สาวร้อง 'น้องคะแนน' เน็ตไอดอล สวมชื่อนามสกุล จนเดือดร้อน - เจ้าตัวยันไม่เคยปิดว่าเป็นสาวสอง

วานนี้ (7 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นางสาวกนกญาดา (น้องจอย) อายุ 24 ปี เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อสายไหมต้องรอด หลังถูกน้องคะแนน เน็ตไอดอลชื่อดัง ซึ่งเป็นสาวสอง นำชื่อและนามสกุล รวมถึงวันเดือนปีเกิด ไปใช้ในการรับงาน หรือสร้างโซเชียลมีเดียต่างๆ จนนำไปสู่การถูกออกหมายเรียกจากทางตำรวจกองปราบปราม และหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับเรื่องภาษี หรือหน่วยงานที่ควบคุมกำกับดูแลเกี่ยวกับเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

โดยน.ส.กนกญาดา ระบุว่า ตนเองเป็นรุ่นน้องของเน็ตไอดอลคนดังกล่าว ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง สมัยเรียนโรงเรียนตั้งตรงจิต ในขณะนั้นตนเองอายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 1 ส่วนเน็ตไอดอลคนดัง เป็นรุ่นพี่ร่วมสถาบันได้มาขอบัตรประชาชนและถ่ายรูปบัตรประชาชนของตนเองไปโดยบอกว่าขอยืม แต่ไม่ได้บอกว่ายืมไปทำอะไร ซึ่งตนเองด้วยความเป็นเด็ก ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนขึ้นในอนาคต

หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ติดต่อกัน กระทั่งเดือน พ.ค.60 เขาทักมาบอกอยู่โรงพยาบาล และขอให้ถ่ายบัตรใหม่ ของเก่าทำหาย แต่ครั้งนั้นตนไม่ได้ให้ไป จนปี 2563 ได้รับหมายเรียกให้ไปพบตำรวจกองปราบ เนื่องจากมีชื่อไปโฆษณาเชิญชวนให้เล่นการพนัน ให้ไปชี้แจ้งว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่

เมื่อตรวจสอบเอกสาร ก็พบว่าเอกสารหมายเรียกมีการใช้ชื่อและนามสกุลของตนเอง แต่รายละเอียดทั้งหมดเป็นการกระทำจากของเน็ตไอดอลคนดังกล่าว รวมถึงตนเองยังเคยได้รับเอกสารเกี่ยวกับเรื่องภาษีอากรส่งมาที่บ้าน ซึ่งในเอกสารระบุชื่อและนามสกุลของตนเองที่มีการไปรับงานแห่งหนึ่งในราคาค่าจ้างหลัก 10,000 บาท ซึ่งไม่ใช่ตนเองที่ไปทำงานดังกล่าวแต่เป็นรุ่นพี่เน็ตไอดอลคนนี้

ที่ผ่านมา ตนเองได้พยายามติดต่อให้รุ่นพี่คนดังกล่าวหยุดการใช้ชื่อและนามสกุลของตนเอง ในการรับงาน รวมถึงชื่อที่นำไปใช้ในการสร้างโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งตัวรุ่นพี่ก็มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวสะกดในนามสกุลให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย แต่ยังคงใช้ชื่อและนามสกุล รวมถึงข้อมูลวันเดือนปีเกิดของตนเองอยู่ ก่อนที่รุ่นพี่เน็ตไอดอลคนดังกล่าวจะบล็อคเฟซบุ๊กของตนเอง ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะที่ผ่านมาจะติดต่อกันผ่านการโทรทางเฟซบุ๊ก

จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางสายไหมต้องรอด เพราะไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรรวมถึงตนเองเกรงว่าในอนาคต จะเกิดปัญหาติดตัวทำให้ไม่สามารถไปสมัครงานได้เพราะขณะนี้ก็เริ่มมีประวัติเกี่ยวกับคดีต่างๆมาถึงตนเอง ส่วนชื่อจริงของเน็ตไอดอลคนนี้คือชื่อ นายณัฐพล บุญมี

ขณะที่นายเอกภพ ระบุว่า หลังจากทราบเรื่องจากทางน้องจอยก็ได้มีการตรวจสอบตามโซเชียลมีเดียพบว่ายังคงมี การใช้ชื่อของน้องจอยบนเฟซบุ๊ก และมีการอัพเดทเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆของเน็ตไอดอลคนนี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น รวมถึงการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะชื่อดังกล่าวไม่ใช่ชื่อของเน็ตไอดอล แต่มีการใช้ชื่อของบุคคลอื่น

