แจ้งงดบริจาคช่วยสาวประกาศขายดวงตา พบพิรุธหลายอย่าง อดีตนายจ้างเผยเคยส่งรูปเด็กให้ดูและบอกว่าคลอดลูกไปแล้ว

             กรณีนางสาวบี อายุ 39 ปี ส่งข้อความไปที่เพจบ้านดุงอัพเดท ว่าต้องการขายดวงตา 1 ข้าง จำนวน 20,000 บาท เพื่อหาเงินไว้เป็นทุนเลี้ยงลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมา  โดยเล่าประวัติสุดรันทด ว่าสามีคนแรกเสียชีวิตด้วยโรคไหลตายขณะตั้งท้องลูกชายคนแรก เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว  จนมาปี 2564 ลูกชายคนแรก ก็ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ เสียชีวิตในวัย 22 ปี   มิหนำซ้ำ สามีคนที่สองซึ่งเป็นชาวลาวก็มาเสียชีวิตไปอีกคน ทั้งที่ตนเองกำลังตั้งครรภ์ได้ 6-7 เดือน  ตนเองไม่มีญาติ ไม่มีบ้าน ไม่มีรายได้ และต้องเลี้ยงลูกน้อยที่ใกล้คลอด จึงอยากประกาศขายดวงตา  ซึ่งพอข่าวนี้แพร่ออกไป ก็มีคนใจบุญช่วยบริจาคเงินจำนวนมาก

              ผู้สื่อข่าวไปติดตามความคืบหน้าที่โรงพยาบาลอุดรธานี   พบว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นางสาวบีคลอดลูกแล้ว เป็นทารกเพศหญิง โดยมีเจ้าหน้าที่ พม.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก มาเยี่ยมและหาทางช่วยเหลือเบื้องต้น

              แต่ปรากฎว่า เวลาประมาณ 15.00 น. นางสาวปาณิสรา หรือเจ๊แอน และนายสุรเชษฐ์ สองสามีภรรยาเจ้าของสวนอินทผลัมในจังหวัดสระแก้ว มาเยี่ยมนางสาวบี โดยบอกว่าเป็นอดีตนายจ้าง  บังเอิญเห็นข่าวของอดีตลูกจ้าง จึงรีบมาเยี่ยม และตกใจมาก  ไม่คิดว่าอดีตลูกจ้างจะลำบากถึงเพียงนี้  เพราะเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นางสาวบีเพิ่งทักมาสมัครงานเป็นคนสวนรดน้ำอินทผลัม  จึงตกลงรับทำงานโดยให้เงินเดือนละ 9,000 บาท   แต่ทำได้ 2 วัน นางสาวบีก็แจ้งมาว่า จะกลับบ้านที่อุบลราชธานี  ซึ่งเจ๊แอนก็เป็นห่วง เพราะเห็นว่าท้องแก่  หลังจากนั้นนางสาวบีก็ถ่ายรูปคู่กับทารกน้อย บอกว่า คลอดแล้ว อยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุบลราชธานี  ตนจึงซื้อของใช้จำเป็นจะนำไปเยี่ยม แต่พอสอบถามไปที่โรงพยาบาล กลับไม่พบชื่อนางสาวบี   จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ทราบข่าว ก็สงสัยว่า ทำไมยังประกาศผ่านโซเชียลว่าใกล้จะคลอดลูก  

          เจ๊แอนบอกว่า ช่วงที่ทำงานกับเจ๊แอน ก็ให้เงินช่วยเหลือไปบ้าง  มาคราวนี้ไม่แน่ใจว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรอีก แต่เจ๊แอนก็พร้อมจะช่วยและจะรับกลับไปทำงาน นอกจากนี้ ยังมอบเงิน 1,000 บาท ฝากสื่อไปมอบให้นางสาวบีด้วย เนื่องจากแพทย์ยังไม่ให้เข้าเยี่ยม

            ด้านนายภานุมาศ จิตรวศินกุล  เจ้าของเพจ "เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย" เปิดเผยว่า เบื้องต้น จะขอให้ผู้ใจบุญงดการบริจาคเงินให้นางสาวบีก่อน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง รวมทั้งเรื่องที่หลอกนายจ้างด้วย  จึงต้องแจ้งระงับการช่วยเหลือ เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน จึงจะพิจารณาว่าสมควรช่วยเหลืออย่างไร  ส่วนทารกที่คลอดมาปลอดภัยดี หลังจากนี้ ให้นางสาวบีพักฟื้นก่อน 2-3 วัน จึงจะสอบถามข้อเท็จจริง

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวบีเคยบอกว่าเป็นชาวอำเภอโขงเจียม แต่เมื่อตรวจสอบบัตรประชาชน  พบว่ามีภูมิลำเนาในอำเภอเมืองอุบลราชธานี ส่วนข้อความที่เคยคุยกับผู้สื่อข่าว ทั้งเรื่องประวัติสุดรันทดต่างๆ ถูกหญิงคนนี้ลบทิ้งหมด