ง หยูฉางเฟย ทำธุรกิจคลัปวัน พัทยา ,หมิง ดูแลธุกิจ. TOPONE , โดยมีพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดูแลในคดีดังกล่าว


ส่วนคดีผับจินหลิง พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ผบช.น. ดูแล นายชูวิทย์ ระบุว่า ยังรู้สึกคาใจในประเด็น ที่มีปล่อยผู้ต้องสงสัย 156 คน หลังตรวจไม่พบสาเสพติด จากจำนวน 260 คน ( ในจำนวนนี้ 104 คน ฉี่ม่วง ) เพราะมองว่าเป็นการปล่อยพยานคนสำคัญ เช่น นายเดวิส ฮอล์ และหลานของนายตู้ห่าว เป็นการบกพร่องทางหน้าที่จนทำให้กระทบต่อคดีหรือหลักฐานหรือไม่ และมองว่าไม่เหมาะสมที่แต่งตั้ง พ.ต.อ. สายอำนวยการ นายหนึ่งมาเป็นกรรมการสอบสวนในคดีดังกล่าว สำหรับกลุ่มทุนจีนเทา เมื่อเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยก็จะหาช่องทางซื้อบ้านคอนโดที่ดิน จากนั้นก็ทำธุรกิจผิดกฎหมาย และนำท่องเที่ยวในผับมีบริการเช่นการให้เสพยาในสถานบริการ เช่นในผับ topone และ ผับจินหลิง ที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาตนเอง ได้เดินหน้าไปร้องเรียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยดำเนินคดีดังกล่าวที่เกี่ยวข้อง เช่น การฟอกเงิน , ยาเสพติด , และเข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ


ซึ่งนายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกตว่าคดีดังกล่าว ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่ ปปง.กลับเพิกเฉย ไม่ยอมตรวจสอบ จึงได้ตั้งข้อสังเกตต่อว่า อาจเป็นเพราะ ผู้บริหารใน ปปง. ตำแหน่ง ระดับประธาน ยศ พล.ต.ต ที่มีความสนิทสนมกับนายตู้ห่าว และนายหม่า เครือข่ายธุรกิจสีเทาหรือไม่จึงไม่ออกมาร่วมตรวจสอบในคดีดังกล่าว เพราะที่ผ่านมานายชูวิทย์ ยืนยันว่า มีหลักฐานว่านายตู้ห่าว เคยไปเดินทางที่ สำนักงาน ปปง. อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งพบว่าทั้ง 2 ฝ่ายเคยกินทานอาหารร่วมกัน นอกจากนี้ยังพบว่า บริหาร คนดังกล่าวยังมีความร่ำรวยผิดปกติ สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ใน ประเทศญี่ปุ่นได้ อีกทั้งนายชูวิทย์ ยังมีหลักฐานสำคัญ คือพบมีสติ๊กเกอร์ตราโล่ ของผู้บริหารระดับสูงของ ปปง. ไปติดบนรถตู้ของนานหลิงหลง เครือข่ายกลุ่มธุรกิจทุนจีนสีเทา ซึ่งมองว่าเป็นการกระทำไม่เหมาะสม และเรียกร้องขอให้ ปปง.ลาออกยกคณะ รับผิดชอบในคดีดังกล่าว และหลังจากนั้นจะนำหลักฐานไปร้องต่อที่สำนักงานอัยการสูงสุด , ส.ว. , ซึ่งจะเสนอตนเองเป็นพยาน และไม่เกรงกลัวหากตนเองจะถูกฟ้องร้องที่ออกมาแฉในเรื่องดังกล่าว


นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่า หากตำรวจจับกุมผู้กระทำความผิดในกลุ่มธุรกิจสีเทาก็จะวิ่งเต้นกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ซึ่งกลุ่มทุนจีนสีเทาบางรายยัดสินบนให้เจ้าพนักงานหลักหลายสิบล้านบาท เพราะหากเคลียร์ไม่ลงตัวก็เสี่ยงถูกขยายผล ซึ่งกลุ่มนักธุรกิจทุนจีนสีเทาก็จะยอมจ่ายเพื่อไม่ถูกดำเนินดี




คุณอาจสนใจ

Related News