สังคม

ระทึก ไฟไหม้ศาลาวัดฉะเชิงเทรา ลามถึงโลงศพ ลูกร้องระงม อยากได้รูปแม่ตั้งหน้าศพ

โดย nattachat_c

9 พ.ย. 2565

1.2K views

วานนี้ (8 พ.ย. 65) เวลา 23.30 น. พ.ต.ท.วิชาญ พวงทอง รองสว.(สอบสวน) สภ.พนมสารคาม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ วัดดอนทอง หมู่ที่ 2 ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา


หลังจากรับแจ้ง จึงรายงานให้นางปิณฑิรา เก่งการพานิช นายอำเภอพนมสารคาม และ พ.ต.อ.สมชาย เมืองใย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร รับทราบ ก่อนประสานรถน้ำดับเพลิงเทศบาลตำบลท่าถ่าน และรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 20 คัน พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยพนม เข้าร่วมควบคุมเพลิง


ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นศาลาการเปรียญไม้ 2 ชั้น มีใต้ถุน อายุ 50 ปี เพลิงกำลังลุกไหม้เห็นเปลวเพลิงที่โหมอย่างรุนแรง เพราะมีเชื้อเพลิงเป็นไม้ทั้งหลัง ก่อนเกิดเหตุยังมีพระครูใบฎีกาประทิว ยสปาโร อายุ 70 ปี เจ้าอาวาส และพระลูกวัดได้จำพรรษาอยู่บนศาลาดังกล่าวด้วย


เมื่อเกิดเหตุ ต่างแตกตื่นช่วยกันขนข้าวขอออกมาได้บ้างส่วน ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องกระจายกันรอบศาลา ระดมกันฉีดน้ำไม่ให้ลุกลามไปติดยังกุฏิพระที่อยู่บริเวณใกล้เคียง


ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะเจ้าที่หน้าระดมกันฉีดน้ำอยู่นั้น ก็ต้องผงะ เมื่อทราบตอนหลังว่า ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ มีศพผู้เสียชีวิตอยู่ในโลงเย็น ตั้งบำเพ็ญกุศลมา 2 คืน อยู่บนศาลาด้วย


เพลิงที่ไหม้ศาลา ได้ลุกลามไหม้โลงเย็นที่มีศพคนตาย ก่อนพังคลืนค้างเติ่งระหว่างคานศาลากับพื้นด้านล่าง หลังจากคุมเพลิงได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าไปกู้ร่างศพออกจากโลงเย็นมาใส่โลงใหม่ แล้วนำไปตั้งสวดต่อที่ศาลาของวัดอีกหลัง


ทั้งนี้ ดร.กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกอบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย สจ.พีระ ตั้งชูทวีทรัพย์ พอทราบข่าวขณะลงพื้นที่ ก็รุดมาให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ด้วย


นายศิวะพงษ์ วงค์ษา อายุ 17 ปี เล่าว่า ตนเองได้มาเฝ้าศพ ซึ่งคนตายเป็นยายของตน ระหว่างที่ตนขนที่นอนเพื่อมานอนเฝ้าศพอยู่นั้น ตนก็เห็นแสงเพลิงได้ลุกไหม้มาจากทางด้านห้องเก็บของ บนศาลาการเปรียญหลังเกิดเหตุ ก่อนที่จะลุกไหม้ลามด้านบนฝ้าอย่างรวดเร็วไม่ถึง 10 นาที มาถึงตรงที่ตั้งโลงศพ


ตนเองจึงรีบหาน้ำดับไฟ ก่อนจะมีพระลูกวัดช่วยกันนำถังดับเพลิงมาดับไฟ แต่ก็ไม่สามารถดับได้ เพราะศาลาเป็นไม้ ทุกคนจึงรีบหนี ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยกันดับ


ด้าน พ.ต.อ.สมชาย เมืองใย ผกก.สภ.พนมสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเรียกผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
-------------

คุณอาจสนใจ

Related News