สังคม

ผัวเก่ายิงหว่างขาผัวใหม่ อ้างปืนลั่น ไม่ได้ตั้งใจ

โดย nutda_t

11 พ.ย. 2565

274 views

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ร.ต.ท.ประพาส วิ-ประจง รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองชุมพร ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท โดยใช้อาวุธปืน ที่ซอยตันตรงข้ามสมาคมฮากก้า ถนนกรมหลวง ต.ท่าตะเภา อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม จ.ส.ต.อนุพงศ์ ขาวมรดก และส.ต.อ.สุภชัย พรพระสงค์ สายตรวจ 191



ในที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวปลูกติดกัน 35 ห้อง เจ้าหน้าที่พบกองเลือดภายในห้อง และปลอกกระสุนลูกซอง ตกอยู่ที่พื้นหน้าห้อง จำนวน 1 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทราบชื่อคือ นายสมชาย เป็นชาว สปป.ลาว ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายบุญเติม อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุได้ไปหลบอยู่ที่ห้อง ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงไปเคาะประตูเรียก ก่อนผู้ก่อเหตุเปิดประตูและไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว พร้อมนำไปเอาอาวุธปืนลูกซองสั้น จำนวน 1 กระบอก ภายในรังเพลิงบรรจุกระสุนพร้อมใช้อีก 1 นัด ซึ่งนำไปเก็บแอบไว้ในที่ชั้นเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานและนำตัวมาสอบปากคำ ที่ สภ.เมืองชุมพร และได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรอยนิ้วและเขม่าดินปืน



จากการสอบสวน ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ตนพื้นเพอยู่ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย และได้มาอาศัยทำมาหากินโดยขายลอตเตอรีอยู่ที่ จ.ชุมพร มาหลายปีแล้ว และมาเช่าห้องแถวดังกล่าว โดยมีเพื่อนๆ ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน จาก จ.เลย กว่า 30 คน ซึ่งยึดอาชีพขายลอตเตอรีเช่นเดียวกัน ตนเช่าอยู่กับแฟน ซึ่งเป็นคนใหม่ที่เพิ่งคบได้กันไม่นาน ส่วนแฟนเก่า คือ น.ส.อุบลรัตน์ อายุ 32 ปี ซึ่งเลิกรากันไปกว่า 6 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน ได้มาขายลอตเตอรีด้วยที่ จ.ชุมพร



นายบุญเติม ให้การต่อว่า นางสาวอุบลรัตน์ อดีตภรรยา ก็ได้มาขายลอตเตอรี่เช่นกัน โดยเช่าห้องอยู่กับสามีใหม่ ห้องเช่าเลขที่ 87/26 ห่างจากห้องตนเองไป และสามีใหม่ของอดีตภรรยา เพิ่งมาขายได้เพียง 2-3 งวด โดยวันเกิดเหตุ ตนเองเพิ่งกลับมาจากไปเร่ขายลอตเตอรี่ ตามสถานที่ต่างๆจนเย็น จึงเดินทางกลับมาที่ห้องพัก และได้นั่งดื่มเหล้าอยู่แฟนภายในห้อง ก่อนจะลุกขึ้นไปเอาอาวุธปืน ซึ่งซื้อมาจากเพื่อนมาได้ประมาณ 1 ปี ออกมาจากชั้นเก็บเสื้อผ้า เพื่อจะเอาไปเก็บไว้ที่รถยนต์



นายบุญเติม ยังให้การอ้างว่า ขณะที่เดินถืออาวุธปืนมา และได้ผ่านห้องของอดีตภรรยา ตนจึงได้แวะซักถาม แต่บังเอิญนิ้วเกิดไปเหนี่ยวไกปืนที่อยู่ในมือ จึงทำให้ปืนเกิดลั่น และกระสุนพุ่งไปโดนเข้าที่บริเวณหว่างขาของนายสมชาย ด้วยความตกใจเพราะไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ตนเองเดินกึ่งวิ่งมาที่ห้อง แล้วนำปืนไว้เก็บซ่อนไว้ที่ชั้นเสื้อผ้าเช่นเดิม และปิดประตูห้อง จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเคาะประตู ซึ่งตนเองได้เปิดและยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนเป็นตน และยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายสมชาย จริง แต่ไม่ได้ตั้งใจ



เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาแก่ นายบุญเติม ว่าพยายามฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย



ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พบกับ น.ส.อุบลรัตน์ อดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ ยืนร่ำไห้อยู่หน้าห้องเช่า โดยมีบรรดาเพื่อนๆร่วมอาชีพขายลอตเตอรี ต่างจับกลุ่มพูดคุยให้กำลังใจ



จากการสอบถาม น.ส.อุบลรัตน์ เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ตนได้แยกทางกับนายบุญเติม กว่า 7 ปี ตนก็ได้สามีใหม่คือนายสมชาย และเราทั้งสองได้มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นหญิง อายุ 6 ปี โดยลูกได้ให้ญาติเลี้ยงอยู่ที่ จ.เลย และตนกับสามีใหม่ ได้มาขายลอตเตอรีอยู่ที่ จ.ชุมพร และเช่าห้องอยู่ใกล้กับ นายบุญเติม อดีตสามี โดยที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วงระยะหลัง นายบุญเติม มีภรรยาใหม่ ซึ่งอยู่ด้วยกันไม่นาน อดีตสามี มักจะระแวงและหึงหวงไปหมด ยิ่งกับ นายสมชาย สามีตนเอง ที่เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน ยิ่งมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปมาก



ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามี เพิ่งกลับจากไปขายลอตเตอรีด้วยกันที่ปากน้ำชุมพร และเมื่อกลับมาถึง สามีได้เปิดประตูห้องเข้าไปก่อน ส่วนตนเองยังเก็บของอยู่หน้าห้อง และไม่นานก็ได้ยินเสียง นายบุญเติม ถามตนว่า มันอยู่ไหน ซึ่งตนได้เงยหน้าแต่ยังไม่พูดอะไร ก็เห็นนายบุญเติม เดินเข้าไปที่ตรงประตูห้อง และก็ได้ยินเสียงปืนขึ้น 1 นัด พร้อมเสียงโหยหวนของนายสมชาย ดังลั่นออกมา จึงรู้แล้วว่านายบุญเติม ยิงสามีแล้ว


หลังตั้งสติได้ ตนจึงวิ่งเข้าไปพร้อมปิดห้อง เพราะเกรงและเชื่อว่า นายบุญเติม ต้องยิงตนเองด้วยแน่ จนกระทั่งเพื่อนๆมาเคาะประตู พบว่าสามีถูกยิงบริเวณหว่างขาที่โชกไปด้วยเลือด จึงนำขึ้นรถยนต์พาส่ง รพ.ชุมพรฯ และแพทย์ได้แจ้งว่ากระสุนเข้าบริเวณพวงสวรรค์ของนายสมชาย จนไม่สามารถใช้การได้แล้ว ทำให้ตนตกใจอย่างมาก แต่ขอให้นายสมชาย มีชีวิตก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นจึงไม่สำคัญกับคำว่าครอบครัว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