'ทนายตั้ม' ยันไม่ดิสเครดิต หลังสาว 16 ถูกข่มขืน ทนายดังเข้าอุปการะ สุดท้ายถูกกระทำซ้ำ

จากกรณี เพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เด็กวัย 16 ปี ได้เขียนจดหมายเข้ามาหา โดยเล่าเรื่องราวของตัวเธอเองว่า เธอถูกทนาย ส. ทนายชื่อดังแถวบ้านกกกอก กระทำชำเรา และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า จึงอยากขอให้ช่วยตามคดีให้ จะจริงหรือเท็จโปรดติดตาม…”

วานนี้ ทนายตั้ม เปิดเผยว่า เรื่องนี้น้องผู้เสียหายส่งจดหมายมาที่สำนักงาน เมื่ออ่านข้อความ น้องเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองที่ถูกกระทำ โดยเนื้อหาเกี่ยวข้องกับทนายคนหนึ่ง ที่ตอนนี้ทำคดีของลุงพลอยู่ที่บ้านกกกอก ซึ่งทนายคนนี้เขาเป็นคนเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการเรียนของน้องผู้เสียหาย

แต่ปรากฏว่า กลับก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศน้อง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ทนายคนนี้ได้มาที่ห้องพักของน้อง ก่อนเอาน้ำส้มมาให้น้องผู้เสียหายกิน และก่อเหตุล่วงละเมิดโดยที่น้องเขาไม่ยินยอม

ตนได้โทรไปพูดคุยกับน้องผู้เสียหายแล้ว ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าเขาถูกล่วงละเมิดจริงโดยไม่ได้เต็มใจ แต่ยอมรับว่า ทนายคนนี้เป็นคนรับน้องมาส่งเสียเลี้ยงดู หลังเกิดเรื่องจึงไปแจ้งความเอาไว้ที่ สน.สุทธิสาร เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา

ขณะที่ ตนได้โทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรที่ทำคดีนี้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า มีมูลความจริงหรือไม่ ตำรวจบอกว่าเบื้องต้นมีหลักฐานคือแชทไลน์ที่คุยกันระหว่างเด็กกับทนาย และคลิปวิดีโอบางส่วน

หลังจากนี้ จะต้องนัดให้น้องผู้เสียหาย มาพูดคุยสอบถามอีกครั้ง ว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร แต่แน่นอนว่าเด็กอายุเพียง 16 ปี แม้ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ยินยอม ก็ผิดในฐานพรากผู้เยาว์

โดยส่วนตัวไม่ได้รู้จักกับทนายคนนี้เป็นการส่วนตัว และยอมรับว่าไม่ได้รู้เรื่องราวลึกๆ ของเหตุการณ์นี้ จึงยังไม่สามารถฟันธงอะไรได้ แต่เท่าที่เห็นในใบแจ้งความลงบันทึกประจำวันก็เชื่อได้ว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศจริง

ทั้งนี้ การที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นการดิสเครดิตทนายด้วยกัน หรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีของลุงพล หลังจากนี้จะมีการนัดให้น้องผู้เสียหายมาสอบถามข้อมูล วันที่ 15 ธันวาคม นี้

เบื้องต้น ได้ประสานทางตำรวจถึงแนวทางความคืบหน้าคดีแล้ว รวมถึงยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหายที่น้องผู้เสียหายเรียกร้องไป 100,000 บาท

ส่วนสภาพจิตใจของน้องผู้เสียหายตอนนี้สภาพจิตใจก็ไม่ค่อยดี และตนได้ประสานไปยังพ่อของน้องที่มีถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดจันทบุรี แต่จากข้อมูลของผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่บอกว่า พ่อของน้องถูกดำเนินคดีอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าคดีจะพลิก แล้วทนายที่ถูกกล่าวหาอาจฟ้องกลับ ทนายตั้มบอกว่า ไม่กังวล เพราะเรื่องที่ตนออกมาพูดคือเรื่องจริงทั้งหมด ส่วนเรื่องนี้มีหลักฐานที่มีเชื่อว่าน้องถูกละเมิด
-------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/fsPmkhkH4Yc