โอละพ่อ! สาวแคดดี้ขโมยผงปรุงรส อ้างหาเงินซื้อข้าวให้ลูก ที่แท้กุเรื่อง ปู่แฉโกหก เด็กไม่ใช่ลูก-ถูกเลี้ยงดูอย่างดี

โอละพ่อ สาวแคตดี้ตกงาน ขโมยผงชูรสไปขาย อ้าง หาเงินซื้อข้าวให้ลูกกิน ที่แท้กุเรื่อง ปู่ที่ดูแลลูก แฉ เด็กทั้งหมดไม่ใช่ลูกของแคตดี้ เป็นลูกของอดีตลูกสะใภ้ ยืนยันมีอาหารกินปกติ  ไม่รู้เหตุผลโกหกเพื่ออะไร

จากกรณีที่ นางสาวมาริสา หรือ ฝน อดีตแคตดี้ ที่ไปก่อเหตุ ขโมยผลปรุงรส 3 ซอง , ผงชูรส 2 ซอง , ขนมช็อคโกแล็ต 1 กล่องรวม มูลค่า 300 บาท ซุกไว้ในกระเป๋า ภายในห้างสะดวกซื้อ ย่านสี่แยกวัดพระญาติ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พนักงานร้านสะดวกซื้อ ได้ควบคุมตัวไว้ได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา

 ขณะที่ควบคุมตัว นางสาวฝน ก็ร้องไห้ และพนมมือขอโทษ ยอมรับผิดสิ่งที่ทำขึ้น บอกว่าที่ทำไป เพราะไม่มีเงินซื้ออาหารให้ลูก ตนเองทำงานแคตดี้ ไม่ได้ไปทำงานเพราะไม่มีลูกค้า เหลือเงินติดตัว 80 บาท ไม่พอซื้ออาหารให้ลูกกิน  เนื่องจากทนเห็นลูกทั้ง 3 คน กินไข่ต้ม 3 วัน 9 มื้อติดต่อกันไม่ไหว จากนั้นก็ร้องไห้โฮและยังบอกว่า ชีวิตเธอและลูกถึงทางตันไม่รู้จะหันไปทางไหน เพราะสามีก็ไม่ทำงาน และยังติดบุหรี่ เวลาไม่มีเงินซื้อบุหรี่ก็หงุดหวิดมีอารมร์รุนแรงบางครั้งก็ทำร้ายร่างกายตนเอง จนต้องตัดสินใจก่อเหตุเพื่อความอยู่รอด

หลังจากที่นำเสนอข่าวไป สังคมก็เกิดการวิพากวิจารร์จำนวนมาก โดยเฉพาะสงสารที่ต้องมาขโมยของเพื่อไปซื้ออาหารให้ลูกกิน

วานนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถาม ทางด้านคดีกับ พันตำรวจโท วีรวุฒิ มีไล้ รองผกก.สภ เมืองพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นางสาวน้ำฝน ยืนยันว่าที่ก่อเหตุเพราะต้องการเงินไปซื้ออาหารให้ลูกกิน แต่จากพฤติกรรมก็มีความสงสัยว่าเหตุใดจึงขโมยผงชูรสและผงปรุงรส ทำไมจึงไม่ขโมย อาหาร หรือของแห้งที่กินได้ นางสาวน้ำฝนบอกว่าที่ขโมยผงชูรสและผงปรุงรสเพื่อนำไปขายต่อ และได้เงินสดไปซื้ออาหารให้ลูกๆทั้ง 3 คน เพราะไม่มีเงิน ไม่มีงาน แต่จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านางสาวน้ำฝน เคยก่อเหตุขโมยนมผง ของห้างเดียวกันแต่คนละสาขามาแล้ว 1 ครั้ง แต่ตอนนั้นพนักงานจับไม่ได้

ซึ่งตำรวจมีความสงสัยว่าการที่ขโมยของนี้ ทำเพื่อหาเงินไปซื้ออาหารตามคำกล่าวอ้างหรือไม่ โดยมูลค่าสิ่งของที่ขโมยมา มีราคาประมาณไม่เกิน 300 บาท ตามกฎหมายสามารถ ไกล่เกลี่ยระหว่างผู้เสียหายกับผู้ก่อเหตุได้ แต่ทางผู้เสียหายไม่ยินยอมเจรจาตามกฎของบริษัท พนักงานสอบสวนจึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย


