ชายปริศนา ฉุด ด.ช.นั่งตักหวังทำอนาจาร พลเมืองดีเอะใจ ช่วยได้ทัน แม่ลั่นขอตบหน้าสักฉาด

วานนี้ (20 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลแชร์คลิป พนักงานบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่ง โพสต์คลิปเตือนภัย หลังขับรถจักรยานยนต์เข้าไปช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้จักกับน้อง ฉุดแขนไปนั่งตัก หวังกระทำการอนาจาร จนรอดออกมา พาส่งกลับบ้านหายายได้ทัน พร้อมข้อความระบุว่า “อุบาทว์มาก แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น แล้วถ้าไปช้ากว่านี้น้องจะโดนอะไรบ้างวะ? #เตือนภัยขอนแก่น”

ซึ่งภายหลังผู้โพสต์ ได้โพสต์คลิปลงในโลกโซเชียลก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมหาเบาะแสแฉประวัติชายรายดังกล่าวว่า เป็นชายไม่แท้ มีพฤติกรรมในการลวนลามชาวบ้าน เร่ร่อนไปเรื่อยหลายจังหวัด หลายอำเภอของขอนแก่น พร้อมระบุว่าเป็นคนชาวอำเภอกระนวนหรือไม่ก็น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ริมถนนสายบ้านหนองจิก หนองแวง ไป อ.พระยืน เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายโมง วันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา

ต่อมา เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับพลเมืองดีรายดังกล่าว และเป็นคนโพสต์คลิป คือ นายณัชนนท์ นามศรี (โนบิ) อายุ 24 ปี  

โดยนายโนบิ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งของให้ชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านหนองจิก อ.พระยืน จ.ขอนแก่น เมื่อส่งของเสร็จ จึงขี่รถมุ่งหน้ากลับบริษัท ซึ่งอยู่ในเขตพระยืน ก็พบรถจักรยานยนต์สีแดงดำ ที่มีข้าวของต่างๆ นานา ห้อยอยู่เต็มรถ คล้ายคนจะอพยพ จอดอยู่ข้างทาง ด้านหน้ารถจักรยานยนต์มีรถจักรยานไฟฟ้าจอดอยู่

และพบเด็กชายวัย 13 ขวบ นั่งอยู่บนตักของชายปริศนา และชายปริศนาก็ใช้มือโอบกอดเด็กชายจากทางด้านหลังเอาไว้ มองแล้วไม่น่าไว้ใจ และลักษณะไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้ชาย แต่น่าจะเป็นกะเทย จึงตัดสินใจเลี้ยวรถกลับ

จากนั้นก็ตัดสินใจถ่ายคลิปเอาไว้ และเมื่อจอดรถ จึงตะโกนถามชายปริศนาว่าทำอะไร ชายรายดังกล่าวตอบว่า เด็กมาซื้อรสดีให้ยาย แต่ด้วยความไม่น่าไว้ใจ จึงชวนเด็กชายกลับบ้าน เด็กชายจึงรีบลุกและวิ่งไปขี่จักรยานไฟฟ้ากลับบ้านทันที

นายโนบิ กล่าวอีกว่า ช่วงที่กำลังพาน้องกลับบ้าน จากการสอบถาม ทราบว่า ขณะที่น้องขี่รถไฟฟ้าจะไปซื้อก๋วยเตี๋ยวในร้านค้าแถวบ้าน ก็ถูกชายปริศนา ขี่รถจักรยานยนต์จี้ท้าย และเมื่อถึงทุ่งนาข้างทาง ก็บังคับให้จอด เมื่อจอดรถ ชายปริศนาจึงดึงน้องเข้าไปนั่งตัก และยังไม่มีการล่วงละเมิด หรือทำอนาจารกับน้องแต่อย่างใด จากนั้นก็ส่งตัวเด็กชายให้กับยาย

โดยยายบอกว่า หลานชายขอเงินไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแล้วก็หายไป ไม่คิดว่าจะถูกชายปริศนา ล่อลวงเอาไว้ ยายจึงโทรศัพท์แจ้งมารดาของเด็กชาย เพื่อจะเข้าแจ้งความให้ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมชายปริศนารายดังกล่าว มาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของเด็กชายรายดังกล่าว ในพื้นที่ อ.พระยืน จ.ขอนแก่น พบเด็กชายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งอาศัยอยู่กับบิดา มารดา และญาติพี่น้อง

