สังคม

เจ้าหนี้ถูกลูกหนี้รื้อบ้าน เหตุเพราะโมโหถูกทวงบ่อย

โดย onjira_n

25 พ.ย. 2565

307 views




กล้องวงจรปิดหน้าหอพักแห่งหนึ่งในซอยกรุงเทพกรีฑา 47 ของวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.13น. จับภาพรถกระบะสีขาว 2 คัน ขับเข้ามาจอดหน้าที่พัก ก่อนที่จะมีชายประมาณ4 คน ลงมาจากรถ โดย 2 ใน 4 ถือแท่งเหล็กในมือ จากนั้นก็เดินไปเอาเหล็กตีรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าอาคารของหอพักพังเสียหาย


เหตุการณ์นี้ ทางเพจสายไหมต้องรอด โพสต์พร้อมระบุว่า หลายครอบครัวกำลังประสบปัญหาเรื่อง เงินกู้ ครั้งที่ 1 บุกรุกบ้าน ทำร้ายทรัพย์สินและรถยนต์  ครั้งที่ 2 บุกเข้าหอพัก ทุบทำลายรถจักรยานยนต์   ครั้งที่ 3 ลักทรัพย์ บุกรุกรื้อบ้าน พร้อมระบุว่าท้องที่ สน.ประเวศ



ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายธนพล  อายุ 57 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ปมสาเหตุเกิดจากการที่ตนเอง มาขอเช่าที่ดินของหลานสะใภ้ภายในซอยกรุงเทพกรีฑา 47 อาศัยอยู่ เพื่อปลูกบ้านหลังเล็กๆ โดยตนจ่ายค่าเช่าตลอดชีพเป็นเงิน 2 หมื่นบาท แต่มีข้อแลกเปลี่ยนกันคือ ตนเองต้องให้หลานสะใภ้ยืมเงินจำนวน 2 แสนบาท โดยอ้างว่าไปใช้ซ่อมแซมบ้านที่ชำรุด ซึ่งตกลงว่าจะคืนเงินให้ภายใน 2 เดือน



ตนเองจึงให้ยืมไปตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2565 โดยเป็นการให้ยืมแบบไม่คิดดอกเบี้ยเนื่องจากในทางศาสนาอิสลาม ไม่สามารถคิดดอกเบี้ยได้



แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลานสะใภ้ไม่ได้เอาเงินไปซ่อมแซมบ้านตามที่บอกไว้ ลูกชาย คือ นายทรงยศ อายุ 33 ปี จึงพยามโทรไปทวงถามว่าจะคืนเงินเมื่อไหร่ แต่ก็ได้คำตอบว่า “จะคืน” แต่ก็ไม่เคยโอนคืนมาให้ ซึ่งยืนยันว่า เวลาโทรไปทวงถาม ไม่มีการข่มขู่ และเป็นการสอบถามดีๆ



แต่พอมีการทวงถามบ่อยมากขึ้น กลับกลายเป็นว่า หลานสะใภ้ให้น้องชายที่เป็นฝาแฝด 2 คน มาข่มขู่หาเรื่องพวกตน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้ง



ครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 น้องชายฝาแฝดของหลานสะใภ้ยกพวกมาทำลายบ้านที่อยู่อาศัย ทำให้กระจกแตก ผนังบ้านพังเสียหาย ข้าวของกระจัดกระจาย รวมถึงรถถูกเอาเหล็กฟาดจนกระจกแตก ทำให้ไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ และตัดสินใจย้ายออกจากบ้าน เพราะเกรงความไม่ปลอดภัย และไปอยู่หอพักในซอยกรุงเทพกรีฑา 14 แทน  แต่ก็ไม่วาย กลุ่มผู้ก่อเหตุยังตามมาราวี ยกพวกมา 4 คน มาถึงที่หอพัก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ตามคลิปวงจรปิดที่ปรากฎ ก่อนที่จะเอาไม้มาตีรถจักรยานยนต์ที่จอดหน้าหอพักพังเสียหาย


จากนั้นในวันเดียวกันจึงกลับไปที่บ้านเช่าของตัวเอง ในซอยกรุงเทพกรีฑา 47 พอไปถึงบ้าน ถึงกับตกใจ เพราะบ้านทั่งหลังที่สร้างไว้ บนที่ดินของหลานสะใภ้ ถูกรื้อออกไปเหลือแต่ตอ


นายธนพล บอกว่า ตนได้เงินจากคู่กรณีมา 5,000 บาท โดยทางคู่กรณีบอกว่า เป็นเงินที่ได้จากการเอาเศษเหล็กของบ้านที่ถูกรื้อไปขาย  ทำให้ตนตัดสินใจไปแจ้งความอีกรอบ แต่ปรากฏว่าผ่านมา 7 เดือน ตั้งแต่แจ้งความครั้งแรก คดีก็ไม่มีความคืบหน้า


ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เป็นเหตุการณ์ที่กลับกัน ปกติผู้เสียหายต้องเป็นลูกหนี้ แต่ครั้งนี้คือเจ้าหนี้ ที่ให้ยืมเงิน แถมไม่ได้คิดอกเบี้ย แต่กลับถูกบุกทำลาย ข่มขู่ เบื้องต้นประสานไปที่ผู้กำกับการ สน.ประเวศ เพื่อสอบถามความคืบหน้าทางคดี




คุณอาจสนใจ