พ่อเลี้ยงวัย 78 ปีแค้นทวงคืนสมบัติไม่สำเร็จ กระหน่ำยิงลูกชายดับ

จากกรณี นายทองย้อย อายุ 78 ปี พ่อเลี้ยงใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงใส่ นายมงคล อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงและเป็นนักกีฬายิงปืน ipsc ทีมชาติไทยเสียชีวิต ที่บ้านพัก ต.หนองพงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี สาเหตุมาจากพ่อเลี้ยงได้มีปัญหากับลูกเลี้ยง เรื่องที่จะขอทรัพย์สมบัติที่เคยยกให้คืน


โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 65 เวลา 07.00 น. โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณภายในบ้านได้จับเสียงทะเลาะระหว่างนายทองย้อย และ นายมงคล ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 4 นัด นายมงคลร้อง โอ้ย ๆ พ่อ ๆ ระหว่างนั้นแม่บ้านพูดว่าทำไมทำอย่างงี้ ก่อนที่คนในบ้านจะช่วยกันอุ้มนายมงคลออกมาจากจุดเกิดเหตุนำขึ้นรถเพื่อไปส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายนายมงคลก็เสียชีวิต


หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกัน และมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี และต่อมานายทองย้อย อายุ 78 ปีพ่อบุญธรรม และเป็นผู้ก่อเหตุได้มามอบตัวที่ สภ.พานทอง พร้อมอาวุธ โคลท ขนาด .45


จากนั้นทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายทองย้อยไปสอบสวนและทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที และได้ส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดชลบุรี ส่วนนายมงคล อายุ 46 ปี เป็นลูกบุญธรรมที่ถูกยิงจำนวน 4 นัด ขาซ้าย 2 นัด ทัอง 2 นัด แขนซ้าย1นัดทำให้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสและได้เสียชีวิตในเวลา 12.00 น.ของวันที่ 9 พ.ย.65


ต่อมานายทองย้อย อายุ 78 ปี พ่อบุญธรรม ได้มีการประกันตัวเมื่อวันที่ 10 พ.ย.65 ช่วงเวลา 13.00 น. และได้หลบไปพักบ้านญาติยังต่างจังหวัด


คืบหน้าล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ได้พบนายไพโรจน์ อายุ 40 ปี พี่ชายภรรยาผู้เสียชีวิตได้พาผู้สื่อข่าวไปชี้ยังจุดที่เกิดเหตุ เป็นห้องทำงานของผู้เสียชีวิต พบร่องรอยของลูกกระสุนปืนจำนวน 4 รูบริเวณฐานของหิ้งพระของผู้เสียชีวิต


จากการสอบถามนายไพโรจน์ ได้เปิดเผยว่าวันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้นั่งทำงานตรวจเอกสารที่จะจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่โต๊ะตามปกติ จากนั้นนายทองย้อย ผู้ก่อเหตุได้ถืออาวุธปืนมายืนที่ประตูข้างห้องทำงานที่สามารถเปิดหากันได้ และร้องบอกผู้เสียชีวิตว่า ไอ้ใช้ มึงตาย จากนั้นก็ลงมือกระหน่ำยิงนายมงคลผู้เสียชีวิต จำนวน 4 นัด


หลังจากที่ยิงเสร็จก็ได้เดินออกมานั่งหลบข้างรถยนต์ของตัวเอง ในตอนนั้นมีแม่บ้านเข้ามาเห็นคนเจ็บล้มฟุบลงใต้โต๊ะทำงาน และมีเลือดนองที่พื้น แม่บ้านจึงได้เรียกคนงานที่กำลังทำงานกันอยู่ว่านายมงคล ถูกยิงให้รีบเอารถมารับไปส่งโรงพยาบาล แล้วมีคนงานช่วยกันพยุงขึ้นรถพาไปโรงพยาบาลทันที


และหลังจากที่นายทองย้อย ผู้ก่อเหตุได้มีการรับการประกันตัว ทำให้ภรรยาของผู้เสียชีวิตรวมทั้งครอบครัวเกิดการหวาดกลัว เพราะนายทองย้อย ผู้ก่อเหตุเคยได้พูดเชิงข่มขู่กับทางผู้เสียชีวิตและภรรยาของผู้เสียชีวิตไว้ว่า ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็อย่าอยู่ร่วมโลกกันเลย ทำให้ทางภรรยาของผู้เสียชีวิตและครอบครัวก็เกิดหวากกลัวและไม่ปลอดภัยต่อชีวิตหวั่นจะมาก่อเหตุซ้ำ อีกทั้งคนก่อเหตุชอบกินเหล้าแล้วอาละวาดประจำ


ซึ่งผู้ตายเป็นนักกีฬายิงปืนฝีมือชั้นครูมีชื่อเสียงระดับประเทศ และมีดีกรีติดทีมชาติไทยอีกด้วย ส่วนปมเหตุนั้นเมื่อประมาณ 4 ปี ก่อนทางนายทองย้อย ผู้ก่อเหตุได้มอบทรัพย์สิน รวมทั้งกิจการให้นายมงคล ผู้เสียชีวิตเป็นคนดูแลจากนั้นนายทองย้อย ก็ได้แยกไปทำกิจการของตัวเอง ซึ่งอยู่ในเขตรั้วเดียวกัน


และเมื่อ 2 ปี หลังช่วงวิกฤติโควิดระบาดหนักนายทองย้อย ได้มาคุยและได้ทวงถามเรื่องทรัพย์สินที่เคยให้นายมงคล และขอคืนเพื่อจะมาทำเองทั้งหมด แต่นายมงคลได้กู้เงินมาลงทุนไปเยอะ และได้เป็นหนี้จึงยังไม่ได้คืนให้ เพราะต้องทำธุรกิจเพื่อเอาเงินใช้หนี้และคืนทุนก่อน แต่ทางนายทองย้อย ผู้ก่อเหตุไม่ยอม ตามทวงถามกันมาเรื่อย ๆ และยิ่งเวลานายทองย้อยได้กินเหล้าเมา ก็จะอาละวาดและหาเรื่องผู้เสียชีวิตและภรรยาตลอดมา


จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการกับนายทองย้อย ให้ถึงที่สุดอย่างตรงไปตรงมาและขอความยุติธรรมให้กับนายมงคล ผู้เสียชีวิตด้วย