หญิงวัย 46 ช้ำใจ ถูกเพื่อนบ้านหลอกเอารถไปขาย รู้จักกันทางออนไลน์ตีสนิท ออกอุบายไปเปลี่ยนล้อแม็ค

สาวใหญ่สุดช้ำใจถูกเพื่อนบ้านที่อยู่ในอำเภอเดียวกันรู้จักกันทางเฟซบุ๊กมาตีสนิท ช่วยทำงานขายของบ้างก่อนหน้านี้ชายคนนี้ก็ได้ยืมรถไปหลายครั้งแล้วแต่นำกลับมาคืนทุกครั้งจนผู้เสียหายตายใจ จนมาครั้งนี้ออกอุบายว่าจะเอารถกระบะของผู้เสียหายไปเปลี่ยนล้อแม็กให้จากนั้นก็ไม่เอารถมาคืนอีกเลยแล้วยังโทรมาบอกอีกว่าเอารถไปขายแล้ว แต่ที่ผู้เสียหายตกใจสุดๆ คือ ไปแจ้งความที่ ส.ภ.ตำรวจกับไม่รับแจ้งความตำรวจบอกว่า ถ้าแจ้งความผู้เสียหายต้องโดนถูกดำเนินคดีด้วยอีกคนหนึ่งจนต้องออกมาร้องขอความเป็นธรรมหรือให้ทนายความช่วยเหลือด้วย

วันที่ 13 ธ.ค.65 จากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก รักจริงไม่ทิ้งกันได้มีโพสต์ว่า "ขอความเมตตาให้ช่วยเหลือหน่อยนะคะคนๆ นี้คือคนอันตรายหลอกลวงคนมาเยอะและตอนนี้ได้หลอกเอารถเราไปแล้วไม่นำกลับมาคืนใครที่พบเห็นหรือเจอตัวช่วยบอกมาทางเราให้ทีเรามีรางวัลให้

ชื่อ ไอ้วีรยุทธ ปักษี มีลูกทำงานอยู่เทศบาลเราขอความช่วยเหลือหน่อยนะคะบ้านอยู่รางกระทุ่ม"

ได้ระบายความในใจ หลังมีชายหนุ่มวัยใกล้เคียงกัน ทำทีมาตีสนิททางเฟซบุ๊ก จนเจ้าตัวไว้ใจ ก่อนที่ฝ่ายชายจะออกอุบายขอยืมรถยนต์กระบะ และอ้างว่าจะเอาไปเปลี่ยนล้อแม็กให้ แต่แล้วทั้งคนและรถกลับหายไป"

นางสาวศิวพร อายุ 46 ปี ผู้เสียหายเผยว่า ได้รู้จักกับนายวีรยุทธ อายุ 49 ปี ต.รางกระทุ่ม อ.บางเลน นครปฐม ได้เข้ามาตีสนิทกับตนเองไม่มาหาสู่ และไปช่วยขายของที่ รร.จนรู้จักมักคุ้นกันดี จนสามารถยืมรถกระบะคันดังกล่าวพาลูกไปเที่ยวและก็จะส่งกลับคืน แต่ในวันที่เกิดเหตุ 30 พย. 65 นายวีรยุทธฯ ได้เข้ามาบอกว่าจะมาเอารถกระบะไปเปลี่ยนล้อแม็คให้เพื่อที่จะหักลบกลบหนี้กับเพื่อน และช่วงนั้นที่บ้านน้ำท่วม จึงนำรถกระบะยี่ห้อ Toyota ไปจอดที่วัดแห่งหนึ่ง ก่อนที่นายวีรยุทธฯ จะมาขอยืมรถนายวีรยุทธบอกให้ตนถ่ายรูปรถทั้งคันพร้อมภายในส่งภาพให้ต้นจึงสงสัยว่าแค่ไปติดล้อแม็กทำไมจึงต้องท้ายรูปรถขนาดนั้น ตนได้แค่สงสัย

