สังคม

กรมอุตุฯ แถลง ฉ.24 ‘พายุโนรู’ อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ทั่วไทยยังมีฝนตกหนัก

โดย petchpawee_k

30 ก.ย. 2565

508 views

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุโนรู” ฉบับที่ 24 ศูนย์กลางอยู่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็ว 10 กม./ชม.


เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันนี้ (29 ก.ย. 65) พายุดีเปรสชัน “โนรู” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง

ส่งผลทำให้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มต่อไปอีก 1 วัน


ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย


ต่อมา เวลา 19.45 น. ว่าที่ ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดี ฝ่ายวิชาการ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ไลฟ์สดแถลงสถานการณ์พายุโนรู ระบุว่า ขณะนี้ 17.00 น.พายุโนรูได้เปลี่ยนตัวเองเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้วได้เคลื่อนตัวจากอำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ไปยังอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิแล้ว ซึ่งได้อ่อนกำลังลงหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ในเวลา 19.00 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไปยัง จ.เพชรบูรณ์ ขณะที่การเคลื่อนที่เข้าไปยัง เพชรบูรณ์ นั้นจะลดระดับความรุนแรงลงไปอีกก่อนที่จะเคลื่อนไปยังพิษณุโลก


ขณะที่วันนี้ 30 ก.ย. 65 ผลกระทบของฝนจะมีมากในพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์  ภาคกลาง   จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด    ภาคใต้ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่


โดยสภาพอากาศในช่วงนี้ในพื้นที่ภาคกลางต้องเฝ้าระวังเรื่องน้ำเพราะฝนที่ตกลงมาเป็นการเติมน้ำในพื้นที่ที่มีมากอยู่แล้วอาจจะทำให้น้ำล้นตลิ่งในหลายจังหวัดโดยเฉพาะ ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำท่าจีน โดยสถานการณ์ฝนจะดีขึ้นประมาณช่วงวันที่ 3-4 ตุลาคมนี้ ถึงแม้ว่าพายุจะออกไปแล้วประเทศไทยก็ยังได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมอยู่


 ขณะที่สถานการณ์ปริมาณน้ำฝนสะสม 24 ชม. นั้นดีขึ้นจากเมื่อวาน ซึ่งมี 6 พื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมเกิน 100 มม. ได้แก่

ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว 145 มม.

ต.เมืองคง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ 142 มม.

ต.ท่าช้าง อ.สว่างวระวงศ์ จ.อุบลราชธานี 138.7 มม.

ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก103.6 มม.

ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี 103.5 มม.


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ :  https://youtu.be/80ct8hT9nlw

คุณอาจสนใจ