โดย นางบี อายุ 44 ปี มารดาของเด็กชายเอ เปิดเผยกับว่า น้องเออาศัยอยู่ที่บ้านพักใน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น กับยาย และเรียนหนังสือในเมืองขอนแก่น ส่วนพ่อแม่อยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากนายโนบิว่า ได้ช่วยเหลือน้องเอจากชายปริศนา ลักษณะตุ้งติ้ง อายุประมาณ 35-40 ปี ที่ข้างทาง ริมถนนสายหนองจิกไปพระยืน แล้วพามาส่งที่บ้าน จึงทำให้รู้ว่าเกิดปัญหากับลูกชาย จึงบอกให้ยายไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และให้ยายไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.พระยืน

นางบี กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับน้องเอ ลูกชาย ทราบว่า ช่วงบ่ายได้ขี่รถจักรยานไฟฟ้าไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านอาหารตามสั่งริมถนนใหญ่ ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นการไปซื้อของกินตามปกติ แต่เมื่อถึงร้านขายอาหารพบว่าลูกค้ารอคิวจำนวนมาก น้องเอ จึงขี่รถไปซื้อน้ำปั่นที่ห่างออกไปอีก

และช่วงเวลาดังกล่าว ชายปริศนาได้ขี่รถจักรยานยนต์สีแดงเข้ามาประกบ พร้อมกับถามว่าจะไปไหน และบอกให้น้องเอจอดรถ น้องเอจึงจอดรถ แล้วชายคนดังกล่าวก็ถามถึงพ่อแม่ ถามว่าอยู่กับใคร ลักษณะเหมือนผู้ใหญ่จะถามทางจากเด็ก

ในขณะเดียวกันก็จอดรถ และบอกให้น้องเอจอดรถด้วย เมื่อจอดรถสนิทชายปริศนาก็ดึงแขนลูกชายไปนั่งตัก ลูกคลำไปทั่ว และเป็นจังหวะที่พลเมืองดีมาพบ และช่วยน้องเอออกมาได้

“ลูกชายบอกว่า พยายามจะลุกหนี ก็ถูกดึงแขนและดึงเข้าไปกอดเอาไว้ จนพลเมืองดีผ่านมาเห็นมาช่วยไว้ จึงปลอดภัย ทำให้คิดได้ว่าชายรายนี้ไม่ประสงค์ดีกับลูก และไม่รู้ว่าจะก่อเหตุกับใครอีก ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายตามมาหรือไม่ นี่โชคดีที่พลเมืองดีมาพบลูกจึงปลอดภัย”

นางบี กล่าวต่ออีกว่า เมื่อรู้รายละเอียดจากลูก ได้บอกตำรวจว่า ขอเจอผู้ก่อเหตุใกล้ๆ แล้วขอตบสักฉาด และยอมเสียค่าปรับตามกฎหมาย เพราะแค้นใจมาก ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งหลังตำรวจทราบรายละเอียดก็มีการตรวจสอบพบว่า ชายปริศนานั้นจริงๆเป็นกะเทย ที่มีที่อยู่ตามบัตรประชาชนเป็นชาว อ.กระนวน จ.ขอนแก่น แต่เร่ร่อนไปทั่ว ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้าน

จึงร้องขอให้ตำรวจตามตัวให้เจอ และสามารถเอาผิดในข้อหาใดได้ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และขณะนี้ ลูกชายขอร้องให้ไปพบครู อาจารย์ที่โรงเรียน เพื่อขอลาพัก หยุดเรียนเอาไว้ เพราะน้องเอกลัวว่า ถ้าไปเรียนหนังสือ กลัวครูอาจารย์ถาม และกลัวเพื่อนล้อเลียน จึงยังไม่อยากไปเรียน ซึ่งก็ต้องทำตามคำขอของลูก เพราะตอนนี้ จิตใจลูกแย่และกลัวมาก
-----------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WSINwj3JJ_w