ผวาทั้งหมู่บ้าน ชายคลั่งควงปืนทุบรถ ถูกจับขังแค่ 1 เดือน พบก่อเหตุซ้ำซาก จนแห่ย้ายบ้านหนี

เพื่อนบ้านสุดผวา ชายคลั่งอาละวาด ใช้ปืนปลอมบุกทุบกระจกรถยนต์ จนเสียหาย สุดท้ายตำรวจจับได้ ศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน แต่ชาวบ้านยังหวาดกลัว หากพ้นโทษอยากให้ญาติรับตัวไปอยู่ที่อื่น ที่ผ่านมาก่อเหตุโวยวาย ด่าทอ คุกคาม อยู่กันอย่างหวาดวิตกมาเป็นปี จนอยากขายบ้าน ย้ายหนีไปที่อื่น

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิป พร้อมระบุข้อความว่า “ชายข้างในหมู่บ้านครับ พฤติกรรมชอบหาเรื่องคนอื่น ล่าสุดควงปืนทบรถ คนในหมู่บ้านผวา อยู่กันจะไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านต้องย้ายออกหลายหลัง เนื่องจากถูกดักทำร้าย แต่ผู้ชายคนนี้ถูกตำรวจจับไปวันสองวัน เขาก็ปล่อยออกมาก่อเหตุบ่อยครั้ง พิกัดบ้านกล้วยไทรน้อย บางบัวทอง นนทบุรี” โดยเหตุเกิด วันที่ 9 ต.ค. 65 

โดยภาพกล้องวงจรปิด บันทึกภาพขณะที่ชายคนดังกล่าว ที่มีเลือดเปื้อนอยู่เต็มตัว กระโดดขึ้นไปบนหน้ารถ แล้วใช้สันปืนกระแทกจนกระจกหน้ารถจนแตก ก่อนที่จะเอามือล้วงเข้าไปหยิบของในรถ แล้วหยิบของออกมาขว้างปา หลังจากนั้นเจ้าของรถได้ออกมาไล่ ชายคนดังกล่าวจึงกระโดดหลบหนีไป

ล่าสุด วานนี้ (11 ต.ค. 65) เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่่บริเวณ พบนายอู๋ ไกรฤกษ์ อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของบ้าน และเจ้าของรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ที่ถูกนายจิรศักดิ์ ขาวสุด อายุ 31 ปี อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งห่างกันประมาณ 5 หลัง คลุ้มคลั่งกระโดดขึ้นไปบนรถ ใช้ด้ามปืนทุบกระจกหน้ารถได้รับความเสียหาย ก่อนจะโยนปืนทิ้งเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย และหยิบเซ็นเซอร์รถปาขึ้นบนหลังคาบ้าน

นายอู๋ กล่าวว่า วันที่ 9 ต.ค. เวลาประมาณ 07.30 น. ตนนอนอยู่ แล้วได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เลยเดินมาดูเ ห็นผู้ก่อเหตุกำลังทุบรถตน ตนไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีเหตุผล ไม่รู้จัก ไม่เคยมีเรื่องอะไรกับเขา หลังจากนั้นตนมาดูที่รถ จึงบอกให้ภรรยาเรียกตำรวจ เขาก็วิ่งหนีไปหลบใต้รถเขา ทางตำรวจได้ทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไป พอวันจันทร์ส่งฟ้องศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน ส่วนค่าเสียหายยังไม่มีการพูดถึง

ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ประมาณ 6 เดือน เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ตนนั่งอยู่ที่บ้าน และเขามาตะโกนด่าตนหน้าบ้าน หาว่าตนไปมองหน้าเขา ซึ่งตนไม่รู้จัก และไม่เคยไปมองหน้า ตนเชื่อว่าทุกท่านในหมู่บ้าน ในซอย เดือดร้อนกับบุคคลคนนี้มากเหมือนกับตน ทุกคนต้องอยู่อย่างหวาดกลัว อยู่กันอย่างหวาดวิตกมาเป็นปีๆ ตนเพิ่งย้ายมาอยู่ก็หวาดวิตกไปด้วย

ตนลองดูในข่าวพบว่า เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เขาได้ก่อเหตุจับลูกวัย 10 เดือน เป็นตัวประกัน และตำรวจมากันเยอะเลย มีการซ้อมภรรยาด้วย ตนเพิ่งย้ายมาไม่ค่อยทราบ แต่ดูจากข่าว

ด้าน น.ส.ธนาภา อ่อนมิ่ง อายุ 39 ปี เล่าว่า ตนทราบว่าเขาอยู่กับครอบครัว แต่ไม่ทราบว่าเขาเป็นคนยังไง เพราะไม่ได้ใส่ใจ แต่ที่พอทราบและมีเหตุการณ์ที่หนักคือเขาจับลูกกับภรรยาเป็นตัวประกัน ประมาณปี 55-56 ซึ่งพอเจอเคสนั้น ตนรู้สึกผู้ชายคนนี้ไม่ปลอดภัย ตอนที่เขาจับลูกกับภรรยาเป็นตัวประกัน เหมือนเขาเสพยาแล้วหลอน และในหมู่บ้านเราตั้งแต่มาอยู่ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้

เคสนี้ไม่ใช่เคสแรก ก่อนหน้านี้เขาจะถือมีดเดินเข้าไปในบ้านคนอื่น ซึ่งบ้านใครไม่ล็อกก็จะซวย เขาเดินเข้าไปทุกบ้าน มีบ้านหนึ่ง เขาเดินถือมีดเข้าไป และไปทำลายข้าวของเขา จนบ้านหลังนั้นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น

คนในหมู่บ้านก็จะขายบ้านหนีกันไปหมดแล้ว เพราะเขากลัวกัน เดินไปก็บ้วนน้ำลายใส่หน้าบ้านคนอื่นไป ซ้ำด่าทอคนอื่น เรื่องพวกนี้เกิดมานานแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ทุกคนไม่กล้าที่จะพูด เพราะเขาเคยบอกแล้วว่า ถ้าเขาออกมาได้ทุกคนจะเดือดร้อน เขาไม่ปล่อย

ตนก็มองว่ามันไม่ปลอดภัย ใครจะมาช่วยเรา ถ้าป่วยก็ให้ญาติพาไปรักษาไปอยู่ในที่ควรจะอยู่ ไม่ใช่ให้มาอยู่ใช้ชีวิตปกติกับคนอื่น และวันนึงถ้าเขาคลั่งขึ้นมา เราจะไปเรียกร้องจากใคร ถ้าเกิดเหตุไปแล้วจะมาวัวหายล้อมคอกไม่ใช่ ไม่มีอะไรมารับผิดชอบชีวิตเราได้เลย ต้องระวังตัวเอง ใครจะช่วยเราได้บ้าง จับไปก็ปล่อยมาอีก แล้วเมื่อออกมา เราจะมั่นใจได้ยังไง บางทีขี่รถสวนกันยังกลัวเลย ทำตัวอย่างกับเป็นเจ้าถนน

เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุได้ถูกสายตรวจจับไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ ศาลตัดสินให้จำคุก 1 เดือน ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนปลอม จากการตรวจสอบประวัติ คนร้ายเคยก่อเหตุจับลูกเป็นตัวประกันเมื่อหลายปีก่อน
-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/24I-qlMBjWc