สังคม

'ชูวิทย์' เผาพริกเผาเกลือ แฉหลักฐานนอมินี 'ตู้ห่าว' ปล่อยทีเซอร์ซีรีส์เรื่องใหม่ 'ท้องเพื่อพ่อ'

โดย thichaphat_d

2 ธ.ค. 2565

369 views

ชูวิทย์ เผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง คนที่กล่าวหาว่าการแฉมีเบื้องหลัง ลั่นหากตนพูดจริง ขอให้ สันขวาน มีอันเป็นไป แฉข้อมูลชุดใหญ่ เส้นทางโอนเงินซื้อที่ดิน 400 ล้านจากตู้ห่าว ให้นอมินีสาว จับตาแฉภาคต่อไป อุ้มท้องซื้อพ่อ เรียกร้องบิ๊กตู่ มาจัดการ เพราะทุนจีนสีเทาใหญ่เกินกำลัง ผบ.ตร. ไปแล้ว


ยังคงเป็นประเด็นเกี่ยวการการเปิดโปงขบวนการนายทุนจีนสีเทา ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดโปงทั้งข้อมูลและหลักฐานสำคัญ ก่อนหน้านี้ก็แฉนายตู้ห่าว นายทุนจีน เจ้าของผับจิ้นหลิน ที่มีการเปิดมั่วสุ่มยาเสพติด ต่อมานายตู้ห่าวก็ เข้ามอบตัว พร้อมกับทนายความเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

วานนี้ (1 ธ.ค.65) นายชูวิทย์ นำข้อมูล หลักฐานต่างๆ ออกมาเปิดโปงกลุ่มนอมินีคนจีน มีหลายประเด็น เริ่มต้นการแถลง นายชูวิทย์มาด้วยน้ำเสียงดุดัน แล้วโชว์พริกและเกลือ บอกว่า จะเผาพริกเผาเกลือ สาปแช่ง กับคนที่ไม่จงรักภักดี เอาสื่อเป็นเครื่องมือหาเงินเรียกราคา

นายชูวิทย์ บอกว่า ที่ออกมาเปิดเผย ข้อมูลนี้ เพราะตนก็เป็นคนจีน เข้ามาหากินที่เมืองไทย ทำมาหากินสุจริต และนักธุรกิจคนจีนก็ทำธุรกิจใหญ่ๆในประเทศไทยหลายคน ทำมาหากินสุจริต แต่ปัจจุบันคนจีนที่เข้ามาทำมาหากินในไทย ไม่ได้ทำแบบสุจริต มีทั้งเปิดบ่อนการพนัน การขายยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์

จากนั้นก็นำหลักฐาน ที่นำไปมอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยเป็นเอกสาร การซื้อขายที่ดินมูลค่า 400 ล้าน การสั่งจ่ายเช็ค 5-6 ครั้ง โดยผู้เซ็นเช็ค คือนายตู้ห่าว และ มีหญิงคนหนึ่ง ชื่อนางพัชรินทร์ ซึ่งนายชูวิทย์ระบุว่า นางพัชรินทร์ คนนี้เป็นนอมินีของนายตู้ห่าว ทำหน้าที่แทนตู้ห่าวทุกอย่าง ทั้งทำธุรกรรมการเงิน และธุรกิจต่างๆ นางพัชรินทร์ เป็นนอมินีทั้งหมด แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า การที่นางพัชรินทร์เป็นนอมินี หลักฐานก็มีขนาดนี้

แต่นางพัชรินทร์กลับไม่ถูกดำเนินคดี ตำรวจไปหาที่บ้านก็ไม่พบ จนวันนี้ก็ไม่มีหมายจับ หมายเรียกก็ไม่มี แต่ในทางกลับกัน ตนเป็นคนธรรมดา ยังมีหลักฐานขนาดนี้ ก็ใม่รู้ทำไมตำรวจถึงไม่จับ

นอกจากนี้ยังมีกล้องวงจรปิด ช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา จับบภาพ นางพัชรินทร์ขับรถยนต์หรู ไปสถานที่แห่งหนึ่ง โดยที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการดำเนินการทางกฎหมาย

ซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่นำมาเปิดเผย นายชูวิทย์  ยืนยันว่า เป็นข้อมูลที่ถูกต้องแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะมีการลบข้อมูลไปแล้ว แต่นายชูวิทย์บอกว่า ให้ฝ่ายเทคนิคส่วนตัวดึงข้อมูลใน iCloud ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวลงมาตรวจสอบ  

