สังคม
แจ้งรับภารโรงหื่นอนาจาร 2 เด็กหญิง เมาฉวยโอกาสขณะขับรถรับส่ง
โดย taweelap_b
4 ก.ย. 2565
1.1K views
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 65 เวลา 10.00 น. ดร.เกรียงศักดิ์ พิณทุสรศรี ทนายความชื่อดัง พร้อมผู้ปกครองของเด็กหญิง ชั้นป.6 อายุ 12 ขวบ จำนวน 2 ราย เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.สถามน ประเสริฐสุวรรณ สว. (สอบสวน) สภ.บางเสาธง จ.นนทบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิด นายมณเทียน นักการภารโรงของโรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.สมุทรปราการ ในข้อหากระทำอานาจารต่อเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี
นายโต (นามสมมติ) หนึ่งในบิดาของนักเรียนหญิงป.6 ของโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากมีครูประจำชั้นของลูกสาวโทรศัพท์มาแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ฟัง ตนจึงไปพูดคุยกับลูกสาวจนยอมรับว่าถูกนายมณเทียน นักการภารโรงกระทำอนาจารจริง
ในวันเกิดเหตุเป็นวันที่โรงเรียนหยุดเรียนครึ่งวัน ลูกสาวซึ่งต้องนั่งรถรับส่งของภารโรงคนนี้ไปกลับบ้านทุกวัน เนื่องจากเป็นรถรับส่งนักเรียนที่ภารโรงรับจ้างรับส่งนักเรียน วันเกิดเหตุหลังจากเลิกเรียน นักการภาโรงปกติแล้วจะพาเด็ก ๆ ไปส่งตามบ้านที่กำหนดไว้ในเส้นทาง ส่วนลูกสาวของตนจะเป็นคนสุดท้ายที่ลงรถ ในวันเกิดเหตุมีการแวะซื้อเบียร์ดื่มในระหว่างขับรถด้วย จากนั้นก็ตะเวนส่งเด็กคนอื่น ๆ จนเหลือเพียงลูกสาวของตน
กระทั่งจะถึงทางเลี้ยวเข้าบ้าน ภารโรงคนนี้กลับไม่เลี้ยว และขับรถเลยเข้าซอยเปลี่ยวข้างหน้า ก่อนจะลงมือก่อเหตุกระทำอนาจารลูกสาวของตน ทั้งกอด หอมแก้ม จนลูกสาวขัดขืนและโวยวาย ทำให้ต้องพากลับมาส่งบ้าน ซึ่งตอนแรกบุตรสาวไม่กล้าเล่าเรื่องราวดังกล่าวให้พ่อแม่ฟัง จนมีการไปพูดคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ ในรถที่ไปด้วยกันซึ่งจะมีตัวแทนสภานักเรียนรวมอยู่ด้วย และปรากฎว่าไม่ใช่ลูกสาวของตนที่ถูกกระทำคนเดียว เพราะยังมีเด็กนักเรียนหญิงอีกรายที่ขึ้นรถสายเดียวกัน ถูกกระทำอนาจารอีกด้วย ทำให้ตัวแทนสภาพนักเรียนนำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษากับครูประจำชั้นจนเรื่องแดงขึ้นมา
หลังจากนั้นโรงเรียน ผู้บริหารได้มีการเรียกคุยและพยามเจรจาเรื่องราวทั้งหมดให้จบลงภายในโรงเรียน โดยอ้างว่ากลัวจะเสียชื่อเสียงของโรงเรียน ที่ผ่านมาเคยเข้าไปพูดคุยในโรงเรียนแล้วถึง 2 ครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุดมีทั้งตัวแทนท้องถิ่น เทศบาล กำนัน คณะกรรมการศึกษา ผู้ปกครอง เข้าร่วมพูดคุย มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับทางภารโรงคนนี้ ซิ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่าก่อเหตุจริง โรงเรียนจึงให้ออกจากราชการทันที แต่กลับพบว่ายังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายกับภารโรงรายนี้ อีกทั้งยังพบว่าหลังจากเกิดเรื่อง ภารโรงรายนี้ย้อนกลับมาที่โรงเรียนด้วยท่าทีที่เมาสุราและโวยวายข่มขู่ในโรงเรียน จนสร้างความหวาดกลัวให้กับครูในโรงเรียน รวมถึงความปลอดภัยของเด็กและผู้ปกครอง จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี ตอนนี้ยอมรับว่านอกจากจะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังห่วงสภาพจิตใจของลูกสาวมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องจากนิสัยร่าเริง ลูกสาวกลายเป็นคนเงียบ ๆ ซึม ๆ และเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง
ขณะที่แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ลูกสาวของตนถูกภารโรงคนเดียวกันจับมือลูบหน้าผาก แล้วเอ่ยปากถามว่า "เป็นรอบเดือนแล้วหรือยัง" ยิ่งทำให้ตนและพ่อของเด็กตกใจมาก ตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะนี้ยังหวาดกลัวเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากภารโรงคนนี้มักชอบดื่มสุราและยังเคยออกมาโวยวายข่มขู่หลังจากเกิดเรื่อง อีกทั้งยังมีบ้านพักหลังโรงเรียนและรู้บ้านพักของนักเรียนอีกด้วย
ส่วนผู้ปกครองอีกรายที่ออกมาปกป้องเด็กนักเรียนรายนี้ ระบุว่า ตนมีลูกสาวที่เรียนโรงเรียนแห่งนี้เช่นกัน หลังจากเกิดเรื่องก็ทราบว่าโรงเรียนยังนิ่งเฉย ด้วยความเป็นห่วงเด็ก ๆ จนมีการติดต่อสอบถามไปยังผอ.โรงเรียน เพื่อทวงถามความคืบหน้า รวมถึงการเข้าไปเยียวสภาพจิตใจของเด็ก ซึ่งกลับได้รับคำตอบจากผอ.โรงเรียนว่ายังไม่ได้ดำเนินใด ๆ ทำให้ตนต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเด็ก ๆ และเป็นตัวแทนในที่ประชุมของโรงเรียนเพื่อทวงหาความยุติธรรม โดยฝ่ายกลุ่มผู้ปกครองได้ยื่นข้อเสนอไป 3 ข้อในเบื้องต้นเพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ โดยในที่ประชุมวันดังกล่าวยังมีการไกล่เกลี่ยตกลงให้มาร่วมกันทำบันทึกข้อตกลงและลงประจำวันที่โรงพัก แต่ผู้ปกครองและผู้เสียหายยังหวาดกลัวเรื่องความปลอดภัยอีกทั้งเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับนักการภารโรงคนดังกล่าว
ด้านนายธีรยุทธ ปลั่งวิจิตร ผูอ.โรงเรียนคลองเจริษราฎร์ ได้เดินทางมายัง สภ.บางเสาธง พร้อมกับกำนันตำบลบางเสาธง เพื่อจะร่วมพูดคุยหาทางออกและลงบันทึกประจำวันในเรื่องนี้ โดยที่ ผอ.ไม่ทราบเรื่องเลยว่าฝ่ายผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความเอาผิดแล้ว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้อำนวยการ แต่ได้รับการปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลใด ๆ โดยมีสีหน้าเคร่งเครียดทันทีที่เจอนักข่าวและทราบว่ามีการแจ้งความเอาผิด จนกลายเป็นเรื่องราวต่อสื่อมวลชนแล้ว ทางด้าน ผอ.ได้โชว์หลักฐานเอกสารที่ระบุเป็นสำนวน สอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการ ซึ่งมีใจความสอบสวนข้อเท็จจริงกับนักการภารโรง ในสำนวนการสอบสวนระบุการให้ถ้อยคำของนักการภารโรงรายนี้ ยอมรับว่าดื่มสุราจริง ยอมรับว่ามีการถูกเนื้อต้องตัวกับนักเรียนจริง และยังยอมรับอีกว่ามีการพูดคุยต่อหน้านักเรียนในเชิงชู้สาวจริง โดยข้อมูลทั้งหมดยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน อ้างว่าจะเตรียมแถลงข่าวที่โรงเรียนในวันจันทร์นี้ (5 ก.ย.) เวลา 9.00 น. โดยจะมีคณะกรรมการเขตการศึกษา เข้ามาร่วมแถลงข่าวด้วย
ดร.เกรียงศักดิ์ พิณทุสรศรี ทนายความ กล่าวว่า หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากผู้เสียหายทั้งสองรายนี้ ซึ่งทราบว่ามีทั้งแชตที่ภารโรงส่งข้อความเชิงชู้สาวหาเด็ก รวมถึงหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตนมั่นใจจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างแน่นอน เพราะถือว่าเป็นภัยต่อสังคม อีกทั้งเกิดขึ้นในรถรับส่งนักเรียนที่ทางผู้ปกครองไว้ใจมากที่สุด ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกสอบปากคำ และเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนนักการภารโรงคนนี้ จะได้เชิญตัวมาสอบปากคำ หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะออกหมายจับต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง ฉวยโอกาส ,ภารโรงหื่น ,คดีอนาจาร ,อนาจารเด็ก ,นักการภารโรง