สั่งปิดโรงงานปูนขาวฝั่งพม่า ปล่อยแก๊สไฮโดรเจนไซยาไนด์ ชาวแม่สายถูกรมควันพิษ บางคนไอเป็นเลือด

โรงงานของทุนจีน ฝั่งพม่า ใช้ถ่านหินลิกไนต์ ปล่อยควันออกมา เผย ชาวแม่สายถูกรมควันพิษทั้งอำเภอ ชาวบ้านในพื้นที่บางคน ไอเป็นเลือด ผู้ว่าท่าขี้เหล็กสั่งปิดโรงงานปูนขาวแล้ว

กรณีปรากฏกลิ่นเหม็น คล้ายกลิ่นเผาลิกไนต์ ลอยคละคลุ้งในอากาศ ประกอบกับลมหนาว พัดเอากลิ่นเหม็นมาในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เนื่องด้วยพื้นที่ตั้งอยู่ใต้ลม โดยเฉพาะช่วงกลางคืนถึงรุ่งเช้า จะมีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง มากกว่าเวลากลางวัน

กลิ่นดังกล่าวนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชน หลายหมู่บ้านตามแนวชายแดนใน ตำบลเกาะช้าง , ตำบลแม่สาย และตำบลเวียงพางคำ บางส่วน ที่ชาวบ้านต้องประสบปัญหาสูดดมเอากลิ่นเหม็นมานานนับเดือน จนมีการร้องเรียนผ่านเทศบาลแม่สายมิตรภาพ และปกครองอำเภอแม่สาย เพื่อพิสูจน์กลิ่น พร้อมกับหน่วยงานสาธารณสุขอำเภอ

ล่าสุด จากการตรวจสอบของหน่วยงานความมั่นคงชายแดนไทย สืบหาแหล่งที่มาของกลิ่นเหม็น พบเป็นโรงงานเผาอิฐ และการเผาปูนขาว ของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีการใช้ถ่านหินลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิง ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านดอยสะโท่งบน-ล่าง อำเภอท่าขี้เหล็ก จังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา และอยู่ทางทิศเหนือ ห่างจากด่านศุลการพรมแดนแม่สายแห่งที่ 2 ทางตรงประมาณ 6 กิโลเมตร

นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย หลังรับเรื่องร้องเรียน ได้ลงพื้นที่ โดยบอกว่า กลิ่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตอนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของสาธารณสุขอำเภอ ,สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้น ขอให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สวมหน้ากากอนามัย ปิดหน้าต่างประตูให้สนิท เพื่อการสูดรับกลิ่นให้น้อยที่สุด และเตรียมพิจารณาเปิดศูนย์ฉุกเฉินทางสุขภาพ ( EOC ) เพื่อเป็นช่องทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ


พร้อมกันนี้ ได้เร่งประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดน ผ่านชุดประสานงานชายแดนพื้นที่ 1 คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา( TBC ) ในการขอความร่วมมือตรวจสอบเรื่องนี้

ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ,กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ,สาธารณสุขอำเภอแม่สาย ,หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 , เทศบาลแม่สายมิตรภาพ และผู้นำชุมชนในพื้นที่ ร่วมพิสูจน์กลิ่น บริเวณบ้านเหมืองแดง หมู่ที่ 1 , บ้านเวียงหอม หมู่ที่ 4 , บ้านสันทราย หมู่ที่ 11 เขตตำบลแม่สาย

ผลการตรวจพิสูจน์กลิ่นในเบื้องต้น พบว่า เป็นกลิ่นของสารไฮโตรเจนไซยาไนด์ (HCN) ผลการวัดค่าจากเครื่อง multi RAE ได้ 0.5 ppm จากค่าปกติ 0.58 ppm จะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ และผลการตรวจจากเครื่องวัดกลิ่น NASAL วัดค่าได้ 30 โมล จากปกติร่างกายจะรับกลิ่นได้ 4 โมล โดยในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2565 กรมอนามัย จะนำเครื่องตรวจวัดขนาดใหญ่มาดำเนินการตรวจวัดอีกครั้ง

ขณะที่สื่อ Shan East News Mandrel ฝั่งเมียนมา รายงานว่าชาวบ้านในท่าขี้เหล็ก ในพื้นที่ บ้านสะโท่งบน , บ้านสะโถ่งล่าง , บ้านเป็งว่า และบ้านผะตินบากง ชาวบ้านประสบปัญหาสูดดมกลิ่นเหม็นมานานนับเดือนแล้ว คนในครอบครัวมีอาการนอนไม่ได้ รู้สึกเวียนหัว อาเจียน (บางคนมีเลือดปนมาด้วย) มีการร้องเรียนในพื้นที่ และเข้าไปสอบถามกับโรงงานให้หยุดเผา ได้รับคำตอบจากเจ้าของโรงงานว่า ขอเผาจนกว่าถ่านหินลิกไนต์ที่นำมาเป็นวัตถุดิบหมดจึงจะหยุด ซึ่งเป็นเวลาผ่านมาหลายเดือนแล้ว ยังมีการเผาถ่านหินอย่างต่อเนื่อง


ด้านเพจ ‘Maesai Hospital’ ของ รพ.แม่สาย เผยแพร่ข้อความระบุว่า “การตรวจสอบ เหตุร้องเรียนกลิ่นไม่พึงประสงค์ในพื้นที่ ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ. เชียงราย

อำเภอแม่สาย,เครือข่ายบริการสุขภาพอำเภอแม่สายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมออกพื้นที่ตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในเขตพื้นที่ รับผิดชอบของเทศบาลตำบลแม่สายมิตรภาพ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 และสรุปผลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา


ผลการตรวจสอบ จากสำนักงานสิ่งแวดล้อม และควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่)  โดยเครื่อง พบสาร ไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide : HCN)

สารไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide : HCN)เป็นแก๊ส ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน (bitter almond) เกิดจากการทำปฏิกิริยาของ เกลือไซยาไนด์ (Cyanide salt) กับกรด หากได้รับกลิ่นแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะ มึนงง ง่วงซึม สามารถรับคำปรึกษาได้ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านหรือที่โรงพยาบาลแม่สาย

ข้อแนะนำในการป้องกันตนเอง

1. สวมหน้ากากอนามัย

2. งดเปิดหน้าต่างในเวลากลางคืนและช่วงที่มีกลิ่น

3. ใช้เครื่องกรองอากาศ ชนิดกรองสารเคมี ได้

โรงพยาบาลแม่สาย โทร 053-731300-1 ต่อ 0  และ สาธารณสุขอำเภอแม่สาย โทร 053-713503”

ขณะที่ชายแดนฝั่งไทย กรมอนามัย / สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ และหน่วยงานสาธารณะสุขในท้องที่ ร่วมติดตั้งเครื่อง EDM1025 (เครื่องวัดคุณภาพอากาศ ) บริเวณที่ตั้ง กองร้อยทหารม้าที่ 3 บ้านเวียงหอม หมู่ที่ 4 ตำบลแม่สาย เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ เป็นเวลา 15 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้าน ซึ่งเครื่องดังกล่าว สามารถตรวจวัดค่า PM10, PM2.5, ไนโตรเจน,ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ รวม 5 ชนิด

ขณะที่เทศบาลแม่สายมิตรภาพ ซึ่งมีหมู่บ้านส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็น ระหว่างนี้ได้นำหน้ากาก N95 ทำการแจกจ่าย เจ้าหน้าที่ และนำผ่าน อสม.เพื่อนำแจกชาวบ้านอย่างทั่วถึงต่อไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Maesaipress ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เจอแล้ว...! ปล่องควันตัวปัญหาส่งกลิ่นเหม็น  สร้างมลพิษทางอากาศทั่วแม่สาย ต้องมีมาตรการกดดันละครับแบบนี้

บริษัทอิฐลม 999 ของกลุ่มทุนจีนเข้ามาเช่าที่ บ้านดอยสะโท่งบน-ล่าง จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา ต้นตอเผาลิกไนต์เป็นเชื้อเพลิง ในโรงงานปูนขาว ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ทั้งในพื้นที่ฝั่งเมียนมาเอง และหลายหมู่บ้านชายแดน ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย  ชาวบ้านต้องสูดดมกลิ่นเหม็นนานนับเดือน จุดตั้งโรงงานผลิตปูนขาว ห่างจาก ด่านศุลกากรพรมแดนแม่สายแห่งที่ 2 ทางตรงไปทางทิศเหนือ ประมาณ 6 กม.

ขณะเดียวกันมีรายงานจากทางการ จ.ท่าขี้เหล็ก ว่าได้มีคำสั่งให้ปิดโรงงานทำปูนขาว ชื่อ "บ้านลมอิฐ 999" และใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหินลิกไนซ์ ตั้งอยู่บ้านสะโถ่งบน-ลาง จ.ท่าขี้เหล็ก ห่างจากชายแดน 6-8 กิโลเมตร แล้ว


โดยคำสั่งปิดดังกล่าว มีขึ้นหลังจากเกิดกลิ่นเหม็นมานานหลายเดือน ขณะที่โรงงานเปิดมาได้ประมาณ 6 เดือน และเมื่อเกิดปัญหากลิ่นเหม็นมายังฝั่งไทยทางคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทางทีบีซีฝ่ายเมียนมาได้รับทราบดังกล่าว

ทั้งนี้กลิ่นจากโรงงานยังส่งผลกระทบต่อชาวบ้านใน บ้านสะโถ่งบน บ้านสะโถ่งล่าง บ้านเป็งว่า บ้านผะตินบากง ฯลฯ ใน จ.ท่าขี้เหล็ก เช่นกัน และคาดว่าอาจเป็นสาเหตุเดียวกับที่ชาวบ้านฝั่งไทยได้รับผลกระทบ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/XObB98NdY10