ทั้งนี้ทีมข่าว ได้สอบถามข้อมูลจากนางสาวน้ำฝน เจ้าตัวยอมรับว่า ตนเองไม่มีงานทำ ทำให้ไม่มีเงินมาเลี้ยงลูก ไปทำงานรับจ้างรายวัน วันละ 300 บาท ใช้ 2 ชั่วโมงเงินก็หมดแล้ว ทำให้ไม่พอกิน ต่อมามีเจ้าหน้าที่พม.ให้คำแนะนำว่าหากเลี้ยงลูกไม่ไหว หรือไม่มีอาหารกิน ก็ให้มาขอความช่วยเหลือ อย่าไปขโมยของ แต่นางสาวน้ำฝนบอกว่า แจ้งไม่ได้ เพราะไม่ได้มีภูมิลำเนา

ที่จังหวัดอยุธยา  และยืนยันจะเลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง หากพ้นโทษออกมาแล้วจะเป็นคนดีหาเงินเลี้ยงลูกเพราะรักลูกมาก อยากขอโอกาส สังคมจะไม่ขโมยของอีกแล้วที่ทำไปเพราะหมดหนทางจริงๆ


ทีมข่าวของเราลงพื้นที่ บ้านพักของ นางสาวน้ำฝน ตามคำให้การ พบว่าเป็นบ้านพักในพื้นที่ของนายจ้างที่อำเภอ เสนา จ.พระครศรีอยุธยา พบกับ นายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี เป็นพ่อของสามีนางสาวน้ำฝน มีศักดิ์เป็นปู่ เปิดใจว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริง

 แท้จริงแล้วนางสาวน้ำฝนไม่ได้มีลูก เด็กๆ 3 คน อายุ 10 ขวบ 8 ขวบ และ 3 ขวบ ที่ตนดูแล เป็นลูกของอดีตลูกสะใภ้ แฟนเก่าลูกชาย ไม่ใช่ลูกของนางสาวน้ำฝน ซึ่งตนเป็นคนดูแลหลานมาตั้งแต่คลอดทุกคน จากนั้นลูกชายก็เลิกรากับอดีตลูกสะใภ้ไปนานแล้ว จนมาคบกับนางสาวน้ำฝน

ที่นางสาวน้ำฝนกล่าวอ้างว่า ครอบครัวไม่มีกิน ไม่มีเงินซื้ออาหารทำให้เด็กๆต้องกินไข่ต้ม มา 3 วัน ไม่เป็นความจริง ตนดูแลหลานๆเป็นอย่างดี มีอาหารกิน แต่ละวันก็กินไข่ กินปลาทู กินเนื้อสัตว์สลับกันไป ซึ่งตนมีงานทำ มีเงินเดือน และส่งเสียหลานๆเรียนหนังสือ รายจ่ายในครอบครัว เป็นคนดูแลทั้งหมด นางสาวน้ำฝนไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่ได้ลำบากแบบที่นางสาวน้ำฝนบอก

ที่ผ่านมา นางสาวน้ำฝน กับลูกชายไม่ได้อาศัยที่บ้านนี้ จะเทียวไปมา และเวลามาเยี่ยมก็ซื้ออาหารและมาฝากเด็กๆ ก็ไม่รู้ว่าสิ่งของที่นำมานั้นขโมยมาหรือมาจากไหน สิ่งที่นางสาวน้ำฝนกล่าวอ้างว่าขโมยเพื่อจะมาซื้ออาหารให้ลูก ไม่เป็นความจริง และไม่รู้ว่าทำไปเพราะอะไร

ทางด้านการดำเนินคดี เช้าวันนี้ (28 ก.ย.) ตร.นำตัวนางสาวน้ำฝน ส่งอัยการพิจารณาคดี ส่งศาลแขวงพระนครศรีอยุธยาพิจรณาคดีต่อไป ในข้อหาลักทรัพย์ แต่กรณีนี้ทรัพย์สินที่มีจำนวนไม่มาก ศาลจะสอบถามเหตุจูงใจการในการก่อเหตุมาจากอะไร และจะนำมาพิจารณา


ซึ่งคดีลักทรัพย์มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท ทั้งนี้ผู้ต้องไม่มีญาติมาติดต่อไม่มีเงินติดตัว หากศาลสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน และหากผู้ก่อเหตุไม่มีเงินจ่ายก็ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขัง แทนค่าปรับ วันละ 500 บาท ซึ่งจะคิดนับตั้งแต่วันที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่ถูกจับกุมให้นับเป็นวันแรก

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/W44DGLRWV1s