ยังไม่นับถึงการที่มีการใช้ชื่อของน้องจอยไปรับงานต่างๆ ซึ่งอาจจะมีผลห่วงมาเกี่ยวกับเรื่องภาษีในอนาคตที่เกิดขึ้น เพราะทราบว่าขณะนี้ก็มีเอกสารเกี่ยวกับเรื่องหน่วยงานภาษีมาถึงตัวน้องจอยบ้างแล้ว

ตนเองจึงอยากขอให้ทางเน็ตไอดอลคนดังกล่าว หยุดการกระทำในการใช้ชื่อของน้องจอย ซึ่งในวันนี้สายไหมต้องรอดจะพาน้องจอยไปทำการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน. สายไหมให้ดำเนินคดีกับเน็ตไอดอลคนดังกล่าว

ต่อมาในช่วงบ่าย 'คะแนน' กนกญาดา จิตรอำพน เน็ตไอดอลที่ถูกกล่าวหา ได้เดินทางไปร่วมรายการชื่อดัง เพื่อชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว โดยมี น.ส.กนกญาดา จิตรอำพัน อายุ 24 ปี หรือน้องจอย ผู้ที่ออกมาร้องเรียนเรื่องดังกล่าว มาร่วมรายการด้วย โดยมี ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสภาทนายความ มาร่วมพูดคุยในเรื่องของกฎหมาย

โดย 'คะแนน' ยอมรับว่า นำชื่อของ จอย ไปใช้เป็นของตัวเองจริง เพราะชื่อถูกโฉลก ตัวเองมีความเชื่อในทางสายมูมากๆ ในสมัยเรียนหมอดูเคยบอกไว้ ว่าถ้าใช้ชื่อนี้จะดี แต่ไม่เคยเอาชื่อไปใช้ในทางที่ไม่ได้ ยืนยันไม่เคยเอาไปทำธุรกรรมอะไรเลย เพราะไม่มีบัตรประชาชนจริง

ส่วนที่ต้องมาขอรูปบัตรประชาชนอีกรอบนั้น ก็เพราะเฟซบุ๊กมีปัญหา ต้องใช้บัตรประชาชนในการยืนยันตัวตน จึงให้รุ่นน้องที่สนิทกับจอย ทักมาขอ ซึ่งที่จอยติดต่อตนไม่ได้ ก็เพราะเฟซบุ๊กมีปัญหาเช่นกัน

ซึ่งตนเองยอมรับผิดว่า ไม่ได้บอกจอยว่าจะเอาชื่อไปทำอะไรบ้าง เพราะไม่คิดว่าจะมีปัญหาระยะยาว แต่พอเข้าวงการก็ไปเปลี่ยนชื่อของตัวเอง แต่มีการปรับนามสกุลให้ไม่เหมือนกันเล็กน้อย ยอมรับผิดว่า ติดกระดุมผิดมาตั้งแต่เม็ดแรก คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย และไม่ได้คดโกงใคร เพราะทำแต่งาน เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหลังจากเปลี่ยนชื่อแล้ว

ส่วนคำถามที่ว่า ที่นำชื่อของจอยไปใช้ เพราะอยากมีตัวตนเป็นผู้หญิง แต่เป็นเพราะความเชื่อในเรื่องของความถูกโฉลก และสายมูเท่านั้น

ส่วนเรื่องของเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายภาษี คาดว่าอาจจะเป็นเพราะความผิดพลาดในเรื่องเอกสาร อาจจะพิมพ์พลาด เพราะนามสกุลต่างกันนิดเดียว ซึ่งเรื่องนี้ คะแนนจะรับผิดชอบเอง แต่ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก ก็ให้เป็นตาม กม.ได้เลย ยืนยันจะไม่เกิดอะไรแบบนี้อีก พร้อมกับขอโทษทั้งตัวจอย และครอบครัวของจอย

โดยหลังจากนี้ จะต้องพูดคุยกันเรื่องของการเยียวยา และยอมที่จะเปลี่ยนนามสกุลให้ไม่เหมือนกับจอยอีก ส่วนถ้ามีบุคคลเอาชื่อ นามสกุล และรูปภาพของคะแนน ไปสวมรอยอีก ก็จะต้องช่วยเหลือน้องจอย เนื่องจากคะแนนเอาชื่อของน้องมาใช้

ซึ่งทางจอยเอง ก็รู้สึกสบายใจขึ้น และก็ยอมจบเรื่องราวแต่โดยดี

----------


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/rCAoFKTHJa4