นาทีชีวิต! วัววิ่งชนจักรยานยนต์หวิดดับ กำชับคนดูแลเสี่ยงเกิดอุบัติเข้าข่ายผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ความคืบหน้า กรณีเกิดอุบัติเหตุ นายประหยัด ทองสง่า อายุ 49 ปี ชาวบ้านโนนสังข์ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ขับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าฟีโน กลับจากซื้อนมให้หลาน โดยใช้เส้นทางลัด จากบ้านหัวดอน ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ผ่านโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำก่ำ สำนักงานชลประทานที่ 7 ประตูธรณิศนฤมิต อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

ถึงที่เกิดเหตุประตูทางเข้าโครงการ ได้มีลูกวัวเพศผู้ อายุประมาณ 1 ปี วิ่งข้ามถนนอย่างกระชั้นชิด ชนรถจักรยานยนต์ ผู้เสียหาย ล้มคว่ำ จนได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลกระแทกหลายจุดตามร่างกาย และศีรษะแตกเลือดไหล โชคดีสวมหมวกกันน็อคลดแรงกระแทก ภายหลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ นำตัวส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 22 กันยายน 2565


ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบภาพวงจรปิด บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ก่อนที่จะตรวจสอบ ตามหาเจ้าของวัวดังกล่าว ทราบชื่อ คือ นายพุด แสนทวีสุข อายุ 70 ปี ชาวบ้านหัวดอน ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม ซึ่งมีบ้านใกล้กับที่เกิดเหตุ โดยปล่อยลูกวัวไว้ข้างถนน จนกระทั่งวิ่งตัดหน้ารถจักรยานยนต์ ทำให้เกิดเหตุดัง กล่าว ทั้งนี้ ทางเจ้าของวัว ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ยอมชดเชยเยียวยา และรับซ่อมรถจักรยานยนต์ ของผู้เสียหาย ส่วนวัวไม่ได้รับบาดเจ็บ


โดยผู้เสียหายพอใจไม่ขอแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย ถือว่า เป็นเหตุสุดวิสัย ทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ให้ใช้ความระมัดระวัง ทั้งคนใช้รถใช้ถนน รวมถึงเกษตรกรที่เลี้ยงวัวตามริมถนน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ โค กระบือ ชนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่สัญจรไปมา อาจเข้าข่ายความผิด ทั้งทางแพ่ง และอาญา และต้องชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น


ขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าว เดินทางไปตรวจสอบ ติดตามอาการ ของผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายประหยัด ทองสง่า อายุ 49 ปี อาชีพค้าขาย ชาวบ้านโนนสังข์ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พบว่าอาการดีขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีแผลได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก รวมถึงแผลฟกช้ำ บริเวณขา นอกจากนี้ ยังมีบาดแผลเย็บบริเวณคิ้วซ้าย รวมถึง คาง จำนวน 16 เข็ม ขอบตาฟกช้ำ โชคดีสวมหมวกกันน็อกจึงลดอาการบาดเจ็บรุนแรง


หลังเกิดเหตุมีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ จนกระทั่งทราบว่า เจ้าของวัวมีบ้านอยู่ระแวกใกล้ที่เกิดเหตุ และออกมาแสดงความรับผิดชอบ และมีการชดเชยเยียวยารับผิดชอบ กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งค่าทำขวัญบางส่วน รวมถึงค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยตนไม่ได้เรียกร้อง แต่ทางเจ้าของวัวแสดงความบริสุทธิ์ใจที่จะรับผิดชอบ จึงไม่ได้แจ้งความเอาผิด โชคดีตนปลอดภัย ที่สำคัญฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ทั้งคนใช้รถใช้ถนน รวมถึงเกษตรกรที่เลี้ยง โคกระบือ ริมถนน ควรหาทางป้องกันระมัดระวัง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เพราะบางครั้งอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งดี ที่เจ็บไม่มาก