ราคาน้ำมันตลาดโลกร่วงแรง ลุ้นน้ำมันไทยลดราคาเย็นนี้

ราคาน้ำมันวันนี้ 26 กันยายน 2565 ราคาน้ำมันทุกชนิด กลุ่มเบนซิน, แก๊สโซฮอล์, ดีเซล ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อน โดยราคาหน้าปั้ม ปตท.แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 34.95 บาท/ลิตร / ซูเปอร์พาวเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 40.44 บาท/ลิตร / แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 33.84 บาท/ลิตร / แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 32.24 บาท/ลิตร / แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 34.68 บาท/ลิตร / เบนซิน 95 ราคา 42.36 บาท/ลิตร / ดีเซล B7 ราคา 34.94 บาท/ลิตร / ดีเซลพรีเมี่ยม ราคา 43.66 บาท/ลิตร / ดีเซลหมุนเร็ว B20 ราคา 34.94 บาท/ลิตร / ดีเซล ราคา 34.94 บาท/ลิตร

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 4.75 ดอลลาร์



-ขณะที่ราคาน้ำมันตลาดโลกร่วงเเรง สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 4.75 ดอลลาร์ หรือ 5.7% ปิดที่ 78.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลดลง 4.31 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 86.15 ดอลลาร์/บาร์เรล



ล่าสุด เช้านี้ เวลา 08.30 น.ตามเวลาไทย ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (26 ก.ย.65) ที่ระดับ 37.55 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 37.20-37.80 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.45-37.65 บาทต่อดอลลาร์



สัปดาห์นี้ ตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดอย่างใกล้ชิด ส่วนในฝั่งไทย ไฮไลท์สำคัญ คือ ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พร้อมลุ้นดุลการค้าของไทยในเดือนสิงหาคมที่จะประกาศในวันนี้ อาจขาดดุลน้อยลงจากเดือนก่อนหน้า ส่วนยอดการส่งออกยังโตได้ราว +7%y/y ซึ่งหากดุลการค้าขาดดุลน้อยกว่าคาด อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้าง อย่างไรก็ดี ต้องระวังความผันผวนของเงินบาทในช่วงตลาดรับรู้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเราคาดว่า กนง. อาจขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป 0.25% สู่ระดับ 1.00% เพื่อประคองการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ทว่า อาจมีกรรมการ 1-2 ท่านที่อาจสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 0.50% ด้วยเหตุผล เช่น เพื่อลดแรงกดดันต่อเงินบาทจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และเศรษฐกิจก็มีโมเมนตัมการฟื้นตัวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง



แนวโน้มของค่าเงินบาทยังมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่า ทั้งนี้ ควรระวังแรงขายเงินบาทในช่วงตลาดรับรู้ผลการประชุม กนง. หาก กนง. ยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยหากแรงขายสินทรัพย์ไทยเริ่มลดลงก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้ อนึ่ง ประเมินแนวต้านเงินบาทจะอยู่ในช่วง 37.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากเงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับดังกล่าวจะเปิดโอกาสการอ่อนค่าต่อเนื่องแตะระดับ 38.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ในระยะสั้นนี้