สังคม

รองโฆษก อสส. แจงการดำเนินคดีดารารุ่นใหญ่ ตบหน้ารุ่นน้องกลางห้างเกาหลี

โดย nutda_t

26 พ.ย. 2565

273 views

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 8 ระบุไว้ว่า ความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายที่เกิดนอกราชอาณาจักร สามารถที่จะดำเนินคดีในประเทศไทยได้ แต่กำหนดไว้ว่า ผู้เสียหายต้องเป็นคนไทย และจะต้องเป็นการทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ตามมาตรา 295 โดยหากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดี ก็สามารถกลับมาแจ้งความได้ ซึ่งกฎหมายกำหนดให้อัยการสูงสุด รับผิดชอบเป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งอัยการสูงสุดสามารถที่จะแต่งตั้งพนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้ ทั้งนี้ ก็สามารถที่จะไกล่เกลี่ยได้เช่นกัน หากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายยินยอม



อย่างไรก็ตาม หากการทำร้ายนั้น ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ หรือเป็นความผิดลหุโทษ จะไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสามารถดำเนินคดีในประเทศไทยฐานความผิดนอกราชอาณาจักรได้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งการวินิจฉัยว่าจะเข้าข่ายความผิดมาตรา 295 หรือเป็นเพียงความผิดลหุโทษ โดยทั่วไปจะยึดจากผลวินิจฉัยของแพทย์ว่าการถูกทำร้ายนั้น จำเป็นต้องได้รับการเข้ารักษาพยาบาลไม่น้อยกว่า 7 วันหรือไม่



ส่วนการที่ผู้เสียหายไปแจ้งความในประเทศที่เกิดเหตุ ก็สามารถทำได้ เพราะทุกประเทศมีกฎหมายเรื่องการทำร้ายร่างกายอยู่แล้ว ก็ดำเนินการตามกฎหมายของแต่ละประเทศได้ ซึ่งหากผู้เสียหายแจ้งความที่ประเทศที่เกิดเหตุไว้แล้ว เมื่อเดินทางกลับมา ก็ยังสามารถกลับมาแจ้งความดำเนินคดีที่ประเทศไทยได้อยู่ หากเข้าข่ายความผิดมาตรา 295 ซึ่งศาลไทยจะพิจารณาว่า คดีที่ประเทศที่เกิดเหตุมีการพิจารณามาแล้วอย่างไร รับโทษมาแล้วอย่างไรบ้าง และก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม ว่าโทษที่ได้รับเพียงพอหรือยัง ซึ่งอาจจะลงโทษเพิ่มเติมบางส่วนหรือไม่ลงโทษเลยก็ได้



แต่หากผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ประเทศที่เกิดเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุเดินทางกลับมาก่อนแล้ว มาตรฐานในหลายประเทศจะคล้ายกัน คือหากตัวผู้ต้องหาไม่อยู่ก็ดำเนินคดีต่อไม่ได้ อาจต้องออกหมายจับ และดำเนินการติดตามตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับมา แต่หากเป็นเรื่องเล็กน้อยก็คงไม่ไปถึงขั้นนั้น



แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