สังคม

ว่าที่เจ้าบ่าวร้องไห้ปิ่มขาดใจ กอดร่างแฟนสาว โอด “พี่จะอยู่กับใคร” ด้านตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาคนขับรถบรรทุก

โดย paranee_s

9 ธ.ค. 2565

1.4K views

วันนี้ (9 ธ.ค.) ผ้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนหนุ่มผู้เสียชีวิตเข้ารับร่างว่าที่เจ้าสาวถึงกับ โผกอดร่างไร้วิญญาณร่ำไห้อย่างหนักปิ่มขาดใจ และมองไปที่ร่างแฟนสาว ก่อนเปรยออกมาว่า “พี่จะอยู่กับใคร” หลังจากเจ้าหน้าที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตออกมา


ความเสียใจทำให้ว่าที่เจ้าบ่าว ถึงกับเข่าทรุด จนเพื่อนๆ และญาติๆ ต่างค่อยๆ ช่วยกันประคองมานั่งเก้าอี้ ซึ่งมีคุณแม่และเพื่อนๆ เข้ามากอด ปลอบเป็นกำลังใจ และเมื่อนำร่างบรรจุลงโลง ชายหนุ่มก็ยังร้องไห้ และเคาะโลง


จากนั้น ว่าที่เจ้าบ่าวและแม่ ได้ขึ้นไปนั่งบนรถอาสาสมัคร เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดศรีภูกระดึงพัฒนาราม อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย


ก่อนที่ ว่าที่เจ้าบ่าว จะเปิดใจว่า ตอนนี้นึกไม่ออก ไม่รู้จะพูดยังไง มันจุกไปหมด เพราะทั้งคู่ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ส่วนงานแต่งงาน ก็เตรียมงานหมดแล้ว ทั้งซื้อของชำร่วย ของรับไหว้ทุกอย่าง โดยจะจัดงานที่บ้าน ในอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก


ชุดแต่งงานที่เช่าไว้ที่จังหวัดชลบุรี ก็เพิ่งไปลองชุดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ที่ผ่านมาไปรับส่งแฟนเป็นประจำทุกวัน


ส่วนคู่กรณีที่ขับรถบรรทุก 18 ล้อนั้น ตนไม่รู้ว่ายังไงต่อ เพราะพอเกิดเหตุรถชน ตนก็รีบกระโดดออกจากรถ ลงมาดูแฟนทันที ซึ่งเรื่องคดีความตนเองก็จะทำเต็มที่


ด้านพ่อของผู้เสียชีวิต ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ร้องไห้ปิ่มขาดใจ เพราะมีกันเพียง 2 พ่อลูก ต้องให้ญาติๆ พยุงหิ้วปีกออกมาจากห้อง และพาเดินขึ้นรถ


พ่อให้ข้อมูลว่า ยังทำใจไม่ได้กับเหตุที่เกิดขึ้นลูกสาวจะแต่งงานวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ตั้งใจจะจัดงานเพื่อให้ลูกมีความสุข กลับกลายเป็นว่าครอบครัวต้องมามีความทุกข์ ใจจะขาด ครอบครัวได้จัดเตรียมงานไว้หมดแล้ว รอวันแต่งงานอย่างเดียว ลูกสาวดีใจมากที่จะได้แต่งงาน เขาคบหาเป็นแฟนกับหนุ่มมานาน


ขณะที่ทีมข่าว ได้คุยกับพี่สาวว่าที่เจ้าบ่าว ก็เล่าว่า ทั้งคู่คบกันมานาน และฝ่ายเจ้าสาว ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตเป็นเด็กนิสัยดี เรียบร้อย น่ารัก ซึ่งทั้งคู่คบหาดูใจกันมานาน ไม่เคยห่างกันเลย อยู่ด้วยกันตลอด รักกันมาก


ส่วนแพลนแต่งงาน ก็คุยมานานแล้ว และเพิ่งได้ฤกษ์วันที่ 25 ธันวาคมนี้ ซึ่งมีการเตรียมงานจะ 100%แล้ว เหลือเพียงจัดตกแต่งสถานที่


ตอนนี้น้องชายก็ยังตั้งสติไม่ได้ รู้สึกผิด พูดตลอดว่าเป็นความผิดเขา ตนก็บอกน้องตลอดว่า มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจ มันไม่ได้ผิดที่น้อง แต่เขายังโทษตัวเองตลอด


ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ลงพื้นที่หน้าโรงงานที่ อ.บ้านนา ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ยังพบร่องรอย เศษกระจกรถ และชิ้นส่วนของรถที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุอยู่ โดยบริเวณดังกล่าว มี 2 ช่องทาง ซึ่งเป็นทางตรง แต่จากการสังเกตจะมีรถใหญ่วิ่งจำนวนมาก และขับค่อนข้างเร็ว


ส่วนรถพ่วง 18 ล้อ ขณะนี้จอดไว้ริมทาง ห่างจากจุดเกิดเหตุ 300 เมตร โดยที่ตัวรถมีร่องรอยการชนที่กระจังหน้าหลุดออก ไฟหน้าด้านซ้าย พังเสียหาย ส่วนยางล้อหน้าซ้ายยางฉีกขาดทั้งเส้น


ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่าคนขับรถพ่วงให้การว่า มีรถที่ชนกันอยู่แล้ว หมุนมาใส่รถตน ทำให้เสียหลักไปชนรถปาเจโร่ของแฟนผู้ตาย


ทีมข่าวจึงได้ย้อนกลับไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เพื่อตรวจสอบว่า เป็นไปตามคำให้การก่อนหน้านี้หรือไม่ซึ่งจากกล้องวงจรปิดที่ดู ช่วงเวลาเกือบ 17.16 น. เห็นรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ของฝ่ายชายขับผ่านไป จากนั้นอีก 7 วินาทีต่อมา รถพ่วง 18 ล้อขับตามมาด้วยความเร็ว สอดคล้องกับข้อมูลของผู้คนละแวกใกล้เคียงที่ยืนยันว่า ไม่ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก่อนตามข้อมูลที่ระบุไว้


ทั้งนี้ ทีมข่าว ได้เดินทางไปที่ สภ.บ้านนา พนักงานสอบสวน สภ.บ้านนา อยู่ระหว่างสอบปากคำคนขับรถพ่วง เบื้องต้นรับสารภาพในทุกข้อกล่าวหา ก่อนที่จะเตรียมคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดนครนายกฝากขัง


ก่อนคุมตัวไป ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า อยากพูดอะไรกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต หรืออยากขอโทษหรือไม่ คนขับรถพ่วงได้แต่พยักหน้า แต่ไม่ตอบ หรือ พูดใดๆ รวมถึงเรื่องที่สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ตอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาขึ้นรถคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามถามต่อว่า ได้ดื่มแอลกอฮอล์มาด้วยหรือไม่ คนขับพ่วงก็พยักหน้า


โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า จากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด พบว่ามีปริมาณ 66 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นจึงแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ เมาแล้วขับ และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต จากการสอบสวน

คุณอาจสนใจ

Related News