จากนั้นนายวีรยุทธฯ จึงมายืมไป ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ตนได้โทรติดต่อได้ทางนายวีรยยุทธฯ ติดต่อได้ และทางนายวีรยุทธฯ บอกว่าตอนนี้ติดฝนและบอกว่าจะนำรถมาคืนให้ รอบสองโทรฯไปหาอีกรอบบอกว่าอยู่ลำปาง ประมาณ 24.00 น.ตนเผลอหลับไป และสะดุ้งตื่น จึงออกไปดูรถก็ยังไม่เห็นจึงโทรกลับไปแต่ติดต่อทางนายวีรยุทธฯ ไม่ได้ พอเช้าวันที่ 1 ธ.ค.65 ได้ไปแจ้งความครั้งที่ 1 และได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานแชทที่ได้มีการคุยกับนายวีรยุทธฯ มาแจ้งความที่ สภ.บางเลน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำแค่ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายเดินมาบอกว่าทางตนมีหลักฐานอะไร ที่ว่าเขาขโมยรถ เพราะเป็นคนให้กุญแจรถกับนายวีรยุทธฯ เอง และบอกกับตนว่าระวังจะโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดขโมยด้วย ตนจึงคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะช่วยอะไรไม่ได้จึงนำภาพและโพสต์ข้อความเผื่อมีสื่อที่เห็นโพสต์เข้ามาช่วยเหลือ เพราะรถกระบะคันนี้ ผู้เสียหายบอกว่าอยากได้รถคืนเอามาทำมาหากิน เพราะรถก็ยังผ่อนอยู่ ผ่อนไปแล้วประมาณ 1 ปีกว่าๆ จากนั้นตนได้รับข้อความว่านายวีรยุทธได้นำรถของตนไปขายเรียบร้อยแล้ว

ตนจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไปปรินต์ใส่กระดาษนำไปแจ้งความที่สภ.บางเลนอีกครั้ง ในวันที่ 3 ธ.ค. 65 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รับแจ้งความเหมือนเดิม

ตอนนี้ได้มีผู้เสียหายเพิ่มอีก 1 คนที่โดนเหมือนกันนายสยาม อายุ 44 ปีได้เปิดข้อมูลให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อช่วงปีพ.ศ 2563 ตนเองประสบปัญหาโควิดไม่มีงานและไม่มีเงิน

ตนรู้จักและสนิทสนมกับนายวีรยุทธตั้งแต่สมัยเด็กๆ จึงมีการสอบถามว่านำรถกระบะไปจำนำได้หรือไม่ ต้องการใช้เงินจำนวนเงิน 10,000 บาท รถของตนเป็นรถกระบะ Isuzu Dragon มังกรทอง สีเลือดหมู จากนั้นทางนายวีรยุทธได้มีการสอบถามพ่อและแม่ว่าจะมีการนำรถกระบะมาจำนำต้องใช้เงินจำนวน 10,000 หลังจากนั้นนายวีรยุทธติดต่อเพื่อนที่รู้จักกันเอารถกระบะของตนไปจำนำจำนวนเงิน 10,000 บาท และมีการเซนต์สัญญาถูกต้องหลังจากนั้น

ตนมีเงินพร้อมที่จะถ่ายรถกระบะ จึงสอบถามทั้งต้นและดอกต้องจ่ายจำนวนเท่าไหร่ ทางนายวีรยุทธบอกว่าต้องจ่ายตามจำนวน 30,000 บาททั้งต้นและดอก จากนั้นตนก็รอในวีรยุทธอ้างสารพัดจนมีเพื่อนที่รู้จักโทรมาบอกว่ารถกระบ ะของตนได้มาจอด ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วันแล้ว จากนั้นก็ไม่เจออีกเลยคาดว่าน่าจะโดนขายต่อไปแล้ว ตนจึงไปแจ้งความที่สภบางเลนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าต้องมีหลักฐานในการขโมยจึงจะรับแจ้งความได้ตนจึงไม่แจ้งความต่อไปจึงร้องสื่อ