สังคม

เด็ก 15 ร้องถูกหลอกเปิด 'บัญชีม้า-ซิมการ์ด' โดนหมายจับเพียบ - ธปท.สั่งแบงก์ เช็กบัญชีเยาวชนเป็นพิเศษ

โดย nattachat_c

22 ก.ย. 2565

204 views

วานนี้ (21 ก.ย. 65) นางสาวอุไร อายุ 46 ปี พานางสาวอัง (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 15 ปี เข้าร้องเรียน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยนางสาวอัง เผยว่า ตนเองเล่นเฟซบุ๊ก มีกลุ่มเยาวชนเข้ามาตีสนิท ชักชวนพาไปทำงานพาร์ทไทม์ ตนอยากหางานทำ หารายได้พิเศษช่วยเหลือครอบครัว จึงตกลง วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นได้นำบัตรประชาชน พาไปเปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 1 บัญชี และเปิดซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ


จากนั้น รุ่นพี่วัยรุ่นได้เก็บสมุดบัญชีธนาคาร บัตรประจำตัวประชาชน และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือไว้ ไม่บอกว่าจะเอาไปทำอะไร รุ่นพี่บอกเพียงว่า “เก็บไว้ที่พี่ เดี๋ยวเอ็งทำหาย” ซึ่งรุ่นพี่ยึดไปเลยแล้วให้เงิน 300 บาท ให้เอาไปเลี้ยงเพื่อน ก่อนที่จะนำข้อมูลบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีออนไลน์เป็นบัญชีม้า เพิ่มอีก 5 บัญชี ต่อมาไม่นาน ถูกตำรวจออกหมายเรียก 4 จังหวัด


นางสาวอุไร แม่ของนางสาวอัง เผยว่า ตกใจที่ลูกสาวโดนหมายเรียก แรกๆ มีคนติดต่อมาหาว่า เงินที่โอนเข้าบัญชีจำนวนหนึ่งนั้น เป็นเงินโอนมาเพื่อเล่นพนันออนไลน์ ตนคิดว่าลูกสาวอาจโดนหลอกให้เปิดบัญชีม้า จึงพาลูกสาวไปแจ้งความ และไปปิดบัญชีได้เพียง 3 บัญชี อีก 2 บัญชีตำรวจอายัดไว้ ตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารจึงทราบว่า มีการใช้ชื่อของลูกสาว ไปเปิดบัญชีธาคาร 5 บัญชี เมื่อตรวจสอบ Statememt พบมีเงินหมุนเวียนผ่าน 5 บัญชีกว่า 7 ล้านบาท


ตนไม่รู้ว่าคนที่โอนเงินมาเป็นใคร มีการโอนเงินออกจากบัญชีวินาทีต่อวินาที โอนเงินเข้าแล้วโอนออก นอกจากนี้มีตำรวจโทรมาแจ้งว่ามีผู้เสียหายจะมาแจ้งความ เนื่องจากได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารชื่อลูกสาว 62,900 บาท


ตนได้คุยกับผู้เสียหาย เขาบอกว่าโอนเงินมาซื้อของออนไลน์ ตนจึงพาลูกสาวเข้าติดต่อขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพราะคาดว่าหลังจากนี้จะมีหมายเรียกจากสถานีตำรวจตามมาอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ กลัวลูกสาวจะหมดอนาคต.

-------------

อีกเคส นางสาวเก๋ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ทำงานปั๊มน้ำมันถูกเพื่อนที่เคยทำงานร่วมกันหลอกให้เปิดซิมมือถือ อ้างว่าต้องเปิดโปร เจ้าตัวตกลงเปิดโปรซิมมือถือได้เงินซิมละ 100 บาท จึงให้ลูกสาววัย 16 ปี เปิด 6 ซิม ส่วนตนกับสามีเปิดอีก 7 ซิม รวมกันเป็น 13 ซิม ต่อมามีหมายเรียกจากสถานีตำรวจ 11 หมาย 11 จังหวัด เช่น กทม. จ.เชียงใหม่ จ.ภูเก็ต จ.พะเยา จ.พิษณุโลก จ.ระยอง จ.พังงา ตำรวจแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ตนและครอบครัวไม่มีเงินจะเดินทางไป จึงมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ


นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า น่าเป็นห่วงเด็กและเยาวชน เพราะกระบวนการมิจฉาชีพ มุ่งเป้าหลอกเด็กเยาวชน เพราะเข้าถึงง่าย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองตลอดจน กระทรวงศึกษาเตือนภัยเด็กและเยาวชน อย่าหลงเชื่อเปิดบัญชี หรือซิมมือถือโดยเด็ดขาด โดยนางปวีณา จะพาผู้เสียหายทั้ง 2 เคส เข้าพบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.  เพื่อให้ข้อมูลขยายผลติดตามขบวนการเหล่านี้ มาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
-------------

วานนี้ (21 ก.ย. 65) นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีมิจฉาชีพว่าจ้างให้เยาวชนเปิดบัญชีธนาคาร หรือบัญชีม้า จำนวนมากขึ้น โดยอาจจะอาศัยช่องโหว่ โดยปกติธนาคารมีระเบียบการเปิดบัญชีที่กำหนดอายุขั้นต่ำที่สามารถเปิดบัญชีไว้ หากอายุไม่ถึงตามเงื่อนไขจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองและจะต้องให้ผู้ปกครองมาร่วมเปิดบัญชีด้วย


อย่างไรก็ตาม เยาวชนยังสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยตนเองหากอายุเกินขั้นต่ำที่กำหนด ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวถูกจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง อาจไม่เท่าทันเหล่ามิจฉาชีพและอาจตกเป็นเหยื่อได้ ธปท. จึงให้ความสำคัญกับกลุ่มเหล่านี้ โดยได้ให้ ธนาคารติดตามความเคลื่อนไหวธุรกรรมโดยเฉพาะกลุ่มนี้เป็นพิเศษ หากพบธุรกรรมผิดปกติจะต้องดำเนินการตอบสนองโดยเร็ว และมีการจำกัดวงเงินต่อวันในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางโมบายแบงกิ้งตามระดับความเสี่ยงของลูกค้า


ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดวงเงินมาตรฐานสำหรับกลุ่มเยาวชนในการโอนเงินรายจ่ายรายวันสำหรับเยาวชน ซึ่ง ธปท.อยู่ระหว่างหารือกับธนาคาร เพื่อพิจารณากำหนดวงเงินที่เหมาะสมตามความเสี่ยงของกลุ่มต่อไป


นางสาวสิริธิดากล่าวว่า ปัญหาการเปิดบัญชี เพื่อใช้ในการทำทุจริตนั้น หรือที่เรียกว่าบัญชีม้า ธปท.ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด เช่น กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เป็นต้น


รวมถึงสมาคมธนาคารไทย และธนาคารทุกแห่ง แก้ไขปัญหา ตั้งแต่การกำหนดมาตรการป้องกัน ไม่ให้มีเปิดบัญชีไปใช้ในการทำทุจริต การตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะกรณีบัญชีม้า และเมื่อตรวจพบให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและรายงานต่อสำนักงาน ปปง. รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอายัดบัญชีและสบับสนุนข้อมูลสำหรับสืบสวนสอบสวนอย่างทันกาล


“สำหรับสถิติการตรวจจับบัญชีม้ามีเพิ่มขึ้น โดยจะเห็นได้จากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พบว่าจำนวนบัญชีม้าที่ธนาคารส่งให้สำนักงาน ปปง. ตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จาก 6,211 บัญชี ช่วงเดือนพฤษภาคม เป็น 14,369 บัญชี ในเดือนสิงหาคม เนื่องด้วยในช่วงที่ผ่านมา ตำรวจและสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการตรวจจับและกวาดล้างบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง” นางสาวสิริธิดากล่าว

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/bv1Lg3vIDRA

คุณอาจสนใจ

Related News