สังคม

ผบ.ตร.พอใจภาพรวมดูแลเอเปค ย้ำหากตร.ผิด ทำร้ายสื่อ ต้องถูกลงโทษ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการทำงานคู่สื่อ

โดย kanyapak_w

20 พ.ย. 2565

49 views

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงปิดศูนย์กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมผู้นำเจตเศรษฐกิจเอเปค ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี บบลุวัตถุประสงค์ ความเรียบร้อยทางการจราจร โดยยังเหลือผู้นำเขตเศรษฐกิจพิเศษจำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ เขตเศรษฐกิจปาปัวนิวกินี เขตเศรษฐกิจจีนไทเป เขตเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และฮ่องกง คาดว่าจะเดินทางกลับทั้งนี้ ทางการร่วมยังคงต้องดูแลความรักษาทางการร่วม ยังคงต้องดูแลความเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง




ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการทุกภาคส่งจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น รายละเอียดในการรับแจ้งเหตุในการประชุมเอเปคปีนี้ มีการ รับแจ้งเหตุจาก 1599 22 สาย ส่วนมากเป็นเบาะแส วัตถุต้องสงสัย แต่มีการพิสูจน์ทราบแล้ว และมีจากสายด่วน 191 จำนวน 34 สาย รวมทั้งหมดเป็น 59 เรื่อง แบ่งเป็น ข้อเรียกร้องกต.สำนักนายก 4 เรื่อง ทิ้งถังดับเพลิง 14 จับกุมอาวุธมีด 4 ราย ปืน 1 ราย วัตุถุต้องสงสัย 8 ราย บุกรุกงานเลี้ยงรับรอง 4 ราย กลุ่ม ชุมนุม 13 กลุ่ม ถูกจับกุม 25 ราย จากการปะทะมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 14 พักรักษาที่โรงพยาบาล 1 ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 13 ราย นอกจากนี้ยังมีตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในการประชุมครั้งนี้เสียชีวิต 1 ราย




สาเหตุจากโรคประจำตัว ส่วนกำลังตำรวจที่ใช้ในการดูแลการประชุมเอเปคจำนวน 35,000 รถกระบะเสียหายและอุปกรณ์ ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 13 นาย ส่วนเส้นทางที่มีการปิดการจราจรตั้งแต่เอเปคได้เปิดการสัญจรตามปกติแล้วตั้งแต่เวลา 18.00 น. การดูแลความปลอดภัยการประชุมคราวนี้เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย โดยนายกรัฐมนตรีได้สัญญาณยกมือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความเรียบร้อยรอบศูนย์ประชุมฯ เช่นเดียวกับผู้นำเขตเศรษฐกิจ ก็ได้รับผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะผู้นำเขตเศรษฐกิจชิลี ที่มีการสอบถามเจ้าหน้าที่ไทย ว่าได้ใช้กำลังจากส่วนไหนบ้าง พร้อมกับชื่นชม อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานความมั่นคง และประชาชนได้ร่วมเป็นสายร่วมสังเกตการณ์และแจ้งเบาะแสอาชญากรรม รวมแล้วกว่า 400,000 คน



ขณะที่พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงกรณีความคืบหน้าการตรวจสอบ เหตุการณ์การชุมนุมที่ถนนดินสอ จนมีตำรวจ และสื่อมวลชนที่มีสังกัดได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบรูปภาพ ที่ปรากฏตามโซเชี่ยล หรือแม้แต่ที่ฝ่ายของตำรวจบันทึกเอาไว้ ซึ่งก็จะต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่า ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับผู้บาดเจ็บทุกคน และหากว่าผลการตรวจสอบ พบว่า ตำรวจปฏิบัติความรุนแรงจริงก็จะต้องมีบทลงโทษตามขั้นตอน



ส่วนการเยียวยา สื่อมวลชน ที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นไปตามมาตรการแต่ที่ผ่านมา เหตุการณ์การชุมนุมก่อนหน้าเคยมีกรณีที่สื่อมวลชนไปฟ้องร้องตำรวจในชั้นศาลมาแล้ว ตำรวจก็ยึดตามมาตรฐานหากมีผลชี้ขาดออกมาว่าผิดจริง ขณะเดียวกันการควบคุมสื่อ ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะสื่อมีจำนวนมากทำให้การดูแลและอำนวยความสะดวกไม่ทั่วถึง แต่หลังจากนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและดูแลรวมถึง จะหามาตรการระหว่างการทำงานของตำรวจกับสื่อให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะมีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ



โดยทางเจ้าหน้าที่อาจจะมีการส่งตำรวจมาดูแลและประสานงานกับสื่อหน้างาน ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ชุมนุม แต่อยากกำชับกับสื่อมวลชนทุกคนว่าแนวทางความปลอดภัยของการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งจะต้องสวมปลอกแขน แสดงสัญลักษณ์เป็นสื่อมวลชนที่ลงทะเบียนถูกต้อง




ขณะเดียวกันปัจจุบันมีสื่อโซเชียล ยูทูปเบอร์ก่อตั้งสำนักข่าวขึ้นมาเอง ซึ่งสื่อเหล่านี้ไม่ได้อยู่ใน สาระบบ และการรับแจ้ง ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบ แต่หลังจากนี้ จะหยิบเอาทุกปัญหามาหารือกับสมาคมผู้สื่อข่าว เพื่อให้การปฏิบัติงานครั้งต่อไปสื่อมวลชนจะมีความปลอดภัยมากขึ้น



ส่วนการนัดชุมนุมของกลุ่มทางการเมือง ในช่วงเย็นวันนี้ ตำรวจยังจะต้องจัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ยังต้องใช้เส้นทางและขอย้ำว่าการชุมนุมที่ไม่ได้ขออนุญาตถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินคดี ตาม พรบ.ชุมนุม พร้อมยอมรับว่าเป็นห่วงที่การประชุมเอเปคจะเป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มเคลื่อนไหวออกมาชุมนุม แต่ตำรวจก็พร้อมที่จะรักษาความเรียบร้อย ทุกกรณี





คุณอาจสนใจ

Related News