นอกจากนี้ ตนยังมีพยานคนสำคัญ ที่จะต่อสู้คดีและให้ข้อมูล ของนายตู้ห่าว เรียกว่าเป็นพยานปากเอก คนสำคัญ ซึ่งเป็นคนไทยที่เคยทำงานกับนายตู้ห่าว แต่นายตู้ห่าวไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้าง จึงติดต่อเข้ามาหาตนเองเพื่อขอเป็นพยานในคดี และให้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งขณะนี้ตนเองไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของบุคคลดังกล่าวได้และดูแลเรื่องความปลอดภัยก่อนที่จะส่งพยานคนดังกล่าวให้กับตำรวจ

ทั้งนี้ ยังฝากถึงไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำสำนวนคดีดังกล่าว และการไล่ติดตามยึดทรัพย์ ให้ทำงานอย่างโปร่งใสเป็นธรรม หากมีบุคคลใดที่ตั้งใจทำสำนวนให้อ่อนหรือทำให้ในตู้ห่าว ได้รับการปล่อยตัวจากการฝากขังไม่ทันทั้ง 7 ผลัดตนเองมีข้อมูลของทุกคน

และยืนยันว่าตนเองไม่ได้รับงานหรือรู้มีใครอยู่เบื้องหลัง ตนออกมาสู้คนเดียว เพราะเห็นว่ากลุ่มนายทุนจีนสีเทานี้ ทำลายประเทศจึงตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลและส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้ กลุ่มนายตู้ห่าวและพวก ยังมีการจ้างสำนักทนายความชาวจีนเป็นของตนเอง เพื่อใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับขบวนการและผู้ที่สนใจจะเดินทางมาลงทุนธุรกิจสีเทา หรืออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย และเป็นที่มาของการใช้วิธีการเช่าโดยมีคนไทยเป็นนอมินี รวมทั้งการซื้อโรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่ง ใช้สำหรับการรองรับคนจีนที่จะมาทำธุรกิจ และทำวีซ่า เพื่อมาศึกษา

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ยังนำภาพถ่าย มาให้ผู้สื่อข่าวดู เป็นภาพถ่าย ที่ลักษณะเป็นป่าสงวนและมีการก่อสร้างบ้านเป็นหลังๆ คล้ายกับหมู่บ้าน แต่อยู่ในป่าแบบไพรเวท ซึ่งหมู่บ้านนี้ นายชูวิทย์บอกว่า มีหน่วยงานจากต่างประเทศ นำเงินมาสนับสนุนยาเสพติดของประเทศไทย เอาเงินไปสร้างบ้านในป่าสงวน ที่จังหวัดเชียงราย โดยไม่มีการตรวจสอบ

พร้อมตั้งคำถาม ถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีอำนาจในการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงไม่ไปตรวจค้นในเครื่องบิน ซึ่งอาจจะมีได้ข้อมูลหรือหลักฐานบางอย่างที่สำคัญทางคดี

นอกจากนี้ในการแถลงข่าว นายชูวิทย์บอกว่า พวกคนจีนสีเทา ที่เข้ามาหากิน ทำสิ่งผิดกฎหมายใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข และมีก็เปิดคลิปช่วงที่แก๊งคนจีนจัดปาร์ตี้ ต้องบอกว่า ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะในคลิปเป็นการจ้างโคโยตี้สาว เปลือยกายกว่า 20 คน มาเต้นโชว์ และเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน

ทิ้งท้าย การแถลงข่าว นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า ครั้งหน้า จะนำข้อมูลคนจีนอีกกลุ่ม ซึ่งคนเหล่านี้ ยังก่อเหตุที่กระทบต่อความมั่นคงต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก นายชูวิทย์ใช้คำว่า “อุ้มท้องซื้อพ่อ” ซึ่งจะมีการเปิดเผยในครั้งต่อไป

ทั้งนี้ภายหลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ได้ทำการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งคู่กรณี โดยกล่าวว่า ขอให้ฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเป็นพยาน หากตนแฉเรื่องนายทุนจีน มีคนอยู่เบื้องหลัง หรือมีคนสั่งการ หากกระทำการโดยไม่สุจริต ขอให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน แต่ถ้าใครที่ไปทำมาหากินกับคนจีนสีเทา ขอให้พินาศ ขอให้ตกนรก เจอแต่เรื่องวิบัติ

ซึ่งการสาปแช่งนี้ไม่ใช่แค่คู่กรณีคนเดียว แต่ใครก็ได้ที่คิดทำไม่ดี ไม่เว้นแม้แต่การทำสำนวนอ่อน การหากินบิดพลิ้วจากคดีนี้ก็ให้ได้รับผล


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/amU42HY2RUM


คุณอาจสนใจ

Related News