เด็กประถม 8 คน แอบกินกล้วยบ้านแม่ค้าสาว กลับโดนหมายเรียกรับทราบข้อหา

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 ขวบ ถึง 12 ปี ถูกแจ้งความคดีอาญา โดยไม่เป็นธรรม เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็ก



จากการตรวจสอบที่บ้านโคกสำโรง หมู่ 7 พบชาวบ้านกำลังนั่งจับกลุ่มพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหมายเรียกจากตำรวจ สภ.ประโคนชัย ระบุชัดว่า ได้กล่าวหาเด็กชายชั้น ป.1 อายุ 7 ขวบ ในข้อหาร่วมกันบุกรุก และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์



นางสิริมา อายุ 53 ปี แม่ของเด็กชายอายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.บ้านไทร เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. น.ส.กุ้ง (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี คนในหมู่บ้าน ได้เรียกเด็กนักเรียนอายุตั้งแต่ 5 ขวบ ถึง 12 ปี รวม 8 คน ไปที่บ้าน แล้วถ่ายคลิปการสอบสวนเด็กทั้งหมด ที่เข้าไปในห้องครัวแล้วกินกล้วยน้ำว้าหมดไป 1 หวี และมีทรัพย์สินอื่นภายในบ้านเสียหาย



เมื่อมาสอบถามทราบว่าลูกชายตนกับเพื่อนรวม 8 คน ได้เข้าไปที่ห้องครัวกินกล้วยจริง แต่ไม่ได้ทำลายทรัพย์สินของเจ้าของบ้าน สาเหตุที่เข้าไปเพราะห้องครัวเป็นแบบโล่ง ไม่มีฝากั้น ประกอบกับเคยไปบ้านหลังนี้เป็นประจำ เนื่องจากเจ้าของบ้านเคยเรียกให้ลูกชายกับเพื่อนๆไปซื้อไก่ป๊อป ที่เหลือจากการขายในตัวอำเภอ อีกทั้งลูกชายเจ้าของบ้านเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน



ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พ.ย. เด็กๆแต่ละคนได้รับหมายเรียกลงนามโดย พ.ต.ท.ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตร(สอบสวน)สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย ให้ไปพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 4 ธ.ค. 65 ตนกับผู้ปกครองคนอื่นรวม 8 คน ตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเด็กวัยขนาดนี้จะต้องได้รับหมายเรียก ซึ่งในวันดังกล่าว ผู้ปกครองทุกคนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เบื้องต้นเรียกเงินค่าสินไหมรายละ 3,000 บาท แต่ลดให้เหลือคนละ 2,000 บาท ผู้ปกครองจำนวน 4 คน ยอมจ่ายเพราะไม่อยากเรื่องมาก ส่วนอีก 4 คนที่เหลือ เด็กปฏิเสธว่าไม่ได้ไปด้วย



นางสิริมา กล่าวอีกว่า ตนเองเป็นหนึ่งคนที่ยอมจ่ายค่าสินไหม 2,000 บาท แต่ที่แปลกใจคือ มีเด็ก 5 ขวบ เรียนแค่ชั้นอนุบาล ซึ่งไม่รู้เรื่องด้วย ผู้กล่าวหายังไม่ยอมลดราวาศอก ประกาศจะดำเนินคดีทั้งหมดหากไม่จ่ายเงิน



ด้าน นายธรีภัทร์ อายุ 48 ปี พ่อเด็กชายอายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 บอกว่า ตนจะไม่ยอมจ่ายเงิน 2,000 บาทเด็ดขาด เพราะลูกชายไม่ได้ไปด้วย วันที่ น.ส.กุ้ง เรียกเด็กทั้งหมดไปสอบสวนที่บ้าน ตนก็ไปด้วย จนมีปากเสียงกัน เพราะทำเกินกว่าเหตุ เค้นถามเด็กเหมือนคดีฆ่าคนตาย สิ่งที่ตนติดใจมากที่สุดคือหมายเรียกของตำรวจที่ส่งมาที่บ้าน ระบุชื่อเด็กชัดเจน เด็กอ่านหนังสือออกแล้ว ก็เกิดอาการหวาดผวากลายเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กเป็นอย่างมาก เพราะเริ่มเหม่อลอย ไม่ยอมไปเล่นเหมือนที่เคยไป



ขณะที่ น.ส.กุ้ง เจ้าของบ้านที่ไปแจ้งความ บอกว่า ตนเองเพิ่งกลับมาอยู่บ้านที่ อ.ประโคนชัย ได้ประมาณ 6 เดือน ยึดอาชีพขายไก่ป๊อป จะออกบ้านตั้งแต่เช้า กลับเข้าบ้านประมาณ 17.00-20.00 น.ทุกวัน ที่ผ่านมาตนได้รับความเดือดร้อนเหมือนถูกกลั่นแกล้งมาหลายครั้ง เคยถูกเอาไข่เน่ามาขว้างที่บ้าน เอกสารภายในบ้านถูกรื้อค้นเสียหายหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ถูกเอามาเททิ้งทั่วบริเวณ แต่หาตัวคนทำไม่ได้ ล่าสุดกล้วยน้ำว้าที่ซื้อมาเก็บไว้ในห้องครัวหวังจะเอามากินหายไปทั้งหวี จนกระทั่งจับเด็กมาสอบจึงรู้ความจริงทั้งหมด ยอมรับว่าได้เรียกค่าเสียหายคนละ 3,000 บาทจริง แต่เห็นใจลดให้ 2,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 4 ราย หากไม่จ่ายจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด