“ไบร์ท วชิรวิชญ์” เปิดปากให้สัมภาษณ์ ข้อเท็จจริงกรณี Forex -3D

 “ไบร์ท วชิรวิชญ์” ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง ONE ถึงประเด็นที่ตนมีความเกี่ยวพันกับประเด็น Forex -3D


โดยไบร์ท เล่าถึงจุดเริ่มต้น ที่รู้จักกับ “อภิรักษ์ โกฎธิ” ซีอีโอ “Forex 3D”  ว่า 

ตอนอายุ 15 ปี รู้จักกับ “นิคโก้”  ทำรายการด้วยกัน บางวันที่ต้องกลับบ้านดึกที่ จ.นครปฐม ก็เลยขอไปนอนบ้านพี่นิคโก้ ซึ่ง พี่นิคโก้อาศัยอยู่กับ พี่รักษ์ (อภิรักษ์) ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้รู้จักกันครับ

กรณีคลิปร้องเพลงเล่นกีต้าร์ร่วมกัน เป็น คลิปร้องเพลงร่วมกันนั้นคือวันแรกที่ได้เจอกันเลยครับ ไปนอนบ้านพี่นิค วันแรก ก็ชวนร้องเพลงกันอัดคลิปเลยครับ

เมื่อถามถึง ความสัมพันธ์กับ “อภิรักษ์” ณ วันนี้

ไบร์ทระบุว่า ผมไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้เจอกันหลายปีมากๆ เลยครับ ตั้งแต่มีเรื่องนี้ขึ้นมาเขาก็หายจากวงสังคมเพื่อนๆ ติดต่อไม่ได้เลยครับ

ส่วนจุดเริ่มต้นการลงทุน FOREX 3D นั้น  มาจากตอนนั้นทุกคนรอบตัวผม ก็ลงทุนตรงนี้ ผมก็เห็นเป็นปีๆ ว่ามันได้ เราก็รู้สึกว่ามันน่าจะโอเค น่าจะเชื่อถือได้ เงินก้อนแรกที่ผมเอามาลงทุน ผมขอแม่มา 5 หมื่นบาท ในวันแรกมันได้จริงๆ ได้มาเรื่อยๆ  งานทุกชิ้นที่ผมทำ รายได้ต่างๆ ผมก็พยายามจะเก็บและลงกลับคืนไปหมด เพราะในตอนนั้นผมรู้สึกว่านี่แหละคือการลงทุน คิดว่าคือการออมเพื่ออนาคตด้วยซ้ำ ตอนนั้นผมเชื่อมากถึงขนาดบอกแม่ เอาเงินประกันมาลงเลย ผมเชื่อในเบอร์นั้นเลยครับ ผมเรียกว่าเงินนั้นเป็นเงินทั้งชีวิตของครอบครัวผมเลยแล้วกัน นั่นคือเงินก้อนใหญ่ที่บ้านผมมี และเราก็เสียไปกับตรงนั้นทั้งหมด เป็นเงิน 775,000 บาทครับ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตอน Forex 3D เริ่มมีปัญหาแรก ตอนนั้นได้ติดต่อ “อภิรักษ์” ไหม?

ไบร์ทกล่าวว่า แรกๆ ยังติดต่อเขาได้ แต่เขาก็จะพูดให้เรามั่นใจตลอดว่ามันยังอยู่ในกระบวนการนะ เขาจะมีเหตุผลของเขา เราก็เชื่อสนิทใจ เพราะเขาคือพี่ที่เรารู้จักตั้งแต่เด็กอายุ 15-16 เหมือนเราอยู่ใกล้ เรายิ่งไม่เห็นความจริง  

ถ้าถามว่าตอนนั้นรู้ตัวหรือยังว่าตัวเองโดนหลอก  ผมน่าจะรู้ช้ามากๆ ครับ ด้วยความที่เราอยู่ใกล้ คนอื่นมองเข้ามาอาจจะเห็นภาพรวมความจริงว่ามันคือการหลอกหลวง คือการฉ้อโกง แต่สำหรับผม เราแค่รู้สึกว่าเขาน่าจะมีปัญหาและจัดการได้กว่าผมจะรู้จริงๆ คือผมว่าคนอื่นน่าจะรู้กันหมดแล้ว คือเราเห็นนะ แต่เราไม่เชื่อ

สำหรับบทเรียนครั้งนี้ มันคือความโลภครับ ผมรู้สึกว่าวันนั้นมันคือความโลภที่มันบังตา ถ้ามองดีๆ เราจะเห็นว่าไม่มีอะไรที่จะลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนเร็วขนาดนั้น

เมื่อถามต่อว่า มีลูกข่ายที่มาจากการชักชวนของไบร์ทหรือไม่ ? ไบร์ทตอบว่า ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องภายในเลยครับ ถ้าเอาจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมก็คือเหยื่อที่มาลงกับเขาตรงนี้ ถามว่าชักชวนใครไหม มันไม่ได้มีการชักชวนเกิดขึ้นเลย คนที่มาเล่นส่วนใหญ่ก็เป็นคนใกล้ตัวผม เป็นคนที่ผมรักทั้งนั้นก็คือ แม่ เพื่อนสนิท และถ้าผมทราบว่ามันคือการฉ้อโกง ถ้าผมรู้ว่ามันคือการหลอกลวงผมไม่มีทางปล่อยให้คนที่ผมรัก แม่ มาเสียหายตรงนี้ด้วย อย่างตัวผมเองถ้าผมรู้ผมก็คงเอาเงินออกมาหมดแล้ว ไม่มาทิ้งไว้จนเงินทั้งครอบครัวผมจะเสียหายอย่างนี้

ส่วนทำไมวันนั้นไม่ตัดสินใจฟ้องร้องหรือแจ้งความ  วันนั้นมันคือการตัดสินใจของเราเอง มันคือการพลาด ไม่ได้อยากจะไปกล่าวโทษใครเลย คือไม่ได้มีใครชักชวนคือเราเห็นเขาทำแล้วมันได้ คือเราก็พุ่งไปเอง ไม่ได้อยากกล่าวโทษใคร แต่ ณ วันนี้ ผมพูดเลยว่าถ้าเกิดว่าทางเจ้าหน้าที่ DSI จะให้ผมให้ข้อมูล ไปเป็นพยาน ผมพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เลยครับติดต่อมาได้เลยครับ


ยอมรับว่าตั้งแต่มีข่าวไม่สบายใจเลยครับ ความเครียดมันไม่ได้ตกอยู่ที่ผมแค่คนรอบตัวหรือแม่ คือเรารู้สึกว่า ณ วันนั้นเราเครียดกับผลกระทบที่มันเกิดขึ้น พอวันนี้มีข่าวอีกก็หนักมาก ก็ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณคนที่เชื่อใจ ขอบคุณแฟนๆ ที่เชื่อมั่นในตัวผม อยากจะขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดกับตัวผม อยากจะให้เป็นบทเรียนกับทุกๆ คนเลย ไม่อยากให้ใครต้องมาถูกหลอก ไม่อยากให้ใครจะต้องมาเสียหายกับเรื่องแบบนี้ ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนครับ